“พาณิชย์” จัดงานตอกย้ำข้าวไทยไร้สารพิษ พร้อมเดินสายขายต่างประเทศ

“พาณิชย์” จัดงานข้าวไทยไร้สารพิษ ตอกย้ำข้าวไทยปลอดภัย “นิวัฒน์ธำรง” มั่นใจลูกค้าเชื่อมั่นคุณภาพข้าวไทยมากขึ้น เตรียมเดินสายขายจีน อินโดนีเซีย อิรักเพิ่ม ส่วนการเปิดประมูลซื้อขายข้าวได้กว่า 1 หมื่นตัน มูลค่า 166 ล้านบาท

นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเปิดงาน “มหกรรมข้าวไทย ไร้สารพิษ เพื่อคนไทยและชาวโลก” ณ บริเวณท่าข้าวกำนันทรง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2556 ว่า เป็นการยืนยันว่าข้าวไทยเป็นข้าวที่มีคุณภาพ และเป็นที่ยอมรับของสากล ซึ่งต่างประเทศที่ยอมซื้อข้าวไทยในราคาที่แพงกว่าของคู่แข่งเพราะเขามั่นใจว่าปลอดภัย ไร้สารพิษ

“ถ้าในประเทศไม่เชื่อมั่นในคุณภาพข้าวไทย ต่างประเทศที่เขาเชื่อมั่นอยู่แล้วก็จะไม่เชื่อมั่นไปด้วย อย่างตอนที่ไปขายข้าวที่อิหร่านเขาก็มีการติติงมาว่าการที่มีการกล่าวหาว่าข้าวไทยมีสารพิษเป็นสิ่งที่ไม่ดีเลย ซึ่งเชื่อว่าหลังการจัดงานนี้จะทำให้ข้าวไทยเป็นที่เชื่อมั่นมากขึ้นตามลำดับ” นายนิวัฒน์ธำรงกล่าว

ทั้งนี้ ยอมรับว่าข่าวข้าวไทยปนเปื้อนสารพิษในช่วงที่ผ่านมาทำให้ข้าวไทยถูกต่อรองราคา และขายได้ยากขึ้น แต่จากที่รัฐบาลได้มีการชี้แจงและดำเนินการป้องกันและปราบปรามการปนเปื้อนสารพิษ ต่างชาติมีความมั่นใจมากขึ้น ซึ่งทั้งอิรัก จีน อินโดนีเซีย และประเทศอื่นๆ มีความต้องการซื้อข้าวไทยมากขึ้น และรัฐบาลจะเดินทางไปเจรจาขายข้าวกับประเทศเหล่านี้เพิ่มขึ้น

นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า สำหรับราคาจำนำข้าวฤดูกาลใหม่ ปี 2556/57 ที่ชาวนาต้องการตันละ 1.5 หมื่นบาทนั้นรัฐบาลยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งจะมีการหารือและให้ได้ข้อสรุปภายใน 2 สัปดาห์จากนี้ โดยการรับจำนำเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการยกระดับราคาข้าวเพื่อให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยแต่ละปีรัฐบาลตั้งเป้าว่าจะใช้เงินไม่เกินฤดูกาลละ 3 แสนล้านบาทในการรับจำนำ และจะขาดทุนไม่ควรเกินรอบละ 1 แสนล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดงานครั้งนี้ได้มีการประกาศปฏิญญาว่าด้วยความร่วมมือเพื่อป้องกันและส่งเสริมให้ข้าวไทยปลอดภัยไร้สารพิษ ดังนี้ 1. จะร่วมกันปกป้องข้าวไทยให้ปลอดภัยไร้สารพิษ 2. จะร่วมกันพัฒนาและยกระดับมาตรฐานและคุณภาพข้าวไทย และ 3. จะเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกัน กำกับดูแล ปราบปราม ตรวจสอบทุกขั้นตอน

นอกจากนี้ยังมีการประมูลซื้อขายข้าวสาร โดยสามารถจับคู่ซื้อขายได้ 5 คู่ ปริมาณรวม 1.05 หมื่นตัน รวมมูลค่า 166.75 ล้านบาท เป็นข้าวนึ่ง 5 พันตัน ข้าวหอมมะลินครสวรรค์ 500 ตัน ข้าวขาว 5% 5 พันตัน