พิจิตร - ผู้ว่าฯ เมืองชาละวันสั่งห้าม 33 โรงสี 1 สถาบันการเกษตรในโครงการจำนำข้าว รับจำนำนอกจุด สกัดนายหน้าโกง-สวมสิทธิข้าว แต่ยังพบโรงสีใหญ่ฝ่าฝืน พร้อมตั้งกรรมการสอบค้าภายใน-อ.ต.ก.เอี่ยวโรงสีฉาวโกงชาวนา-ยักยอกข้าว ด้าน ตร.เร่งตามหาข้าวหายไม่หยุด
วันนี้ (8 ก.ค.) นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยถึงมาตรการเฝ้าระวังโรงสีฉ้อโกงข้าวชาวนา และยักยอกทรัพย์ข้าวเปลือก-ข้าวสารขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลว่า คณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลโครงการรับจำนำข้าวจังหวัดพิจิตรมีคำสั่งลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2556 ที่ พณ 0418.37/ว1564 ให้โรงสี 33 แห่งที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าว และสถาบันการเกษตรอีก 1 แห่ง ยกเลิกการรับจำนำนอกโรงสีตามจุดท่าข้าว จุดรวบรวมข้าวทั้งหมด เพื่อป้องกันนายหน้าฉ้อโกง สวมสิทธิ หรือทุจริต
อย่างไรก็ตาม ยังพบว่ามีท่าข้าวหลายแห่งฝ่าฝืนคำสั่ง โดยเฉพาะท่าข้าวใน ต.ป่ามะคาบ อ.เมือง ที่ลักลอบรับจำนำข้าวจากชาวนานอกโรงสี และลำเลียงข้าวส่งให้โรงสีใหญ่แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ริมถนนพิจิตร-นครสวรรค์ ซึ่งขณะนี้กำลังจะรวบรวมหลักฐานเอาผิด
ส่วนการสืบสวนหาข้อเท็จจริงที่โรงสีแอล-โกล์ด แมนูแฟคเจอร์ จำกัด ต.ท่าบัว อ.โพทะเล ฉ้อโกงชาวนา และยักยอกทรัพย์ข้าวเปลือก-ข้าวสารของ อ.ต.ก. 12,000 ตัน จนทำให้รัฐบาลและชาวนาเสียหายมูลค่ากว่าร้อยล้านบาทนั้นได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนการค้าภายในจังหวัดพิจิตร และเจ้าหน้าที่ประสานงาน อ.ต.ก.ประจำจังหวัดพิจิตร ว่ามีส่วนรู้เห็น หรือละเว้นจนเกิดเหตุข้างต้นด้วยหรือไม่ โดยมีนายวัชระ ทิพย์พิลา รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง หรือรู้เห็น ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จะเอาผิดทั้งวินัยและทางกฎหมาย
นอกจากนี้ วันที่ 10 กรกฎาคมนี้ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับจำนำข้าว ผู้แทนชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกฉ้อโกงอีก 10 คนจะไปให้ปากคำข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมาธิการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนราษฎร
ด้าน พ.ต.อ.ธวัชชัย มวญนรา รอง ผบก.ภ.จว.พิจิตร ได้สั่งการให้ตำรวจจาก สภ.บางมูลนาก และ สภ.โพธิ์ประทับช้าง บูรณาการร่วมกับชุดเฉพาะกิจตำรวจภูธรจังหวัด และคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลโครงการรับจำนำข้าวระดับจังหวัดพิจิตร ตามหาข้าวที่นายมุนินทร์ จันทรา เจ้าของโรงสีแอล-โกลด์ แมนูแฟคเจอร์ จำกัด ฉ้อโกงชาวนา และยักยอกข้าวเปลือกและข้าวสารรวมกว่า 12,000 ตันไปขาย
โดยสุ่มตรวจคลังสินค้ากลางและไซโลที่ใช้เก็บรักษาข้าวสาร ที่องค์การคลังสินค้า เช่าจากบริษัทเอกชนเพื่อเก็บรักษาข้าวใน อ.บางมูลนาก และ อ.โพธิ์ประทับช้าง 3 คลัง จำนวน 3 แสนตัน ประกอบด้วย คลังสินค้าเคทีพีไซโล คลังสินค้าเพชรวิเชียร และคลังสินค้าสอแสนดี หลังจากที่ผ่านมาไม่สามารถเข้าตรวจสอบได้เนื่องจากติดขัดเรื่องการรมยา แต่ไม่พบข้าวต้องสงสัย จึงได้สั่งกำชับตำรวจที่เฝ้าโกดังให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มข้นเพื่อมิให้เกิดเหตุซ้ำรอย