พิจิตร - อคส.พิจิตรรับข้าวเน่าเต็มโกดังร้างเมืองชาละวันเป็นข้าวรับจำนำ พบขนเข้าจำนำปี 48/49 ยุค “แม้ว” เป็นนายกฯ ถูกปล่อยทิ้งปล่อยขว้างมาเน่ายุค “ปู” ด้านคดีโรงสีฉาวโกงชาวนา-ยักยอกข้าว อ.ต.ก. ส่อเจอหมายจับเพิ่มอีก 4 ราย
วันนี้ (3 ก.ค.) นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เรียกประชุมตัวแทนองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) องค์การคลังสินค้า (อคส.) สำนักงานเกษตรจังหวัด ตัวแทนชาวนา ตัวแทนโรงสี และฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับโครงการจำนำข้าว โดยไม่อนุญาตสื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพ และเสียง
อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมได้มีการถกเถียงกันผ่านไมโครโฟนทำให้มีเสียงเล็ดลอดออกมานอกห้องประชุมว่า โครงการรับจำนำข้าวที่ผ่านมาเกิดการทุจริต เพราะคณะกรรมการข้าวระดับจังหวัด อ.ต.ก. และ อคส.ละเว้นไม่เคร่งครัดตามระเบียบ เปิดให้โรงสีใช้ท่าข้าวเปิดเป็นจุดรับจำนำโดยไม่ได้ขออนุญาตแม้แต่แห่งเดียว เนื่องจากถ้าจะขออนุญาตโรงสีที่เข้าร่วมโครงการต้องมีเงินค้ำประกัน 50% ของปริมาณการรับข้าวเปลือกเพื่อส่งมอบเข้าโครงการรับจำนำ จนเป็นเหตุให้โรงสีฉ้อโกงชาวนา ยักยอกข้าวของ อ.ต.ก.พิจิตรไป 8,000 ตัน ซึ่งมีการออกหมายจับผู้ต้องหารวม 4 ราย มอบตัวแล้ว 1 ราย อีก 3 รายกำลังหลบหนี
ด้าน พ.ต.อ.ธวัชชัย มวญนรา รอง ผบก.ภ.จว.พิจิตร กล่าวภายหลังการประชุมว่า ได้ขยายผลทางคดีพบว่ามีผู้ร่วมกระทำผิดเพิ่มเติมอีก 4 ราย จึงจะยื่นขออนุมัติหมายศาลเพื่อจับกุม ส่วนเป็นใครบ้างนั้นหลังศาลอนุมัติจึงจะเปิดเผยได้
ส่วนกรณีข้าวสารของ อคส.ในโกดังบริษัท เอกเกษตรคลังสินค้า จำกัด ต.คลองคะเชนทร์ อ.เมือง จ.พิจิตร ส่งกลิ่นเน่าเหม็นคละคลุ้ง บรรจุอยู่ในถุงบิ๊กแบ็กเป็นข้าวหอมมะลิ 2,000 ตัน เก็บไว้ตั้งแต่ปี 2548/2549 ต่อมาเจ้าของโรงสีเอกเกษตรได้ยกโรงสีให้ธนาคารกสิกรไทยเพื่อชำระหนี้ แต่ข้าวก็ยังอยู่ในโกดังจนถึงวันนี้ จนนายวิรัตน์ ลิ่มทองสมใจ เจ้าของบริษัท โรงสีสิงโตทอง ไรซ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ซื้อกิจการ จึงพบว่ายังมีข้าวสารตามโครงการรับจำนำกองมหึมาส่งกลิ่นเน่าเหม็นอยู่ในโกดัง และทราบแต่เพียงว่าเป็นของ อคส. เมื่อตามหาตัวบุคคลให้มารับผิดชอบก็ไม่มีใครแสดงความรับผิดชอบนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจักรินมอบหมายให้นายเกษม บุญอาจ ผู้ประสานงาน อคส.จังหวัดพิจิตร เป็นผู้ชี้แจง แต่นายเกษมบ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้สัมภาษณ์ อ้างว่าอยากรู้อะไรให้ไปถามนายกรัฐมนตรี หรือให้ไปถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตนไม่ได้รับอนุญาตให้สัมภาษณ์ แต่ยอมรับว่าข้าวในโกดังของเอกเกษตรคลังสินค้าเป็นข้าวสารหอมมะลิในโครงการรับจำนำของ อคส.จริง และรู้แล้วว่าข้าวในโกดังเสียหาย
นายเกษมย้ำกับผู้สื่อข่าวว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ นักข่าวจะไปตื่นเต้นทำไม ถึงแม้ข้าวจะเน่าหรือข้าวจะเสียหาย เพราะแมลงหรือมอดกัดกิน ข้าวสารหอมมะลิที่เห็นในโกดังหมดสภาพก็เป็นเรื่องธรรมดา อย่างไรก็ประมูลขายได้ และมีคนซื้อไปตั้งนานแล้ว แต่ไม่มาขนไปจึงอยู่ในความดูแลของ อคส. แต่ไม่ต้องห่วงเพราะไม่ต้องรับผิดชอบเนื่องจากขายได้แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามเว่า แล้วผู้ซื้อเป็นใคร นายเกษมตอบเพียงว่าเป็นชาวลพบุรี
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติม นายเกษมก็พยายามเดินหนี และบอกให้นักข่าวคุยกับนางมิ่งขวัญ พุกเปี่ยม หรือ “เจ๊หนิง” ประธานชมรมโรงสีข้าวพิจิตร แต่ตัวแทนโรงสีกลับไม่ได้ข้อมูลเพิ่มเติมใดๆ เพียงขอให้เงียบๆ ไว้ก่อนเนื่องจากเกรงว่าจะทำให้เรื่องลุกลามกระทบโรงสีที่รับจำนำข้าวของ อคส. เพราะจะนำไปสู่การตรวจสต๊อกข้าวครั้งใหญ่ของจังหวัดอีกก็ได้
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า สำหรับข้าวสารของ อคส.ที่เน่าเหม็นอยู่เต็มโกดังเอกคลังสินค้าเกษตร เป็นข้าวในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลปี 2548/2549 รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อมา “เฮียทุย” เจ้าของบริษัทถูกฟ้องล้มละลาย และถูกยึดทรัพย์ขายทอดตลาด ทำให้ข้าวที่อยู่ในโกดังทั้งหมดถูกปล่อยทิ้งไว้โดยไม่มีหน่วยงานเข้าไปดูแล
กระทั่งล่าสุด เมื่อเร็วๆ นี้บริษัท สิงโตทอง ไรซ์ อินเตอร์เทรด จำกัด เข้าซื้อกิจการจากธนาคารกสิกรไทย สาขาพิจิตร ราคา 80 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจการค้าข้าว โดยซื้อเฉพาะที่ดินและอาคาร ไม่ได้ซื้อข่าวเน่าด้วย