ASTVผู้จัดการรายวัน-ดีเอสไอพร้อมด้วย ปปง. จับมือกัน ขอหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านประธานกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น สมัยที่ 27 จำนวน 7 จุด ฐานยักยอกเงินสหกรณ์ฯ พร้อมมอายัดที่ดินกว่า 300 แปลงมูลค่านับพันล้านบาท ด้านเจ้าตัวอ้างถูกกลั่นแกล้ง
เมื่อเวลา 10.30 น.วานนี้ (10 ก.ค.) เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) โดยการนำของนายกิติก้อง คณาจันทร์ ผอ.ศูนย์ปราบปรามคดีฟอกเงินและยาเสพติด ดีเอสไอ พ.ต.อ.ปสพกรณ์ โพธิสุข ผอ.กองคดี 1 ปปง. และนายนพดล อุเทน ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการงานคดี 1 ปปง. ได้สนธิกำลังนำหมายค้นจากศาลอาญาเลขที่ 258/2556 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 118/23-24 ม.บ้านสวยริมธาร แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบ้านของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด สมัยที่ 27
สืบเนื่องจาก นายปฎิพันธ์ จันทรภูติ อดีตที่ปรึกษาสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด นำตัวแทนสมาชิกสหกรณ์ฯ ประมาณ 10 คน นำเอกสารหลักฐานการตรวจสอบของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์และเอกสารที่เกี่ยวข้องจำนวน 2 ลัง ร้องต่อดีเอสไอเพื่อขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมนายศุภชัยกับพวก เนื่องจากพบการเบิกจ่ายเงินผิดปกติ เข้าข่ายขัดข้อบังคับของสหกรณ์ มูลค่าความเสียหายกว่า 12,000 ล้านบาทในปี 2552 และ 2555
นายกิติก้อง กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า นายศุภชัยกับพวกรวม 6 คน ซึ่งอยู่ในระดับกรรมการและพนักงานมีพฤติกรรมยักยอกเงิน โดยการนำเงินไปลงทุนในธุรกิจส่วนตัวที่ไม่ก่อให้เกิดกำไรมาตั้งแต่ปี 2550 เข้าข่ายการกระทำความผิดฐานยักยอกตามกฎหมายอาญาอันเป็นปกติธุระ โดยจากการตรวจสอบพบว่านายศุภชัย จะทำการเบิกเงินออกจากบัญชีสหกรณ์ครั้งละ 100-1,000 ล้านบาท ซึ่งกระทำเช่นนี้นับ 100 ครั้ง รวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นกว่า 12,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ยังอยู่ระหว่างการขยายผลยึดทรัพย์เพิ่มเติม ซึ่งหลังจากนี้ จะแจ้งข้อกล่าวหานายศุภชัยกับพวกรวม 6 คน ในฐานยักยอกตามกฎหมายอาญาอันเป็นปกติธุระ และจะเรียกผู้เสียหายที่ร้องมาทางดีเอสไอ 100 กว่ารายเข้าสอบปากคำต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทางดีเอสไอได้รับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษแล้ว ดังนั้น หากพบว่ามีผู้ใดช่วยเหลือยักย้าย ถ่ายโอนทรัพย์สิน ก็จะเข้าข่ายผู้ร่วมกระทำความผิดฐานฟอกเงิน รวมถึงหากผู้ใดข่มขู่พยานจะถูกดำเนินคดีจนถึงที่สุด เพราะพยานอยู่ในความคุ้มครองของดีเอสไอแล้ว
ด้านนายนพดล กล่าวว่า ปปง.ได้นำหมายศาลค้น 7 จุด คือ บ้านพักของนายศุภชัยที่หมู่บ้านสวยริมธาร บ้านพักที่แฟลตเคหะคลองจั่นชั้น 7ห้องหมายเลข4 และ5 รวมทั้งที่ทำการสำนักงานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น อาคารยูทาวเวอร์ ถ.ศรีนครินทร์ ตลอดจนบ้านพักของกรรมการและพนักงานบางส่วนที่เกี่ยวข้องอีก 3จุด
โดย ปปง.ได้ทำการอายัดที่ดินในจ.กาญจนบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา และจ.นครราชสีมา จำนวนรวม 300 กว่าแปลง มีมูลค่านับพันล้านบาท เพราะบางแปลงราคาสูง 90-100ล้านบาท ซึ่งปปง.มีเลขที่โฉนดที่ดินทั้งหมดแล้ว รถยนต์ 10 คัน รวมทั้งเงินจำนวนกว่า1ล้านบาท ที่อยู่ในสมุดบัญชีธนาคาร 9 เล่ม
ขณะที่นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น กล่าวว่า กรณีนี้เป็นการถูกกลั่นแกล้ง เริ่มจากเหตุความขัดแย้ง 3เดือนก่อนหน้านี้ โดยตนขอยืนยันความบริสุทธิ์ว่าตั้งแต่ปี 2551-2555ได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง สามารถให้ตรวจสอบได้ โดยในการเบิกจ่ายเงินสหกรณ์ฯ นั้น จะต้องมีลายเซ็นต์ของตนและเหรัญญิก 2คน จึงสามารถเบิกเงินธนาคารได้ และขอให้ผู้บริหารชุดเดิมนำเอกสารของสกรณ์มาคืนเพื่อที่ตนจะได้ตรวจสอบต่อไป
เมื่อเวลา 10.30 น.วานนี้ (10 ก.ค.) เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) โดยการนำของนายกิติก้อง คณาจันทร์ ผอ.ศูนย์ปราบปรามคดีฟอกเงินและยาเสพติด ดีเอสไอ พ.ต.อ.ปสพกรณ์ โพธิสุข ผอ.กองคดี 1 ปปง. และนายนพดล อุเทน ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการงานคดี 1 ปปง. ได้สนธิกำลังนำหมายค้นจากศาลอาญาเลขที่ 258/2556 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 118/23-24 ม.บ้านสวยริมธาร แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบ้านของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด สมัยที่ 27
สืบเนื่องจาก นายปฎิพันธ์ จันทรภูติ อดีตที่ปรึกษาสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด นำตัวแทนสมาชิกสหกรณ์ฯ ประมาณ 10 คน นำเอกสารหลักฐานการตรวจสอบของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์และเอกสารที่เกี่ยวข้องจำนวน 2 ลัง ร้องต่อดีเอสไอเพื่อขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมนายศุภชัยกับพวก เนื่องจากพบการเบิกจ่ายเงินผิดปกติ เข้าข่ายขัดข้อบังคับของสหกรณ์ มูลค่าความเสียหายกว่า 12,000 ล้านบาทในปี 2552 และ 2555
นายกิติก้อง กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า นายศุภชัยกับพวกรวม 6 คน ซึ่งอยู่ในระดับกรรมการและพนักงานมีพฤติกรรมยักยอกเงิน โดยการนำเงินไปลงทุนในธุรกิจส่วนตัวที่ไม่ก่อให้เกิดกำไรมาตั้งแต่ปี 2550 เข้าข่ายการกระทำความผิดฐานยักยอกตามกฎหมายอาญาอันเป็นปกติธุระ โดยจากการตรวจสอบพบว่านายศุภชัย จะทำการเบิกเงินออกจากบัญชีสหกรณ์ครั้งละ 100-1,000 ล้านบาท ซึ่งกระทำเช่นนี้นับ 100 ครั้ง รวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นกว่า 12,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ยังอยู่ระหว่างการขยายผลยึดทรัพย์เพิ่มเติม ซึ่งหลังจากนี้ จะแจ้งข้อกล่าวหานายศุภชัยกับพวกรวม 6 คน ในฐานยักยอกตามกฎหมายอาญาอันเป็นปกติธุระ และจะเรียกผู้เสียหายที่ร้องมาทางดีเอสไอ 100 กว่ารายเข้าสอบปากคำต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทางดีเอสไอได้รับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษแล้ว ดังนั้น หากพบว่ามีผู้ใดช่วยเหลือยักย้าย ถ่ายโอนทรัพย์สิน ก็จะเข้าข่ายผู้ร่วมกระทำความผิดฐานฟอกเงิน รวมถึงหากผู้ใดข่มขู่พยานจะถูกดำเนินคดีจนถึงที่สุด เพราะพยานอยู่ในความคุ้มครองของดีเอสไอแล้ว
ด้านนายนพดล กล่าวว่า ปปง.ได้นำหมายศาลค้น 7 จุด คือ บ้านพักของนายศุภชัยที่หมู่บ้านสวยริมธาร บ้านพักที่แฟลตเคหะคลองจั่นชั้น 7ห้องหมายเลข4 และ5 รวมทั้งที่ทำการสำนักงานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น อาคารยูทาวเวอร์ ถ.ศรีนครินทร์ ตลอดจนบ้านพักของกรรมการและพนักงานบางส่วนที่เกี่ยวข้องอีก 3จุด
โดย ปปง.ได้ทำการอายัดที่ดินในจ.กาญจนบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา และจ.นครราชสีมา จำนวนรวม 300 กว่าแปลง มีมูลค่านับพันล้านบาท เพราะบางแปลงราคาสูง 90-100ล้านบาท ซึ่งปปง.มีเลขที่โฉนดที่ดินทั้งหมดแล้ว รถยนต์ 10 คัน รวมทั้งเงินจำนวนกว่า1ล้านบาท ที่อยู่ในสมุดบัญชีธนาคาร 9 เล่ม
ขณะที่นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น กล่าวว่า กรณีนี้เป็นการถูกกลั่นแกล้ง เริ่มจากเหตุความขัดแย้ง 3เดือนก่อนหน้านี้ โดยตนขอยืนยันความบริสุทธิ์ว่าตั้งแต่ปี 2551-2555ได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง สามารถให้ตรวจสอบได้ โดยในการเบิกจ่ายเงินสหกรณ์ฯ นั้น จะต้องมีลายเซ็นต์ของตนและเหรัญญิก 2คน จึงสามารถเบิกเงินธนาคารได้ และขอให้ผู้บริหารชุดเดิมนำเอกสารของสกรณ์มาคืนเพื่อที่ตนจะได้ตรวจสอบต่อไป
