ดีเอสไอจ่อเรียกผู้บริหารสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน 4 ราย รับทราบข้อกล่าวหายักยอกทรัพย์กว่า 1.2 หมื่นล้านบาท
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 24 ก.ค.นายเผด็จ มุ่งธัญญา ประธานเครือข่ายสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่ประสบปัญหา เดินทางเข้าพบ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ รองอธิบดีดีเอสไอ และนายกิติก้อง คณาจันทร์ ผอ.ศูนย์ปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด ดีเอสไอ เพื่อให้กำลังใจในการดำเนินการสอบสวนคดียักยอกเงินสหกรณ์ฯมูลค่ากว่า 1.2 หมื่นล้านบาท
นายธาริต กล่าวว่า การดำเนินการเพื่อให้ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานคณะกรรมการสหกรณ์เครดิตฯ พักการปฏิบัติหน้าที่หรือพ้นจากตำแหน่งนั้นไม่ใช่หน้าที่ของดีเอสไอ แต่ดีเอสไอจะประสานเรื่องนี้ โดยภายในวันศุกร์ (26 ก.ค.) นี้ จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาและจะมีหนังสือแจ้งไปยังกรมส่งเสริมสหกรณ์เพื่อดำเนินการให้พ้นจากสภาพ ทั้งนี้ทางดีเอสไอจะดำเนินคดีเป็นรายบุคคล ไม่ใช่ดำเนินคดีกับสหกรณ์ฯ เพราะฉะนั้นสหกรณ์ฯยังคงมีความมั่งคงและน่าเชื่อถือทุกอย่างในตัวนิติบุคคล และตัวองค์กร จึงอยากเรียนสมาชิกจำนวนกว่า 50,000 ราย ว่าอย่าตกใจ และสหกรณ์ฯดังกล่าวไม่ล้มแน่นอน แต่เราจะจัดการกับคนผิด และนำเงินที่ไซฟอนไปกลับมาคืน
นายเผด็จ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา สหกรณ์ฯได้ประสบปัญหาเนื่องจาก นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานคณะกรรมการสหกรณ์เครดิตฯชุดที่ 28 ได้ไปยื่นฟ้องศาลและศาลได้รับฟ้องเมื่อวันที่ 29 มี.ค. 56 ทำให้เกิดความระส่ำระสายเป็นเหตุให้สมาชิกสหกรณ์ฯไม่สามารถเบิกเงินได้ ทำให้คนที่เดือดร้อนที่นำเงินเพื่อรักษาค่าพยาบาล ส่งลูกเรียนหนังสือ หรือเพื่อใช้ในธุรกรรมต่างๆ ไม่สามารถเบิกเงินไปได้ กระทั่ง นายศุภชัย ได้เข้ามาแก้ปัญหาโดยให้เบิกไปได้ 5 ครั้ง ครั้งละ 20,000 บาท ซึ่งไม่สามารถที่จะบรรเทาปัญหาค่าใช้จ่ายได้ ทั้งนี้เมื่อดีเอสไอเข้ามาดำเนินอายัดทรัพย์เพื่อไม่ให้ทำธุรกรรมได้ ทำให้สมาชิกฯยิ่งหวั่นไหว และกลัวว่าสหกรณ์ฯดังกล่าวจะล้ม เนื่องจากเรามีสมาชิกฯมากกว่า 50,000 คน มีเงินฝากกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท และข้อมูลที่ดีเอสไอชี้แจงไปยังสื่อมวลชนทุกแขนง ระบุว่า นายศุภชัย โกงไปกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท ทางเราเกรงว่าบางคนที่มีรายได้น้อยเก็บเงินออมมาทั้งชีวิตจะไม่สามารถเบิกเงินคืนได้ ซึ่งเป็นความทุกข์ใจอละเดือดร้อนมาก บางคนถึงขั้นคิดจะฆ่าตัวตาย
นายเผด็จ กล่าวต่อว่า วันนี้เราเดินทางมาทั้งหมด 37 คน เพื่อมาให้กำลังใจดีเอสไอ และขอให้ทำงานต่อไปในส่วนที่เห็นว่ามีความผิด แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ควรปลดนายศุภชัย ออกจากตำแหน่งเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างถูกต้อง ไม่มีการปิดบังซ่อนเร้น และจะได้หาคนที่มีความรู้ความสามารถมาบริหารสหกรณ์ฯเพื่อให้สหกรณ์ฯอยู่ได้ และประชาชนคนที่บริสุทธิ์จะได้เงินคืนด้วย ซึ่งวันนี้เราเชื่อมั่นและมั่นใจในดีเอสไอ
นายกิตติก้อง กล่าวว่า หลังจากที่ดีเอสไอได้ดำเนินการร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ในการเข้าตรวจค้นสถานที่ที่เป็นที่พักอาศัยและสถานที่ทำงานของผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งขณะนี้มีพยานหลักฐานเพียงพอที่สามารถแจ้งข้อหากับผู้ถูกล่าวหาได้ โดยแจ้งข้อกล่าวหายักยอกทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352 มาตรา 353 และมาตรา 354 ส่วนผู้ถูกกล่าวหาที่จะต้องมารับทราบข้อกล่าวหานั้นมี 4 ราย คือ 1.นายศุภชัย ศรีศุภอักษร 2.น.ส.สรัญญา มานมัด ทำหน้าที่ด้านการเงินของสหกรณ์ฯ 3.นายลภัส โสมคำ เป็นกรรมการสหกรณ์ฯ และ 4.นายกฤษฎา มีบุญมาก เป็นเจ้าหน้าที่สินเชื่อ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการทำกระทำธุรกรรมสินเชื่อตามที่สมาชิกได้มาร้องเรียน โดยทั้งหมดจะมารับทราบข้อกล่าวหาในวันศุกร์นี้ (26 ก.ค.) เวลา 14.00 น.
ทั้งนี้เราได้มีการยึดอายัดทรัพย์สินของผู้ที่ถูกกล่าวหาทั้ง 4 รายแล้ว ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาพร้อมที่จะต่อสู้คดี ดังนั้นในเรื่องของพฤติการการหลบหนีคงจะไม่มี และในขั้นตอนต่อไปหลังจากแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ดีเอสไอจะมีหนังสือถึงกรมส่งเสริมสหกรณ์ เพื่อแจ้งให้ทราบถึงพฤติการณ์ของผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายสหกรณ์อย่างไร และทางพนักงานสอบสวนจะดำเนินการสืบสวนเกี่ยวกับเส้นทางการเงินของผู้ถูกกล่าวหาว่าเงินที่ทำการยักยอกออกไปที่ใดบ้าง
