ยุ่งแล้ว! ข้าวเปลือกรับจำนำ-ข้าวสาร อ.ต.ก.หายเกลี้ยงโรงสีดังพิจิตร

พิจิตร - ชาวนาเมืองชาละวัน และเจ้าหน้าที่ อ.ต.ก. พากันเดินขึ้นโรงพักแจ้งความดำเนินคดีโรงสีดังพิจิตร หลังรับจำนำข้าวตามนโยบายรัฐบาลแล้ว พอ จนท.เข้าตรวจโกดังกลับเหลือแต่กองข้าวเปลือกผสมแกลบ ข้าวสารเสื่อมสภาพ

รายงานข่าวจากจังหวัดพิจิตร แจ้งว่า หลังชาวนาในจังหวัดพิจิตร ออกมาชุมนุมเรียกร้องให้ตรวจสอบโรงสีแอลโกลด์-แมนูแฟคเจอร์ จำกัด หรือชื่อเดิม คือ “โรงสีก้องเกียรติ” อ.โพทะเล จ.พิจิตร ที่ประกาศรับจำนำข้าวผ่านตัวแทนคือ นายอำนาจ ดิษฐเสถียร อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/9 หมู่ 1 ต.หัวดง อ.เมืองพิจิตร ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2556 ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถออกใบประทวนให้ได้นั้น

ล่าสุด วันนี้ (22 มิ.ย.) ได้มีกลุ่มชาวนาที่นำข้าวเข้าจำนำผ่านตัวแทนโรงสีดังกล่าว เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.เนวิน กาหลง สารวัตรเวร สภ.เมืองพิจิตร เพื่อดำเนินคดีต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน เป็นคดีอาญาที่ 389/2556 ลงวันที่ 22 มิ.ย.2556 แล้ว 4 ราย คือ นางฉวี มีทอง ชาวนาหมู่ 5 ต.หัวดง ถูกฉ้อโกงได้รับความเสียหายเป็นเงิน 311,911 บาท นายจเร กุดั่น ถูกฉ้อโกงได้รับความเสียหายเป็นเงิน 447,541 บาท นายอภิสิทธิ์ สุวรรณพฤกษ์ ถูกฉ้อโกงได้รับความเสียหายเป็นเงิน 247,161 บาท นายสิน ภักดี ถูกฉ้อโกงได้รับความเสียหายเป็นเงิน 422,408 บาท ทั้งหมดเป็นชาวนาหมู่ 5 ต.หัวดง ที่ถูกฉ้อโกงรวมทั้งสิ้น 1,429,103 บาท

เนื่องจากทางจังหวัดโดย นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าฯ พิจิตร ได้นำตำรวจชุดเฉพาะกิจ และเจ้าหน้าที่ของ อ.ต.ก. บุกเข้าตรวจโรงสีแอลโกลด์-แมนูแฟคเจอร์ จำกัด แล้วปรากฏว่า ไม่มีข้าวเปลือกของชาวนา จึงทำให้หมดหนทางที่ อ.ต.ก. จะออกใบประทวนให้ได้ เพราะข้าวเปลือกทั้ง 4 พันตันของชาวนาได้หายไปจนหมดแล้ว

วันเดียวกัน นายพงษ์วิทย์ เหลืองช่วยโชค รอง ผอ.อ.ต.ก. พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เดินทางเข้าตรวจสต๊อกข้าวสารของ อ.ต.ก. 4 พันตัน ที่โรงสีแอลโกลด์-แมนูแฟคเจอร์ จำกัด กลับปรากฏว่า ข้าวสารทั้งหมดได้ล่องหนหายไป ส่วนข้าวสารที่อยู่ในกระสอบที่วางกองเรียงอยู่ก็เป็นข้าวสารเสื่อมสภาพ เมล็ดข้าวบางส่วนกลายเป็นสีเหลือง ส่วนกองข้าวเปลือกก็กลายเป็นกองข้าวเปลือกผสมกับแกลบอำพรางสายตาบุคคลทั่วไป แสดงว่าได้เกิดการทุจริตขึ้นแล้ว

จากนั้น เจ้าหน้าที่ อ.ต.ก.จึงได้เดินทางไปที่ สภ.โพทะเล เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อโรงสีแอลโกลด์-แมนูแฟคเจอร์ จำกัด เนื่องจากข้าวสาร อ.ต.ก.จำนวน 4 พันตัน ได้หายไปจากโกดังทั้งหมดเช่นกัน

ซึ่งเมื่อรวมข้าวเปลือกของชาวนาที่ขนเข้าจำนำผ่านทางตัวแทนของโรงสี และข้าวสารของ อ.ต.ก. ที่อยู่ในคลังของโรงสี รวมทั้งหมด 8 พันตัน มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท หายไปอย่างไร้ร่องรอยทั้งหมด เช่นเดียวกับเจ้าของโรงสีที่ได้ล่องหนหายตัวไปเช่นกัน เหลือแต่เพียงเด็กหนุ่มหลานชายเจ้าของโรงสี ซึ่งเป็นผู้ดูแลกิจการอยู่โยงดูแลโรงสีเท่านั้น

ขณะเดียวกัน นายจักริน ก็ได้สั่งให้การค้าภายใน และเจ้าหน้าที่ อ.ต.ก. ปลดธงฟ้าหน้าโรงสีออก พร้อมกับสั่งให้นายอำเภอทุกอำเภอ เริ่มปฏิบัติการตรวจสต๊อกข้าวในอีก 33 โรงสี ที่เข้าโครงการรับจำนำตั้งแต่วันจันทร์ที่ 24 มิ.ย.56 ที่จะถึงนี้เป็นต้นไป และให้ระวังการนำข้าวเปลือกมาเวียนเทียนใน 7 วันสุดท้าย เพื่อจะเอาราคา 15,000 บาท ซึ่งมีกำไรตันละ 3,000 บาททันที ถ้าพบจะดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด