xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ช.รับลูกสอบโกงข้าว "ปู"ปรี๊ด!ท้า"สุภา"พิสูจน์ให้ชัด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน-ป.ป.ช.รับลูกสอบโกงข้าว เตรียมเชิญ "สุภา"ให้ข้อมูล "ปู"ปรี๊ด อย่าดีแต่พูด ขอให้พิสูจน์เป็นรายละเอียดออกมาให้ชัด "พาณิชย์"เตรียมเปิดประมูลข้าวสาร ข้าวเปลือก กลาง ก.ค.นี้ ยันให้ราคาต่ำ ไม่ขาย เตรียมจับเพิ่มอีก 4 ราย ยักยอกข้าวที่พิจิตร ส่วนข้าวเน่าคาโกดัง เป็นข้าวเก่าปี 2548/49 ตั้งแต่ยุค "แม้ว"

นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีโครงการรับจำนำข้าว เปิดเผยว่า เร็วๆ นี้ จะเชิญน.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว มาให้ข้อมูลกับคณะอนุกรรมการไต่สวนของป.ป.ช. ในประเด็นเกี่ยวกับการขาดทุนของโครงการว่ามีตัวเลขชัดเจนอย่างไร รวมไปถึงปัญหาการทุจริตในภาพรวมด้วย เพราะคณะอนุกรรมการไต่สวนได้เข้ามาตรวจสอบในเรื่องการรักษาวินัยการเงินการคลังด้วย นอกเหนือไปจากการตรวจสอบการทุจริต

ทั้งนี้ ป.ป.ช. ยังได้รับความร่วมมือจากนายศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดินที่จะเร่งลงพื้นที่ตรวจสอบโรงสีและโกดังเก็บข้าวทั่วประเทศเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับการลักลอบนำข้าวไปสวมสิทธิ์และปัญหาข้าวเน่าว่าเกิดมาจากการละเว้นปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือไม่ ซึ่งคาดว่าภายใน1-2เดือนทางป.ป.ช.น่าจะได้รับข้อมูลในส่วนนี้

"กระทรวงพาณิชย์ได้ให้ความร่วมมือกับ ป.ป.ช. มากขึ้น ด้วยการส่งข้อมูลมามากขึ้น แต่มีบางข้อมูลที่ ป.ป.ช.ยังต้องการ คือ ข้อมูลในเรื่องการขาดทุน ซึ่งป.ป.ช.ได้ข้อมูลบางส่วนมาจากกระทรวงการคลังเท่านั้น ทั้งที่ควรได้มากจากกระทรวงพาณิชย์ในฐานะเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงมากกว่า"

นายวิชากล่าวว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เตรียมศึกษาคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีการทุจริตจัดซื้อเรือและรถดับเพลิงของกรุงเทพมหานครที่จะมีการพิพากษาในวันที่ 6ส.ค.นี้ด้วย เพราะถือว่าเป็นคดีที่มีความสำคัญเนื่องจากการจัดซื้อเรือและรถดับเพลิงเป็นในลักษณะแบบรัฐต่อรัฐ เหมือนกับการซื้อขายข้าวกับต่างประเทศของรัฐบาล ดังนั้น ผลของคำพิพากษาที่จะออกมาอาจมีนัยสำคัญต่อการไต่สวนของป.ป.ช.ด้วย

"ยืนยันว่าป.ป.ช.ทำงานด้วยความเป็นกลาง ไม่ได้เลือกปฎิบัติกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดหรือพรรคการเมืองหนึ่งพรรคการเมืองใด เพราะแม้ว่าจะตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าวในรัฐบาลชุดนี้ แต่เราก็ยังตรวจสอบโครงการรับประกันราคาข้าวของรัฐบาลในอดีตด้วย"นายวิชากล่าว

**"ปู"ปรี๊ด จี้"สุภา"ส่งหลักฐาน

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางเยือนประเทศโปแลนด์และประเทศตุรกี ถึงกรณีน.ส.สุภา ระบุว่า โครงการรับจำนำข้าวมีการทุจริตทุกขั้นตอนตั้งแต่ระดับล่างจนถึงระดับบนว่า ขอให้น.ส.สุภา พิสูจน์ออกมาเป็นรายละเอียดเลยดีกว่า ส่วนการขาดทุนที่ถูกระบุว่า มีมากกว่า 2.2 แสนล้านบาท ขอให้มีการตรวจสต็อกให้เสร็จก่อน ถึงจะได้ตัวเลขจริง ขอให้คณะกรรมการที่ไปตรวจสต๊อกเป็นผู้สรุปอย่างเป็นทางการ และในการตรวจสอบโรงสีพร้อมกันกว่า 2,000 แห่ง ที่เจอทุจริตประมาณ 26 แห่ง ก็ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการสืบค้น หากมีหลักฐานทุจริตก็ให้ดำเนินคดีไปตามกฎหมาย

เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ โจมตีรัฐบาลที่กลับไปรับจำนำข้าวในราคา 15,000 บาทต่อตันเหมือนเดิม เหมือนเป็นนโยบาบไม้หลักปักขี้เลน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อันนี้แล้วแต่ ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ตรงนั้น แต่ขอเรียนเหตุผลที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบตามประเด็นที่คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เสนอมา โดยตอนแรกเป็นห่วงเรื่องวินัยการเงินการคลัง แต่หลังจากนั้น มีความชัดเจนในเรื่องปริมาณข้าว และไม่ทำให้รัฐบาลเสียสมดุล ก็เห็นชอบตามที่ กขช. เสนอ ไม่ได้กลับไปกลับมา

เมื่อถามว่า นายกฯ มั่นใจหรือไม่ว่าเรื่องรับจำนำข้าวจะไม่สะเทือนเสถียรภาพรัฐบาล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พอแล้ว เรื่องข้าวเยอะแล้ว ไปถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์บ้าง

***ท่าน "สุภา" อย่าทำเกินหน้าที่

นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า คณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ มีหลักของเขาในการคำนวณตัวเลข แต่รัฐบาลก็มีข้อมูลอีกชุดหนึ่งที่รวบรวมโดยนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรมช.เกษตรเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งยังเป็นตัวเลขที่ไม่ตรงกัน ส่วนที่บอกว่าโครงการนี้มีการโกงเกิดขึ้น นั่นคือข้อกล่าวหา รัฐบาลก็ต้องชี้แจงให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน

นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า ท่านสุภามีหน้าที่ปิดบัญชี ก็ควรจะทำหน้าที่ปิดบัญชีไป

***เปิดประมูลข้าวกลางก.ค.นี้

นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า ภายในกลางเดือน ก.ค.นี้ จะระบายข้าวข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล โดยเปิดประมูลเป็นการทั่วไป ทั้งส่งออกและขายในประเทศ ส่วนข้าวเปลือก จะเปิดประมูลเพื่อให้นำไปทำข้าวนึ่งส่งออก แต่ในส่วนของข้าวเปลือกจะต้องนำคำสั่งซื้อจากต่างประเทศมายืนยัน เพื่อจะได้แน่ใจว่าเมื่อได้ข้าวเปลือกไปแล้วจะมีการส่งออกจริง ป้องกันปัญหาการเวียนเทียน โดยการพิจารณาขาย จะดูจากราคาที่เสนอมาเป็นหลัก ต้องเป็นราคาที่สอดคล้องกับราคาตลาดและเป็นราคาที่ยอมรับได้

***จ่อจับเพิ่มอีก4 รายยักยอกข้าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (3 ก.ค.) นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้เรียกประชุมตัวแทนองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) องค์การคลังสินค้า (อคส.) สำนักงานเกษตรจังหวัด ตัวแทนชาวนา ตัวแทนโรงสี และฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับโครงการจำนำข้าว โดยไม่อนุญาตสื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพและเสียง

อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมได้มีการถกเถียงกันผ่านไมโครโฟน ทำให้มีเสียงเล็ดลอดออกมานอกห้องประชุม มีใจความว่า โครงการรับจำนำข้าวที่ผ่านมา เกิดการทุจริต เพราะคณะกรรมการข้าวระดับจังหวัด อ.ต.ก. และอคส. ละเว้นไม่เคร่งครัดตามระเบียบ เปิดให้โรงสีใช้ท่าข้าวเปิดเป็นจุดรับจำนำ โดยไม่ได้ขออนุญาตแม้แต่แห่งเดียว เนื่องจากถ้าจะขออนุญาต โรงสีที่เข้าร่วมโครงการต้องมีเงินค้ำประกัน 50% ของปริมาณการรับข้าวเปลือก เพื่อส่งมอบเข้าโครงการรับจำนำ จนเป็นเหตุโรงสีฉ้อโกงชาวนา ยักยอกข้าวของอ.ต.ก.พิจิตร ไป 8,000 ตัน ซึ่งมีการออกหมายจับผู้ต้องหารวม 4 ราย มอบตัวแล้ว 1 ราย อีก 3 ราย กำลังหลบหนี

พ.ต.อ.ธวัชชัย มวญนรา รองผบก.ภ.จว.พิจิตร กล่าวภายหลังการประชุมว่า ได้ขยายผลทางคดี พบว่ามีผู้ร่วมกระทำผิดเพิ่มเติมอีก 4 ราย จึงจะยื่นขออนุมัติหมายศาลเพื่อจับกุม ส่วนเป็นใครบ้างนั้น หลังศาลอนุมัติจึงจะเปิดเผยได้

***ข้าวเน่าพิจิตรคาโกดังตั้งแต่ปี2548/49

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีข้าวสารของ อคส. ในโกดังบริษัท เอกเกษตรคลังสินค้า จำกัด ต.คลองคะเชนทร์ อ.เมือง จ.พิจิตร ส่งกลิ่นเน่าเหม็นคละคลุ้ง บรรจุอยู่ในถุงบิ๊กแบ็ก เป็นข้าวหอมมะลิ 2,000 ตัน เก็บไว้ตั้งแต่ปี 2548/49 ต่อมาเจ้าของโรงสีเอกเกษตร ได้ยกโรงสีให้ธนาคารกสิกรไทย เพื่อชำระหนี้ แต่ข้าวก็ยังอยู่ในโกดังจนถึงวันนี้ จนนายวิรัตน์ ลิ่มทองสมใจ เจ้าของบริษัท โรงสีสิงโตทอง ไรซ์ อินเตอร์เทรด จำกัด เข้าซื้อกิจการ จึงพบว่ายังมีข้าวสารตามโครงการรับจำนำกองมหึมา ส่งกลิ่นเน่าเหม็นอยู่ในโกดัง และทราบแต่เพียงว่าเป็นของ อคส. เมื่อตามหาตัวบุคคลให้มารับผิดชอบ ก็ไม่มีใครแสดงความรับผิดชอบ

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า นายจักริน ได้มอบหมายให้นายเกษม บุญอาจ ผู้ประสานงาน อคส. จ.พิจิตร เป็นผู้ชี้แจง แต่นายเกษม ระบุว่า ตนไม่ได้รับอนุญาตให้สัมภาษณ์ อยากรู้อะไรให้ไปถามนายกรัฐมนตรี หรือให้ไปถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แต่ยอมรับว่าข้าวในโกดังเป็นข้าวสารหอมมะลิในโครงการรับจำนำของ อคส. จริง และรู้แล้วว่าข้าวในโกดังเสียหาย แต่ข้าวมีคนซื้อไปแล้ว ยังไม่มาขนออก อคส. ไม่ต้องรับผิดชอบ เนื่องจากขายได้แล้ว และทราบว่า ผู้ซื้อเป็นชาวลพบุรี

รายงานข่าวแจ้งว่า ข้าวสารของ อคส. ที่เน่าเหม็นอยู่เต็มโกดังเอกเกษตรคลังสินค้า เป็นข้าวในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลปี 254849 สมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อมาเจ้าของบริษัทถูกฟ้องล้มละลาย และถูกยึดทรัพย์ขายทอดตลาด ทำให้ข้าวที่อยู่ในโกดังทั้งหมด ถูกปล่อยทิ้งไว้ โดยไม่มีหน่วยงานเข้าไปดูแล กระทั่งล่าสุด บริษัท สิงห์โตทอง ไรซ์ อินเตอร์เทรด จำกัด เข้าซื้อกิจการจากธนาคารกสิกรไทย สาขาพิจิตร ราคา 80 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจการค้าข้าว โดยซื้อเฉพาะที่ดินและอาคาร ไม่ได้ซื้อข่าวเน่า

สำหรับข้าวที่ยังคงอยู่ในโกดัง อคส. แจ้งว่า เป็นข้าวที่รอส่งมอบ หากใครถือใบคำสั่งซื้อมาขอรับข้าวก็จะส่งมอบให้

**ปปช.เล็งเผยแพร่ผังล้มข้าวไทย

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จะมีการเผยแพร่ผังล้มข้าวในโซเซียลมีเดียฉบับของแท้ เพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนรับทราบ หลังจากที่บุคลากรของพรรคและบุคคลที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการจำนำข้าวถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้สร้างความเสียหายให้กับประเทศ โดยยืนยันว่าไม่ว่ารัฐบาลจะกดดันฝ่ายตรวจสอบอย่างไร ก็ยังยืนหยัดที่จะปกป้องผลประโยชน์ประชาชนต่อไป

**จี้"นิวัฒน์ธำรง"เปิดจีทูจีสมัย"บุญทรง"

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟชบุ๊กเรียกร้องให้รมว.พาณิชย์ คนใหม่ เปิดเผยข้อมูลการระบายข้าวแบบจีทูจี ในสมัยนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ ว่า ขายไปในราคาเท่าไร จำนวนกี่ตัน ขายให้ประเทศใด รวมทั้งของใหม่ที่จะขายด้วย

**เย้ยทำข้าวเป็นของที่ระลึกแก้ไม่ตรงจุด

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีที่นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ มีนโยบายที่จะนำข้าวบรรจุถุงเป็นของชำร่วยให้นักท่องเที่ยว เห็นใจว่ารัฐบาลพยายามระบายข้าวออกไป แต่สิ่งสำคัญ คือ การระบายข้าวโดยให้เป็นของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยวน่าจะเป็นโครงการระยะยาวที่ไม่สามารถแก้ปัญหาระยะสั้นได้ เนื่องจากนักท่องเที่ยวไม่ได้บริโภคข้าวทั้งหมด และประเทศไทยมีของที่ระลึกอื่นที่สามารถเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้ ดังนั้น ปัญหาอยู่ที่การเร่งระบายข้าว ส่วนจะระบายเป็นของที่ระลึกแถมหม้อด้วยนั้น ไม่ใช่จะสามารถสร้างได้ในปีสองปี พร้อมกับยกตัวอย่างว่ากว่าที่ประเทศเกาหลีใต้จะสร้างความเชื่อถือให้กับโสมเกาหลีได้ต้องใช้เวลานาน จึงไม่เชื่อว่าวิธีการนี้จะแก้ปัญหาโครงการจำนำข้าวในปัจจุบันได้

**อย.ยันไร้สารตกค้างจากการรมยา

นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า จากการเก็บตัวอย่างข้าวถุงตรวจวิเคราะห์จำนวน 87 ตัวอย่าง พบว่า ส่วนใหญ่ไม่พบสารตกค้างจากการรมยา บางตัวอย่างตรวจพบ แต่อยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัยตามข้อกำหนดขององค์การเกษตรและอาหารแห่งสหประชาชาติ (FAO) ซึ่งประเทศคู่ค้า เช่น ญี่ปุ่น สหรัฐฯ และประเทศในแถบยุโรป ก็ให้การยอมรับ จึงสรุปได้ว่าข้าวสารของไทยปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค

**ทึ้ง! ราคาข้าวเปลือกพุ่ง-ข้าวสารนิ่ง

วันเดียวกันนี้ ที่ห้องแกรนด์ฮอลล์ 1 โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ถนนวิภาวดีรังสิต คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์ และอุตสาหกรรม วุฒิสภา จัดเสวนาเชิงวิชาการเรื่อง "ทางออกระบบอุสาหกรรมข้าวไทย สู่การแข่งขัดตลาดโลก"

นายอัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย กล่าวว่า สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดของรัฐบาลชุดนี้ คือ การทำให้ราคาข้าวเปลือกพุ่งไปสูง 30-40% แต่ข้าวสารราคาเท่าเดิม เพราะนโยบายจำนำข้าว ที่รัฐบาลรวบรัดเอาข้าวมาอยู่กับตัวเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น