ASTVผู้จัดการรายวัน - เผยแบ็กโฮขุดกองข้าวสารเน่า ส่อทำลายหลักฐาน แถมมีเงื่อนงำ "เวียนเทียนข้าว" พบกระสอบถูกผ่าออกก่อนเผาทิ้ง ขณะที่ อ.ต.ก.พิษณุโลก ยังไม่เข้าพื้นที่ อ้างรอคำสั่งผู้ใหญ่ แต่ร่อนหนังสือแจงขายข้าวให้เอกชนแล้ว "กรณ์ "แฉผ่านเฟซบุ๊ค "นิวัฒน์ธำรง" หน้าแหก จีนปฎิเสธสั่งซื้อข้าวจากไทย 1.2 ล้านตันตามที่อ้าง เชื่อหวังกู้เงินเพิ่ม ชาวนาภาคกลางฮึ่ม!ร้องนายกฯ ขยายโครงการจำนำข้าว ถึงต.ค. เหตุกรมชลฯปล่อยน้ำช้า "ปู" วอนอย่าปิดถนน โยนพาณิชย์แจงขายข้าวให้ทางการจีน
วานนี้(16 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีพบข้าวสารบรรจุกระสอบถูกเผาทิ้งที่อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก มีป้ายระบุเป็นขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) 2551 ข้าวนาปรัง 5% และนายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก มีคำสั่งให้ชี้แจงและตรวจสอบนั้น
ล่าสุด นายศิริชัย แท่นหิน หัวหน้าคลังสินค้ากลางอ.ต.ก.จังหวัดพิษณุโลก มีบันทึกข้อความที่ กษ./พิเศษ ลงวันที่ 25 กันยายน 2556 ชี้แจงต่อผู้ว่าราชการจังหวัด โดยสรุปว่า กรณีกองข้าวสารบรรจุกระสอบ (โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2551) ถูกเผาทำลายบริเวณถนนเลียบคลองชลประทาน หมู่ 7 ต.วัดโบสถ์ อ.วัดโบสถ์อ.ต.ก.จังหวัด ได้จ่ายข้าวสารให้ผู้ซื้อตามคำสั่งผู้อำนวยการอ.ต.ก. เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2555 จำนวน 13,000 ตัน ปรากฏว่ามีข้าวสารลูกพื้นกองเปียกน้ำ ประมาณ 1,300 ตันเศษ ผู้ซื้อจึงไม่ได้ขนย้ายออกจากโกดัง ซึ่งข้าวที่เปียกน้ำอยู่ในความรับผิดชอบของบจก.เกษตรไพศาลธัญกิจ(เจ้าของโกดัง) กับผู้ซื้อ
จนต้นเดือนกันยายน 2556 กองข้าวสารดังกล่าวเกิดการระอุ เจ้าของโกดังจึงแจ้งตำรวจและรถดับเพลิงมาดับไฟ และเกรงว่าข้าวสารจะระอุขึ้นมาอีก จึงขนย้ายออกจากโกดัง ไปกองไว้ในที่ดินของตนเองด้านหลังโกดังเลขที่ 77 หมู่ 7 ถนนพิษณุโลก-เด่นชัย อ.วัดโบสถ์ ทำให้เกิดปัญหาข้าวสารส่งกลิ่นเหม็นเน่า และน้ำเสียในนาข้าว ทำให้เข้าใจผิดว่า นำข้าวโครงการรับจำนำมาเผาทิ้งเพื่อกลบเกลื่อนหลักฐาน
ด้านนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนได้อ่านคำชี้แจงของหัวหน้าอ.ต.ก.พิษณุโลก แล้วพบว่าผิดสังเกต กรณีอ้างว่า เคลมประกันก็ต้องเก็บไว้ในโกดัง ส่วนกรณีเผาทำลายทิ้ง คือ ทำลายหลักฐาน ซึ่งเป็นข้อมูลขัดกันเอง ซึ่งตนลงไปตรวจสอบพื้นที่เมื่อเย็นวันที่ 15 กันยายน พบว่ารถแบ็กโฮกำลังขุดตักข้าวที่กองเป็นภูเขา เชื่อว่านี่คือการทำลายหลักฐาน ทั้งที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งให้อ.ต.ก.ไปตรวจสอบ แต่กลับทำลายหลักฐานทิ้ง หากบริสุทธิ์ใจก็ต้องให้หน่วยงานรัฐ ตำรวจ พาณิชญ์ หรืออ.ต.ก.ไปตรวจสอบ
นพ.วรงค์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังพบว่ามีการผ่ากระสอบป่านบรรจุข้าว จึงตั้งข้อสงสัยประเด็นแรก คือ 1.การเวียนเทียนข้าว ลักษณะผ่ากระสอบเอาข้าวที่ร่วมโครงการรัฐออกไป เหลือทิ้งไว้เพียงกระสอบ 2.ข้าวน้ำท่วมหรือข้าวเสียก็ขายทำเงินได้ แต่กลับมีพิรุธผ่าข้าวออกไป บางส่วนนำมาเผาทิ้ง นี่คือการทำลายหลักฐาน ตนไม่รู้ว่ารถแบ็กโฮที่เข้าขุดตักมาจากหน่วยงานใด หรือของโกดังด้านข้าง
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวไพยามยามติดต่อหัวหน้าอ.ต.ก.พิษณุโลก ได้รับการแจ้งว่ายังไม่สามารถลงพื้นที่ได้ ต้องรอผู้ใหญ่สั่งการก่อน ขณะที่จุดพบกองข้าวขาว 5% นาปรังปี 2551 รถแบ็กโฮไม่สามารถขุดตักได้อีก คนงานบอกว่าเครื่องยนต์เสีย กำลังซ่อมอยู่
**ร้องรัฐฯขยายโครงการจำนำข้าวถึงต.ค.
เมื่อเวลา 11.30 น. วานนี้ (16ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มเกษตรกรชาวนาในพื้นที่จังหวัดภาคกลาง ประมาณ 50 คน นำโดยนายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ประธานสภาเกษตรกร จ.ลพบุรี เข้ายื่นหนังสือต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ผ่านนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยขอให้รัฐบาลขยายโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 55/56 รอบที่สอง ออกไปจนถึงสิ้นเดือนต.ค.และขอให้รัฐบาลรับฝากข้าวเปลือกปีการผลิต 56/57 รอบที่หนึ่ง ที่เกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตก่อนวันที่ 1 ต.ค.ไว้ก่อน ซึ่งเกษตรกรเริ่มทำนารอบสองช้ากว่าปกติ เนื่องจากประสบปัญหาภัยแล้ง อีกทั้งกรมชลประทานปล่อยน้ำล่าช้ากว่าปกติ ส่งผลให้ไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้ตามฤดูกาล ซี่งหากรัฐบาลไม่ดำเนินการขยายเวลาตามที่เรียกร้อง จะมีเกษตรกรจำนวนมากที่ได้รับความเดือดร้อน ที่ต้องแบกรับภาระหนี้ เนื่อจากไม่มีผลผลิตไปขายให้พ่อค้า
***"กรณ์"โพสต์FBแฉแหกตาขายข้าวจีน
นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว เรื่อง "ใครโกหก (อีกแล้ว)" ว่า นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ อ้างว่าได้ลงนามสัญญาขายข้าวให้จีนแล้ว 1.2 ล้านตัน แต่ทางสำนักข่าวรอยเตอร์ส กลับรายงานว่า ทางจีน ได้ปฏิเสธ และยืนยันว่ายังไม่มีข้อตกลง แถมชี้แจงอีกต่างหากว่าจีนไม่มีความต้องการข้าวมากถึงขนาดนั้น
เรื่องนี้สำคัญ เพราะรัฐบาลได้มีมติให้กู้เงินเพิ่มอีก 2.7 แสนล้าน เพื่อรองรับฤดูผลิตปี 2556/7 ปัญหาคือ เพดานวงเงินกู้ตามมติ ครม. คือ 5 แสนล้าน ซึ่งปัจจุบันก็กู้เกินเพดานไปแล้ว กระทรวงคลัง จึงบอกว่ากู้เพิ่มไม่ได้ และทางกระทรวงพาณิชย์ ต้องระบายขายข้าวที่มีเพื่อนำรายได้มาหมุนเวียน ดังนั้น ถ้ามีการขายข้าวให้จีนจริง ก็ยังค่อยยังชั่ว แต่ถ้าไม่ได้ขายก็จะเกิดปัญหาทันที
** "ปู"โยนพาณิชย์แจงขายข้าวให้จีน
เมื่อเวลา 11.45 น. วานนี้ (16ก.ย.) ที่มหาวิทยาลัยหอการค้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม
กล่าวว่า ต้องถามก่อนว่านายกรณ์เอาข้อมูลมาจากที่ไหน ข้อเท็จจริงทั้งหมดก็อยู่ที่นายนิวัฒน์ธำรงได้แถลงไป เพราะตามข้อเท็จจริงแล้ว กระทรวงพาณิชย์ได้มีการติดต่อกับทางการจีน จึงไม่ทราบว่านายกรณ์ นำข้อมูลมาจากที่ใด
" รัฐบาลทำทุกช่องทาง ซึ่งล่าสุดมีการเพิ่มช่องทางการระบายมากขึ้น เพราะทางรัฐบาลเองก็ต้องการเห็นการเพิ่มช่องทางต่างๆ มากขึ้น ซึ่ง รมว.พาณิชย์ อยู่ระหว่างการดำเนินการอยู่"
เมื่อถามถึงข้อเรียกร้องของชาวนา ที่ต้องการให้มีการขยายเวลาโครงการรับจำนำข้าวไปจนถึงสิ้นเดือนนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ ไปพูดคุยกับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ส่วนจะขยายเวลาได้หรือไม่ ต้องขอเวลาในการหารือก่อน
“วันนี้ก็ต้องขอความร่วมมือพี่น้องเกษตรกร หากมีปัญหาอะไรฝ่ายรัฐบาลยินดีที่จะลงไปพูดคุย วันนี้อยากให้มาพูดคุยกันมากกว่าที่จะยื่นเงื่อนไขโดยการปิดถนน เพราะจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการสัญจรไป-มา” นายกรัฐมนตรี กล่าว ***พณ.ระบุขายข้าวจีน1.2ล.ตันมีจริง
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานไทยแลนด์ วีค ที่รัสเซียว่า จากการเจรจาที่เมืองฮาร์บิ้น มลฑลเฮยหลงเจียง ประเทศจีน บริษัท Beidahuang ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของจีน ได้ให้ความสนใจที่จะซื้อข้าวขาวในสต็อกรัฐบาลจำนวน 1.2 ล้านตันจริง รวมถึงสนใจที่จะซื้อยางพาราอีก 2 แสนตัน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างสัญญาซื้อขายและเจรจาระหว่างกัน คาดว่าภายใน 2 สัปดาห์นี้ จะมีการลงนามระหว่างกันได้ แต่ยังไม่สรุปจะลงนามกันที่เมืองไทยหรือประเทศจีน ส่วนราคาซื้อขายก็เป็นราคาที่ดี
นายไพจิตร วิบูลย์ธนสาร อัครราชทูต (ฝ่ายการพาณิชย์) สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงปักกิ่ง กล่าวว่า เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา นายนิวัฒน์ธำรง ได้เดินทางมาเยือนจีน และไปเจรจาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ที่เมืองฮาร์บิน โดยทั้ง 2 ฝ่ายได้ตกลงซื้อขายข้าวกัน 1.2 ล้านตัน ส่วนใหญ่เป็นข้าวขาว 5% ได้ตกลงราคาใกล้เคียงกับราคาตลาด คาดว่า ในเร็วๆ นี้ กรมการค้าต่างประเทศ จะเดินทางมาลงนามในสัญญากับฝ่ายจีน มีกำหนดส่งมอบ 3 ล็อตๆ ละราว 3 แสนตัน โดยล็อตแรกจะจะส่งมอบปลายปีนี้ และยังขายยางพาราได้ 2 แสนตัน ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังอีก 3 แสนตัน
วานนี้(16 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีพบข้าวสารบรรจุกระสอบถูกเผาทิ้งที่อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก มีป้ายระบุเป็นขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) 2551 ข้าวนาปรัง 5% และนายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก มีคำสั่งให้ชี้แจงและตรวจสอบนั้น
ล่าสุด นายศิริชัย แท่นหิน หัวหน้าคลังสินค้ากลางอ.ต.ก.จังหวัดพิษณุโลก มีบันทึกข้อความที่ กษ./พิเศษ ลงวันที่ 25 กันยายน 2556 ชี้แจงต่อผู้ว่าราชการจังหวัด โดยสรุปว่า กรณีกองข้าวสารบรรจุกระสอบ (โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2551) ถูกเผาทำลายบริเวณถนนเลียบคลองชลประทาน หมู่ 7 ต.วัดโบสถ์ อ.วัดโบสถ์อ.ต.ก.จังหวัด ได้จ่ายข้าวสารให้ผู้ซื้อตามคำสั่งผู้อำนวยการอ.ต.ก. เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2555 จำนวน 13,000 ตัน ปรากฏว่ามีข้าวสารลูกพื้นกองเปียกน้ำ ประมาณ 1,300 ตันเศษ ผู้ซื้อจึงไม่ได้ขนย้ายออกจากโกดัง ซึ่งข้าวที่เปียกน้ำอยู่ในความรับผิดชอบของบจก.เกษตรไพศาลธัญกิจ(เจ้าของโกดัง) กับผู้ซื้อ
จนต้นเดือนกันยายน 2556 กองข้าวสารดังกล่าวเกิดการระอุ เจ้าของโกดังจึงแจ้งตำรวจและรถดับเพลิงมาดับไฟ และเกรงว่าข้าวสารจะระอุขึ้นมาอีก จึงขนย้ายออกจากโกดัง ไปกองไว้ในที่ดินของตนเองด้านหลังโกดังเลขที่ 77 หมู่ 7 ถนนพิษณุโลก-เด่นชัย อ.วัดโบสถ์ ทำให้เกิดปัญหาข้าวสารส่งกลิ่นเหม็นเน่า และน้ำเสียในนาข้าว ทำให้เข้าใจผิดว่า นำข้าวโครงการรับจำนำมาเผาทิ้งเพื่อกลบเกลื่อนหลักฐาน
ด้านนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนได้อ่านคำชี้แจงของหัวหน้าอ.ต.ก.พิษณุโลก แล้วพบว่าผิดสังเกต กรณีอ้างว่า เคลมประกันก็ต้องเก็บไว้ในโกดัง ส่วนกรณีเผาทำลายทิ้ง คือ ทำลายหลักฐาน ซึ่งเป็นข้อมูลขัดกันเอง ซึ่งตนลงไปตรวจสอบพื้นที่เมื่อเย็นวันที่ 15 กันยายน พบว่ารถแบ็กโฮกำลังขุดตักข้าวที่กองเป็นภูเขา เชื่อว่านี่คือการทำลายหลักฐาน ทั้งที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งให้อ.ต.ก.ไปตรวจสอบ แต่กลับทำลายหลักฐานทิ้ง หากบริสุทธิ์ใจก็ต้องให้หน่วยงานรัฐ ตำรวจ พาณิชญ์ หรืออ.ต.ก.ไปตรวจสอบ
นพ.วรงค์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังพบว่ามีการผ่ากระสอบป่านบรรจุข้าว จึงตั้งข้อสงสัยประเด็นแรก คือ 1.การเวียนเทียนข้าว ลักษณะผ่ากระสอบเอาข้าวที่ร่วมโครงการรัฐออกไป เหลือทิ้งไว้เพียงกระสอบ 2.ข้าวน้ำท่วมหรือข้าวเสียก็ขายทำเงินได้ แต่กลับมีพิรุธผ่าข้าวออกไป บางส่วนนำมาเผาทิ้ง นี่คือการทำลายหลักฐาน ตนไม่รู้ว่ารถแบ็กโฮที่เข้าขุดตักมาจากหน่วยงานใด หรือของโกดังด้านข้าง
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวไพยามยามติดต่อหัวหน้าอ.ต.ก.พิษณุโลก ได้รับการแจ้งว่ายังไม่สามารถลงพื้นที่ได้ ต้องรอผู้ใหญ่สั่งการก่อน ขณะที่จุดพบกองข้าวขาว 5% นาปรังปี 2551 รถแบ็กโฮไม่สามารถขุดตักได้อีก คนงานบอกว่าเครื่องยนต์เสีย กำลังซ่อมอยู่
**ร้องรัฐฯขยายโครงการจำนำข้าวถึงต.ค.
เมื่อเวลา 11.30 น. วานนี้ (16ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มเกษตรกรชาวนาในพื้นที่จังหวัดภาคกลาง ประมาณ 50 คน นำโดยนายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ประธานสภาเกษตรกร จ.ลพบุรี เข้ายื่นหนังสือต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ผ่านนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยขอให้รัฐบาลขยายโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 55/56 รอบที่สอง ออกไปจนถึงสิ้นเดือนต.ค.และขอให้รัฐบาลรับฝากข้าวเปลือกปีการผลิต 56/57 รอบที่หนึ่ง ที่เกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตก่อนวันที่ 1 ต.ค.ไว้ก่อน ซึ่งเกษตรกรเริ่มทำนารอบสองช้ากว่าปกติ เนื่องจากประสบปัญหาภัยแล้ง อีกทั้งกรมชลประทานปล่อยน้ำล่าช้ากว่าปกติ ส่งผลให้ไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้ตามฤดูกาล ซี่งหากรัฐบาลไม่ดำเนินการขยายเวลาตามที่เรียกร้อง จะมีเกษตรกรจำนวนมากที่ได้รับความเดือดร้อน ที่ต้องแบกรับภาระหนี้ เนื่อจากไม่มีผลผลิตไปขายให้พ่อค้า
***"กรณ์"โพสต์FBแฉแหกตาขายข้าวจีน
นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว เรื่อง "ใครโกหก (อีกแล้ว)" ว่า นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ อ้างว่าได้ลงนามสัญญาขายข้าวให้จีนแล้ว 1.2 ล้านตัน แต่ทางสำนักข่าวรอยเตอร์ส กลับรายงานว่า ทางจีน ได้ปฏิเสธ และยืนยันว่ายังไม่มีข้อตกลง แถมชี้แจงอีกต่างหากว่าจีนไม่มีความต้องการข้าวมากถึงขนาดนั้น
เรื่องนี้สำคัญ เพราะรัฐบาลได้มีมติให้กู้เงินเพิ่มอีก 2.7 แสนล้าน เพื่อรองรับฤดูผลิตปี 2556/7 ปัญหาคือ เพดานวงเงินกู้ตามมติ ครม. คือ 5 แสนล้าน ซึ่งปัจจุบันก็กู้เกินเพดานไปแล้ว กระทรวงคลัง จึงบอกว่ากู้เพิ่มไม่ได้ และทางกระทรวงพาณิชย์ ต้องระบายขายข้าวที่มีเพื่อนำรายได้มาหมุนเวียน ดังนั้น ถ้ามีการขายข้าวให้จีนจริง ก็ยังค่อยยังชั่ว แต่ถ้าไม่ได้ขายก็จะเกิดปัญหาทันที
** "ปู"โยนพาณิชย์แจงขายข้าวให้จีน
เมื่อเวลา 11.45 น. วานนี้ (16ก.ย.) ที่มหาวิทยาลัยหอการค้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม
กล่าวว่า ต้องถามก่อนว่านายกรณ์เอาข้อมูลมาจากที่ไหน ข้อเท็จจริงทั้งหมดก็อยู่ที่นายนิวัฒน์ธำรงได้แถลงไป เพราะตามข้อเท็จจริงแล้ว กระทรวงพาณิชย์ได้มีการติดต่อกับทางการจีน จึงไม่ทราบว่านายกรณ์ นำข้อมูลมาจากที่ใด
" รัฐบาลทำทุกช่องทาง ซึ่งล่าสุดมีการเพิ่มช่องทางการระบายมากขึ้น เพราะทางรัฐบาลเองก็ต้องการเห็นการเพิ่มช่องทางต่างๆ มากขึ้น ซึ่ง รมว.พาณิชย์ อยู่ระหว่างการดำเนินการอยู่"
เมื่อถามถึงข้อเรียกร้องของชาวนา ที่ต้องการให้มีการขยายเวลาโครงการรับจำนำข้าวไปจนถึงสิ้นเดือนนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ ไปพูดคุยกับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ส่วนจะขยายเวลาได้หรือไม่ ต้องขอเวลาในการหารือก่อน
“วันนี้ก็ต้องขอความร่วมมือพี่น้องเกษตรกร หากมีปัญหาอะไรฝ่ายรัฐบาลยินดีที่จะลงไปพูดคุย วันนี้อยากให้มาพูดคุยกันมากกว่าที่จะยื่นเงื่อนไขโดยการปิดถนน เพราะจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการสัญจรไป-มา” นายกรัฐมนตรี กล่าว ***พณ.ระบุขายข้าวจีน1.2ล.ตันมีจริง
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานไทยแลนด์ วีค ที่รัสเซียว่า จากการเจรจาที่เมืองฮาร์บิ้น มลฑลเฮยหลงเจียง ประเทศจีน บริษัท Beidahuang ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของจีน ได้ให้ความสนใจที่จะซื้อข้าวขาวในสต็อกรัฐบาลจำนวน 1.2 ล้านตันจริง รวมถึงสนใจที่จะซื้อยางพาราอีก 2 แสนตัน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างสัญญาซื้อขายและเจรจาระหว่างกัน คาดว่าภายใน 2 สัปดาห์นี้ จะมีการลงนามระหว่างกันได้ แต่ยังไม่สรุปจะลงนามกันที่เมืองไทยหรือประเทศจีน ส่วนราคาซื้อขายก็เป็นราคาที่ดี
นายไพจิตร วิบูลย์ธนสาร อัครราชทูต (ฝ่ายการพาณิชย์) สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงปักกิ่ง กล่าวว่า เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา นายนิวัฒน์ธำรง ได้เดินทางมาเยือนจีน และไปเจรจาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ที่เมืองฮาร์บิน โดยทั้ง 2 ฝ่ายได้ตกลงซื้อขายข้าวกัน 1.2 ล้านตัน ส่วนใหญ่เป็นข้าวขาว 5% ได้ตกลงราคาใกล้เคียงกับราคาตลาด คาดว่า ในเร็วๆ นี้ กรมการค้าต่างประเทศ จะเดินทางมาลงนามในสัญญากับฝ่ายจีน มีกำหนดส่งมอบ 3 ล็อตๆ ละราว 3 แสนตัน โดยล็อตแรกจะจะส่งมอบปลายปีนี้ และยังขายยางพาราได้ 2 แสนตัน ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังอีก 3 แสนตัน