"มัดแมน" กางแผน 5ปี ทุ่ม 100ล้านบาท ปลุกชีพ "บาสกิ้น รอบบิ้นส์" เดินหน้าขยายปีละ 6 สาขา เชื่อ100สาขาอยู่ใกล้แค่เอื้อม หลังพบ1ปีที่ผ่านมาลูกค้าตอบรับดีเพิ่มขึ้นกว่า 25% ส่วนภาพรวมรายได้ปีนี้ไปไม่ถึงฝัน เหตุกำลังซื้อหดตัว คาดโต 5% แตะ 1,500 ล้านบาท
นายมาร์ค ดาซิลวา ผู้อำนวยการ บาสกิ้น รอบบิ้นส์ ในเซาส์อีสเอเชีย เปิดเผยว่า ปัจจุบันบาสกิ้น รอบบิ้นส์มีจำนวนสาขาในเอเชียรวมกว่า 2,500 สาขา จากทั้งหมด 7,000 สาขาทั่วโลก โดยเอเชียถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ในไทยปัจจุบันถึงแม้จะมีจำนวนสาขาน้อยอยู่มาก และนิ่งมา 1-2ปี แต่เชื่อว่าจะสามารถขยายได้ถึง 100 สาขาในอนาคตอันใกล้ได้ไม่ยาก เนื่องจากบาสกิ้นฯเคยอยู่ในไทยมากว่า 15 ปี ผู้บริโภครู้จักเป็นอย่างดี อีกทั้งประเทศไทยถือเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้ามาเที่ยวสูงมาก จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่มั่นใจว่า การกลับมารุกตลาดในไทยครั้งนี้จะมีโอกาสเติบโตสูง จากปัจจุบันไทยถือเป็นประทศอันดับท้ายๆในเอเชีย โดยในเกาหลีและญี่ปุ่น มีจำนวนสาขากว่า 1,00 สาขาในแต่ละประเทศ มาเลเซีย 60 สาขา เวียดนาม 15 สาขา
ด้านนายนาดิม ซาเวียร์ ซาลฮานี่ กรรมการบริหาร บริษัท มัดแมน จำกัด ในเครือทรัพย์ศรีไทย ดูแลธุรกิจอาหาร 3 แบรนด์ คือ ดังกิ้นโดนัท, โอปองแปง และบาสกิ้น รอบบิ้นส์ กล่าวว่า บริษัทได้สิทธ์แฟรนไชส์ซีบริหารไอศกรีมบาสกิ้น รอบบิ้นส์ เป็นรายที่3 ตั้งแต่ ก.ค 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมา ได้เปลี่ยนแปลงระบบการจัดการภายในและรูปแบบการดำเนินธุรกิจใหม่ เน้นการนำเข้าวัตถุดิบทั้งหมดจากต่างประเทศ นำรสชาติใหม่ๆเข้ามาให้บริการรวมกว่า 31รสชาติ ขณะที่ปัจจุบันมีจำนวนสาขารวมกว่า 21สาขา ทั้งในกรุงเทพฯและหัวเมืองจังหวัดใหญ่ อย่าง ภูเก็ต ระยอง และพัทยา เป็นต้น
ทั้งนี้ตามแผนการดำเนินงาน 5 ปีหลังจากนี้ จะเน้นขยายสาขาปีละไม่ต่ำกว่า 6 สาขาต่อปี ต่อสาขาลงทุน 2.5-3 ล้านบาท หรือภายใน 5 ปีหลังจากนี้จะมีจำนวนสาขาเปิดใหม่ไม่ต่ำกว่า 35 สาขา และใช้งบลงทุนรวมราว 90-100 ล้านบาท ส่วนงบการตลาดนั้นจะใช้อยู่ที่ 5% ของยอดขายแต่ละปี ทั้งนี้เชื่อว่าในปีหน้ารายได้ของบาสกิ้นฯจะเติบโตได้ถึงปีละไม่ต่ำกว่า 20% ได้ จากปีนี้พบการตอบรับที่ดีจากลูกค้า หรือมีลูกค้าเพิ่มขึ้นกว่า 25% กับกลุ่มเป้าหมายหลักคือ ระดับบีบวกขึ้นไป ทั้งกลุ่มวัยรุ่นและครอบครัว ถึงแม้จะมีการปรับราคาขึ้นจากการที่ต้องนำเข้าวัตถุดิบทั้งหมดก็ตาม
ปัจจุบันตลาดรวมไอศกรีมในไทยมีมูลค่าราว 15,000 ล้านบาท โตปีละ 10-15% แบ่งออกเป็น3 กลุ่มหลักคือ พรีเมี่ยม 30-33% และอีกราว 70% มาจากกลุ่มแมสและสแตนดาร์ดในอัตราส่วนเท่าๆกัน ซึ่งในปีนี้มองว่าตลาดเติบโตได้จากกลุ่มแมสที่ทำตลาดอย่างหนัก รวมถึงมีแบรนด์ใหม่ๆเข้ามาในตลาดหลายแบรนด์
นายดานิม กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามสำหรับภาพรวมรายได้ของมัดแมน เดิมตั้งเป้าเติบโตที่ 15% แต่9เดือนที่ผ่านมาทำได้แค่ 5% เนื่องจากกำลังซื้อหดตัว ถึงสิ้นปีนี้จึงมองว่าจะโตที่ 5% เช่นกัน โดยการเติบโตหลักๆมาจากแบรนด์โอปองแปง ที่ผู้บริโภคให้การยอมรับมากขึ้น และมีการขยายสาขาต่อเนื่อง หรือในสิ้นปีนี้จะมีรายได้รวมที่ 1,500 ล้านบาท มาจากดังกิ้นโดนัท 60% โอปองแปง 35% และบาสกิ้นรอบบิ้นส์ 5% ส่วนในปีหน้ากำลังพิจารณาจะเพิ่มแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มเพิ่มอีก 1แบรนด์