xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.จี้ “นิวัฒน์ธำรง” เปิดข้อมูลข้าวจีทูจี ข้าวหายไปไหน 1.5 ล้านตัน เหน็บ 1 โกง 2 กู้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต (แฟ้มภาพ)
“ชวนนท์” เรียกร้อง “นิวัฒน์ธำรง” รมว.พาณิชย์คนใหม่ เปิดข้อมูลขายข้าวจีทูจี พร้อมตัวเลขสต๊อกจริง และข้าว 2 ล้านตันหายไปไหน 1.5 ล้านตัน ส่วนการกลับลำคงราคาจำนำ 1.5 หมื่นบาท เชื่อแค่เล่ห์หลอกหาเสียงชาวนา ก่อนยุบสภา ระบุรัฐบาลกำลังประสพปัญหา 1 โกง 2 กู้ โดยไม่รับผิดชอบ “หมอวรงค์” ท้ารัฐบาลตรวจสอบโกดังข้าวเน่าแทนเล่นปาหี่ไล่สอบเชิงปริมาณ เชื่อเจ๊งกว่า 2.6 แสนล้าน จากการซุกข้าวเสื่อมคุณภาพ

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการปรับ ครม.ว่าไม่ได้สะท้อนเจตนาการปรับปรุงพัฒนาการบริหารในช่วงสองปีที่ผ่านมา ซึ่งปัญหาที่ผ่านมาไม่ว่าจะเปลี่ยนเป็น ครม.ปู 4 ปู 5 หรือปู 6 หากนโยบายยังเป็นเช่นนี้การบริหารจะไม่เปลี่ยนแปลง และการปรับ ครม.ที่โยกนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ไปเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ โดยอ้างว่าจะสร้างความกระจ่างเรื่องโครงการรับจำนำข้าวนั้น หากต้องการสร้างความมั่นใจจริงต้องเปิดเผยข้อมูล ดังนี้ 1. ข้อมูลการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐว่าขายได้เท่าไหร่ เมื่อไหร่ และสต๊อกมีตัวเลขจริงที่ไม่ใช่การแต่งเสริมอย่างไร และ 2. ข้าวที่มีข่าวว่าถูกดึงออกจากโกดังจำนวน 2 ล้านตัน แต่กลับพบว่ามีการผลิตเพียงแค่ 5 หมื่นตันนั้นก็ต้องชี้แจงด้วยว่าข้าวหายไปไหน แต่หากนายนิวัฒน์ธำรงไม่กล้าเปิดเผยก็จะไม่แตกต่างกับนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์

ส่วนมติคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หรือ กขช. ให้รับจำนำข้าว 15,000 บาทต่อตันถึงวันที่ 15 เดือนกันยายน 2556 นั้น นายชวนนท์กล่าวว่า พรรคไม่เห็นด้วยกับการจำนำข้าวมาตั้งแต่ต้นและถ้าจะดำเนินการรับจำนำต่อต้องรับจำนำ 15,000 บาทตลอดอายุรัฐบาล เพราะมีการเปิดช่องทุจริต มา 3 ฤดูกาลจนเงิน 2.6 แสนล้านถูกละลายไปกับการทุจริตคอร์รัปชัน แต่ชาวนาได้ประโยชน์เพียงแค่ 8.6 หมื่นล้าน ดังนั้น หากรัฐบาลสามารถปิดช่องว่างการทุจริตได้ก็จะมีเงินเพียงพอที่จะรับจำนำข้าว 15,000 บาทตลอดอายุของรัฐบาลชุดนี้ อย่างไรก็ตาม อยากทราบว่าหลักการและพื้นฐานข้อมูลของรัฐบาลในการเปลี่ยนแปลงราคารับจำนำจาก 12,000 บาทกลับมาเป็น 15,000 บาทคืออะไร เพราะประชาชนสับสนหมดแล้วว่าปลูกข้าวฤดูนี้จะขายได้เท่าไหร่ เนื่องจากรัฐบาลไม่มีจุดยืนที่ชัดเจน

“นายกฯ บอกว่าต้องลดราคาจำนำเหลือ 12,000 บาท เพื่อสร้างสมดุลทางการคลัง และให้สอดคล้องกับราคาตลาดโลก แต่กลับมีการเปลี่ยนแปลงราคารับจำนำข้าวกลับไปเหมือนเดิมอีกใช้อะไรเป็นหลักคิด หรือเป็นเพราะว่าทนแรงกดดันไม่ได้เพราะพรรคเพื่อไทยและโครงการจำนำข้าวเหมือนคนไข้อยู่ในห้องไอซียู ซึ่งเป็นบทเรียนสำหรับพรรคการเมืองที่คิดแค่หวังคะแนนนิยมโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะสร้างความเสียหายไมใช่เฉพาะสภาวะการเงินการคลังของประเทศแต่กระทบเกษตรกรคนรากหญ้าด้วย แต่รัฐบาลต้องมีคำตอบกับประชาชนด้วยว่าจะนำเงินที่ไหนมาทำโครงการและจะลดความเสียหายอย่างไร ไม่ใช่ทำงานการเมืองเพื่อหวังคะแนนเสียงเพียงอย่างเดียวโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายของบ้านเมือง และขอตั้งข้อสังเกตว่ามีข่าวตลอดว่าอาจมีการยุบสภาเร็วๆ นี้ จึงสงสัยว่าข่าวยุบสภาอาจเป็นเรื่องจริงเพราะรัฐบาลกำลังขยายเวลาการรับจำนำข้าวที่ 15,000 บาทออกไปเพื่อหลอกเกษตรกรว่าพรรคเพื่อไทยทำได้ตามที่หาเสียงใช่หรือไม่”

นายชวนนท์กล่าวว่า รัฐบาลกำลังประสบกับปัญหา 1 โกง 2 กู้ คือ หนึ่งโกงจำนำข้าว และสองกู้คือ กู้บริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน แม้ศาลปกครองให้ไปปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ แต่รัฐบาลยังเดินหน้ากู้เงินแสดงให้เห็นว่ามีวัตถุประสงค์ต้องการเบิกเงินมาเก็บในกระเป๋ามากกว่าที่จะหวังเห็นผลสัมฤทธิ์ในการแก้ปัญหาอุทกภัยอย่างแท้จริง ขอให้จับตาการลงนามในสัญญากู้เงินกับสถาบันการเงินของรองปลัดกระทรวงการคลังว่า หากมีการคิดดอกเบี้ยก็จะสร้างความเสียหายให้กับประเทศ เพราะถ้าศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามศาลปกครองชั้นต้นจะต้องมีคนรับผิดชอบ และเห็นว่ารัฐบาลขณะนี้เก่งแต่กู้ และกู้รอโกง ส่วนการกู้เงิน 2 ล้านล้าน เชื่อว่าจะมีสภาพไม่ต่างอะไรกับเงินกู้ 3.5 แสนล้านเพราะไม่มีรายละเอียดในการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งยืนยันว่ารัฐบาลหวังแต่จะกู้เงินเพื่อรอการโกงในขั้นตอนการปฏิบัติงานเท่านั้น จึงเป็น 1 โกง และ 2 กู้รอมาโกง ที่รัฐบาลต้องเร่งปรับปรุง

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ฝากถึงกรณีนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมว.พาณิชย์ และทีมงาน ให้ปฏิบัติตามสัญญาในการรับจำนำข้าว 15,000 บาทตามที่ได้หาเสียงไว้ หากทำไม่ได้ก็ต้องรับผิดชอบไม่เช่นนั้นแต่ละพรรคจะไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน โดยชาวนาฝากขู่มาว่าหากไม่ทำตามสัญญาเจอกันแน่

สำหรับการตรวจสอบการบริหารสต๊อคข้าวในโครงการจำนำของรัฐบาลนั้น ยืนยันว่าไม่ควรทำในเชิงปริมาณเหมือนที่ทำไปก่อนหน้านี้แต่ต้องทำในเชิงคุณภาพ คือต้องผ่าโกดังตรวจสอบ ซึ่งตนขอย้ำว่าข้าวที่เสื่อมสภาพไม่ใช่แค่จัดเก็บแต่เกิดจากการทุจริต ซึ่งเชื่อว่าการขาดทุนจะมากกว่า 2.6 แสนล้านบาท จึงขอให้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับข้าวเน่า และเสื่อมสภาพที่ถูกซุกไว้หรือที่เรียกว่า “ล้อมกอง หยอดลงหลุม” เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น

นพ.วรงค์ยังได้นำคลิปข้าวเน่าที่โรงสีจำรัสท่าข้าว อ.พะยุหคีรี จ.นครสวรรค์ ซึ่งมีบันทึกไว้ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2555 และเคยนำไปเปิดประกอบการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรมาเผยแพร่อีกครั้งเพื่อเตือนความจำประชาชนและรมว.พาณิชย์คนใหม่ให้ตรวจสอบข้าวแบบคุณภาพอย่าางจริงจัง โดยเนื้อหาในคลิปมีการแทงกระสอบข้าวเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นข้าวเสื่อมคุณภาพมีลักษณะเป็นสีเหลืองและนำกระสอบข้าวดังกล่าวไปหยอดลงหลุมคือตรงกลางล้อมลอบด้วยข้าวดีด้านนอก ทำให้การตรวจสอบแบบปกติไม่พบข้าวเสื่อมคุณภาพที่ถูกซุกไว้ด้านใน

“สิ่งที่น่าเสียดาย คือ เวลาผ่านมาเกือบหนึ่งปี รัฐบาลกลับไม่ดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง ทั้งที่ตนได้เปิดโปงมานานแล้ว ทั้งนี้ยังเชื่อด้วยว่าหากตรวจสอบอย่างจริงจังจะพบว่ามีความเสียหายจากโครงการจำนำข้าวสูงกว่าที่เป็นอยู่อย่างแน่นอน ส่วนกรณีข้าวที่ส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาที่รัฐบาลอ้างว่าเป็นข้าวของเอกชนนั้น ตนขอยืนยันว่าคุณภาพข้าวของเอกชนดีกว่าของรัฐบาล หากข้าวของเอกชนมีปัญหาข้าวของรัฐบาลจะมีปัญหามากกว่า จึงอยากให้รัฐบาลเอาจริงเอาจังในเรื่องนี้ โดยเฉพาะนายนิวัฒน์ธำรง”

นายชวนนท์กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงตามราวีกลุ่มหน้ากากขาวในพื้นที่ต่างๆ ว่า การชุมนุมของกลุ่มหน้ากากขาวอยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่มีการละเมิดสิทธิบุคคลอื่น ไม่กีดขวางการจราจร ไม่ปิดแยกถนนราชประสงค์ หรือในต่างจังหวัดก็ไม่ปิดศาลากลางจังหวัด ไม่มีการเผาห้าง หรือสถานที่ราชการ ดังนั้น เมื่อเป็นการแสดงออกตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ รัฐบาลต้องดูแล แต่ขณะนี้รัฐบาลกลับจงใจใช้สมุนของรัฐบาลคือคนเสื้อแดงกลุ่มหนึ่งที่อ้างว่าตัวเองเป็นนักต่อสู้ประชาธิปไตย แต่พฤติกรรมตรงกันข้ามกับประชาธิปไตยเพราะเป็นพฤติกรรมของคนที่มีจิตใจเป็นเผด็จการ ซึ่งคนเหล่านี้คงดำเนินการเช่นนี้ไม่ได้หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เพราะมีการทำร้ายร่างกายและข่มขู่ผู้อื่นตลอดเวลา

“หากรัฐบาลไม่ปรับปรุงพฤติกรรมก็เชื่อว่าประชาชนทั้งประเทศจะลุกฮือขึ้นมาต่อต้านรัฐบาลที่ทุจริตคอร์รัปชัน ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย และยังใช้อำนาจรัฐข่มขู่ประชาชนของตัวเอง โดยเห็นว่าเราเข้าสู่รัฐบาลเผด็จการที่แย่กว่าในอดีต น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถึงทางแยกที่ต้องตัดสินใจ หากจะนำรัฐบาลเดินหน้าต่อด้วยการใช้อำนาจที่ไม่ชอบธรรม ดูแลประชาชนแบบสองมาตรฐาน เชื่อว่าไม่มีใครยอมใคร สุดท้ายแผ่นดินจะลุกเป็นไฟในสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ขอให้แก้ไขอย่าลอยตัวอยู่เหนือปัญหา เหมือนที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงานระบุ”



กำลังโหลดความคิดเห็น