อดีตลูกจ้าง มรภ.เพชรบุรี ร้อง “จาตุรนต์” ขอความเป็นธรรมหลังถูกกล่าวยักยอกเงิน จนศาลชั้นต้นสั่งจำคุก 114 เดือน ชดใช้เงินประมาณ 6 แสนบาท ระบุเหตุเกิดแต่ปี 52 เพราะ นศ.ป.โทลงทะเบียนไม่ทันฝากเงินไปเข้าธนาคาร ยันไม่ได้ไม่เคยมีการตั้งกก.สอบสวน มีเพียงรองอธิการ เรียกสอบถามก่อนถูกลดเกรดจากเจ้าหน้าที่พนักงานทำความสะอาดทนเพื่อนล้อไม่ไหวตัดสินใจลาออก ขณะที่ “นิวัตร” เผยเรื่องเกิดก่อนมารับตำแหน่ง ชี้ดำเนินการตามที่เสนอหากไม่ทำอาจผิดฐานละเลยปฏิบัติหน้าที่
วันนี้ (8 ก.ค.) ที่โรงแรมแกรนด์มิราเคิล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางนิตยา ดีหาสิง อดีตลูกจ้างชั่วคราว เจ้าหน้าที่บริการมหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) เพชรบุรี เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมหลังถูก มรภ.เพชรบุรี แจ้งดำเนินคดีในข้อหายักยอกทรัพย์และศาลชั้นต้นสั่งให้จำคุก 114 เดือน และชดใช้เงินให้กับมหาวิทยาลัยประมาณ 6 แสนกว่าบาท โดย นายจาตุรนต์ ได้รับเรื่องและรับปากว่าจะช่วยตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้
นางนิตยา ให้สัมภาษณ์ว่า ทาง มรภ.เพชรบุรี อ้างว่าตนเป็นผู้ยักยอกเงินค่าลงทะเบียนของนักศึกษาระดับปริญญาโท หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์ ศูนย์นอกที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 18 คน ซึ่งต้องจ่ายค่าลงทะเบียนคนละประมาณ 31,000 กว่าบาท รวมเป็นเงินประมาณ 600,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวตนได้รับจากนักศึกษากลุ่มนี้ให้ดำเนินการลงทะเบียนแทน เพราะทั้งหมดลงทะเบียนไม่ทัน โดยตนได้นำไปจ่ายให้กับทางมหาวิทยาลัยโดยได้นำเงินฝากเข้าบัญชีธนาคารไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา และศาลชั้นต้นได้ตัดสินให้จำคุก 114 เดือน และชดใช้เงินอีกประมาณ 6 แสนกว่าบาท และตนขณะนี้ได้ยื่นเรื่องขออุทธรณ์
“เรื่องนี้ถูกดำเนินคดีมาช่วงปี 2553 แล้ว ซึ่งหน้าที่ของดิฉันจริงๆเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ประสานงาน เช่น ดูแลเอกสาร อาหารของนักศึกษาและอาจารย์ เป็นต้น แต่กรณีที่ไปรับเงินมาเป็นเพราะนักศึกษาปริญญาโทฝากเงินลงทะเบียนมาให้กับมหาวิทยาลัย ซึ่งก็ได้ไปฝากธนาคารของมหาวิทยาลัยเรียบร้อย และตอนนี้ก็มีเอกสารหลักฐานบัญชีเงินเดือนที่ได้นำเงินส่วนนี้เข้าบัญชีที่เพิ่งได้รับจากทางธนาคารมา และรอนำหลักฐานส่วนนี้ยื่นให้กับศาลในชั้นอุทธรณ์ต่อไป เกี่ยวกับเรื่องนี้ดีๆ ก็ถูกตั้งข้อหาและแจ้งความดำเนินคดี และทางมหาวิทยาลัยไม่ได้ตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนอะไร มีเพียงรองอธิการบดีคนหนึ่งเรียกไปสอบว่าได้นำเงินส่วนนี้ไปหรือไม่ และได้ยืนยันว่าไม่ได้นำเงินไปและได้นำเงินเข้าบัญชีไปหมดแล้ว” นางนิตยา กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไม่ได้ทำงานประจำที่ไหนมีเพียงรับจ้างทั่วไปบ้าง ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นี้ในปี 2552 ตนก็เครียดมาก และครั้งนั้นตนถูกลดตำแหน่งจากเจ้าหน้าที่ประสานงานให้มาเป็นพนักงานทำความสะอาดจนถูกเพื่อนล้อจึงลาออกมาในปลายปีเดียวกัน
ด้าน นายนิวัต กลิ่นงาม อธิการบดี มรภ.เพชรบุรี กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นก่อนที่ตนจะมารับตำแหน่งอธิการบดีในปี 2552 ซึ่งรายละเอียดต่างๆ ตนไม่ทราบ แต่ว่าการดำเนินการเรื่องนี้ก็ดำเนินการตามที่มีการเสนอเรื่องกันมา และหากไม่ดำเนินการก็จะมีความผิดในฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และเรื่องนี้ไม่ได้มีการกลั่นแกล้งอะไร เพราะเมื่อเกิดเหตุขึ้นได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและมีการส่งเรื่องให้ตำรวจและอัยการได้เข้ามาดูแลคดีการฟ้องร้องให้ในฐานะหน่วยงานราชการที่ได้รับความเสียหาย
“เรื่องนี้ทราบว่าเกิดขึ้นมาก่อนหน้าที่จะมารับตำแหน่งแต่เรื่องแดงขึ้นเมื่อนักศึกษามาร้องเรียนว่าลงทะเบียนแล้วเกรดไม่ออก และมีการนำใบเสร็จมาแสดงว่านาย ก นาย ข รับเงินไปแล้ว แต่เมื่อไปตรวจสอบระบบคอมพิวเตอร์ไม่ได้มีการจ่ายเงินค่าลงทะเบียน นอกจากนี้ ยังได้ไปร้องเรียนหน่วยงานภายนอกอย่างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้วย จากนั้นก็มีการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง” อธิการบดี มรภ.เพชรบุรี กล่าว
วันนี้ (8 ก.ค.) ที่โรงแรมแกรนด์มิราเคิล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางนิตยา ดีหาสิง อดีตลูกจ้างชั่วคราว เจ้าหน้าที่บริการมหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) เพชรบุรี เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมหลังถูก มรภ.เพชรบุรี แจ้งดำเนินคดีในข้อหายักยอกทรัพย์และศาลชั้นต้นสั่งให้จำคุก 114 เดือน และชดใช้เงินให้กับมหาวิทยาลัยประมาณ 6 แสนกว่าบาท โดย นายจาตุรนต์ ได้รับเรื่องและรับปากว่าจะช่วยตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้
นางนิตยา ให้สัมภาษณ์ว่า ทาง มรภ.เพชรบุรี อ้างว่าตนเป็นผู้ยักยอกเงินค่าลงทะเบียนของนักศึกษาระดับปริญญาโท หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์ ศูนย์นอกที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 18 คน ซึ่งต้องจ่ายค่าลงทะเบียนคนละประมาณ 31,000 กว่าบาท รวมเป็นเงินประมาณ 600,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวตนได้รับจากนักศึกษากลุ่มนี้ให้ดำเนินการลงทะเบียนแทน เพราะทั้งหมดลงทะเบียนไม่ทัน โดยตนได้นำไปจ่ายให้กับทางมหาวิทยาลัยโดยได้นำเงินฝากเข้าบัญชีธนาคารไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา และศาลชั้นต้นได้ตัดสินให้จำคุก 114 เดือน และชดใช้เงินอีกประมาณ 6 แสนกว่าบาท และตนขณะนี้ได้ยื่นเรื่องขออุทธรณ์
“เรื่องนี้ถูกดำเนินคดีมาช่วงปี 2553 แล้ว ซึ่งหน้าที่ของดิฉันจริงๆเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ประสานงาน เช่น ดูแลเอกสาร อาหารของนักศึกษาและอาจารย์ เป็นต้น แต่กรณีที่ไปรับเงินมาเป็นเพราะนักศึกษาปริญญาโทฝากเงินลงทะเบียนมาให้กับมหาวิทยาลัย ซึ่งก็ได้ไปฝากธนาคารของมหาวิทยาลัยเรียบร้อย และตอนนี้ก็มีเอกสารหลักฐานบัญชีเงินเดือนที่ได้นำเงินส่วนนี้เข้าบัญชีที่เพิ่งได้รับจากทางธนาคารมา และรอนำหลักฐานส่วนนี้ยื่นให้กับศาลในชั้นอุทธรณ์ต่อไป เกี่ยวกับเรื่องนี้ดีๆ ก็ถูกตั้งข้อหาและแจ้งความดำเนินคดี และทางมหาวิทยาลัยไม่ได้ตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนอะไร มีเพียงรองอธิการบดีคนหนึ่งเรียกไปสอบว่าได้นำเงินส่วนนี้ไปหรือไม่ และได้ยืนยันว่าไม่ได้นำเงินไปและได้นำเงินเข้าบัญชีไปหมดแล้ว” นางนิตยา กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไม่ได้ทำงานประจำที่ไหนมีเพียงรับจ้างทั่วไปบ้าง ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นี้ในปี 2552 ตนก็เครียดมาก และครั้งนั้นตนถูกลดตำแหน่งจากเจ้าหน้าที่ประสานงานให้มาเป็นพนักงานทำความสะอาดจนถูกเพื่อนล้อจึงลาออกมาในปลายปีเดียวกัน
ด้าน นายนิวัต กลิ่นงาม อธิการบดี มรภ.เพชรบุรี กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นก่อนที่ตนจะมารับตำแหน่งอธิการบดีในปี 2552 ซึ่งรายละเอียดต่างๆ ตนไม่ทราบ แต่ว่าการดำเนินการเรื่องนี้ก็ดำเนินการตามที่มีการเสนอเรื่องกันมา และหากไม่ดำเนินการก็จะมีความผิดในฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และเรื่องนี้ไม่ได้มีการกลั่นแกล้งอะไร เพราะเมื่อเกิดเหตุขึ้นได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและมีการส่งเรื่องให้ตำรวจและอัยการได้เข้ามาดูแลคดีการฟ้องร้องให้ในฐานะหน่วยงานราชการที่ได้รับความเสียหาย
“เรื่องนี้ทราบว่าเกิดขึ้นมาก่อนหน้าที่จะมารับตำแหน่งแต่เรื่องแดงขึ้นเมื่อนักศึกษามาร้องเรียนว่าลงทะเบียนแล้วเกรดไม่ออก และมีการนำใบเสร็จมาแสดงว่านาย ก นาย ข รับเงินไปแล้ว แต่เมื่อไปตรวจสอบระบบคอมพิวเตอร์ไม่ได้มีการจ่ายเงินค่าลงทะเบียน นอกจากนี้ ยังได้ไปร้องเรียนหน่วยงานภายนอกอย่างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้วย จากนั้นก็มีการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง” อธิการบดี มรภ.เพชรบุรี กล่าว
