พิษณุโลก - เผยแบ็กโฮขุดกองข้าวสารเน่าวัดโบสถ์ส่อทำลายหลักฐาน แถมมีเงื่อนงำ “เวียนเทียนข้าว” พบกระสอบข้าวถูกผ่าออกก่อนเผาทิ้ง ขณะที่ “อ.ต.ก.-พิษณุโลก” ยังไม่เข้าพื้นที่ อ้างรอคำสั่งผู้ใหญ่ แต่ร่อนหนังสือแจงจ่ายข้าวให้เอกชนแล้ว ส่วนโกดังข้างๆ ปิดเงียบแม้เป็นวันเริ่มต้นทำงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีพบข้าวสารบรรจุกระสอบถูกเผาทิ้งไว้ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก โดยมีป้ายระบุเป็นของ อ.ต.ก.2551 ข้าวนาปรัง 5% และนายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก มีคำสั่งให้ชี้แจง และตรวจสอบ ล่าสุด นายศิริชัย แท่นหิน หัวหน้าคลังสินค้ากลาง อ.ต.ก.จังหวัดพิษณุโลก ได้มีบันทึกข้อความที่ กษ./พิเศษ - ชี้แจงกรณีมีข่าวเผาข้าวสารโครงการรับจำนำนาปรังปี 2551 ของ อ.ต.ก.ลงวันที่ 15 ก.ย.56 เสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัด
ระบุเนื้อหาโดยสรุปว่า กองข้าวสารบรรสุกระสอบ (โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2551) ถูกเผาทำลายบริเวณถนนเลียบคลองชลประทาน หมู่ 7 ต.วัดโบสถ์ อ.วัดโบสถ์ อ.ต.ก.จังหวัดฯ ได้จ่ายข้าวสารให้ผู้ซื้อตามคำสั่ง ผอ.อ.ต.ก. เมื่อวันที่ 24 ต.ค.55 จำนวน 13,000 ตัน (โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2551) ปรากฏว่า มีข้าวสารลูกพื้นกองเปียกน้ำทั้งหมดประมาณ 1,300 ตันเศษ ผู้ซื้อจึงไม่ได้ขนย้ายข้าวสารออกจากโกดัง ซึ่งข้าวที่เปียกน้ำดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของ บจก.เกษตรไพศาลธัญกิจ (เจ้าของโกดัง) กับผู้ซื้อ
จนกระทั่งต้นเดือนกันยายน 2556 ข้าวสารดังกล่าวเกิดการระอุ เจ้าของโกดังจึงแจ้ง จนท.ตำรวจ และรถดับเพลิงมาดับไฟ และเกรงว่า ข้าวสารดังกล่าวจะระอุขึ้นมาอีก จึงขนย้ายออกจากโกดังไปกองไว้ในที่ดินของตนเองด้านหลังโกดังเลขที่ 77 หมู่ 7 ถนนพิษณุโลก-เด่นชัย อ.วัดโบสถ์ จึงทำให้เกิดปัญหาข้าวสารส่งกลิ่นเหม็นเน่า และเกิดน้ำเสียในนาข้าวของชาวบ้าน และก่อให้เกิดความเข้าใจผิดว่า นำข้าวโครงการรับจำนำมาเผาทิ้งเพื่อกลบเกลื่อนหลักฐาน
ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ตนได้อ่านคำชี้แจงลายลักษณ์อักษรของหัวหน้า อ.ต.ก.พิษณุโลก แล้ว พบว่าผิดสังเกต กรณีอ้างว่า เคลมประกันก็ต้องเก็บไว้ในโกดัง ส่วนกรณีเผาทำลายทิ้ง คือ ทำลายหลักฐาน เป็นข้อมูลขัดกันเอง
ซึ่งตนลงไปตรวจสอบในพื้นที่อีกครั้งเมื่อเย็นวานนี้ (15 ก.ย.) พบว่า มีแบ็กโฮกำลังขุดตักข้าวที่เผาทิ้งที่กองเป็นภูเขาบริเวณจุดเดิม ตนเชื่อว่านี่คือ การทำลายหลักฐาน ทั้งๆ ที่หนังสือจากทางราชการที่ผู้ว่าฯ ก็สั่งให้หน่วยงาน อ.ต.ก.ลงไปตรวจสอบ แต่กลับมีการทำลายหลักฐานทิ้ง หากบริสุทธิ์ใจก็ต้องให้หน่วยงานรัฐ ตำรวจ หรือพาณิชย์ หรือ อ.ต.ก.ลงไปตรวจสอบ
นพ.วรงค์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ เมื่อตรวจสอบเพิ่มก็พบว่า กระสอบป่านบรรจุข้าวในกองยังมีการผ่าออก ตนจึงตั้งข้อสงสัยประเด็นแรก คือ 1.การเวียนเทียนข้าว ลักษณะผ่ากระสอบเอาข้าวที่ร่วมโครงการรัฐออกไป เหลือทิ้งไว้เพียงกระสอบ เพราะไปดูในพื้นที่อย่างละเอียดแล้วก็พบร่องรอยการผ่ากระสอบข้าวออก
2.ข้าวน้ำท่วม หรือข้าวเสียอย่างไรก็ต้องขายทำเงินได้ แต่กลับมีพิรุธผ่าข้าวออกไป บางส่วนก็นำมาเผาทิ้ง นี่คือการทำลายหลักฐาน และเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็วผิดปกติ ตนไม่รู้ว่ารถแบ็กโฮที่เข้าขุดตักมาจากหน่วยงานใด หรือของโกดังโรงสีข้าวด้านข้าง
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้พยามยามติดต่อหัวหน้า อ.ต.ก.พิษณุโลก ได้รับการแจ้งว่ายังไม่สามารถลงไปในพื้นที่ได้ ต้องรอผู้ใหญ่เบื้องบนก่อน ขณะที่จุดที่พบกองข้าวขาวน 5 เปอร์เซ็นต์ นาปรังปี 51 เผาทิ้งนั้น แบ็กโฮไม่สามารถขุดตักได้อีก พนักงานคนงานบอกว่า เครื่องยนต์แบ็กโฮเสีย กำลังซ่อมอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ
ส่วนโกดังโรงสีข้าวเกษตรไพศาลธัญกิจ บริเวณหน้ากองข้าวยังปิดทำการ แม้เป็นวันจันทร์ ซึ่งวันทำการ