xs
xsm
sm
md
lg

RATCH ตั้งเป้าปีนี้กำไร 6 พันล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - “ผลิตไฟฟ้าราชบุรีฯ” ตั้งเป้าปีนี้ฟันกำไร 6 พันล้านบาท ลดลงจากปีก่อน เหตุไม่มีกำไรพิเศษจากการขายโรงไฟฟ้า แย้มจ่อลงทุนโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นรวม 200 เมกะวัตต์ ส่วนการเข้าประมูลซื้อโรงไฟฟ้าออสซี่อยู่ระหว่างการเจรจาพันธมิตร ย้ำหากเจรจาไม่สำเร็จก็ไม่ยื่นประมูล ชงบอร์ดอนุมัติแผนธุรกิจใหม่ ตั้งเป้าผลิตไฟ 1.2 หมื่นเมกะวัตต์ในปี 63

นายพงษ์ดิษฐ พจนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (RATCH) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้ใกล้เคียงปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 6 พันล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2555 ที่มีกำไรสุทธิ 7.72 พันล้านบาท เนื่องจากปีนี้บริษัทฯ ไม่มีกำไรพิเศษจากการขายโรงไฟฟ้าที่ออสเตรเลีย แต่ถ้าไม่นำรายการพิเศษมารวมแล้วถือว่าปีนี้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิสูงพอสมควร

ส่วนความคืบหน้าการทบทวนแผนกลยุทธ์และการดำเนินธุรกิจใหม่เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้น ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับแผนธุรกิจ โดยจะมีการสัมมนาผู้บริหารและกรรมการบริหารในวันที่ 11-12 ต.ค.นี้ หลังจากนั้นจะนำผลเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ พิจารณาในเดือน พ.ย.นี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือนจึงจะได้ข้อสรุป ทั้งในด้านการพัฒนาโครงการใหม่และการเข้าไปซื้อหรือควบรวมกิจการ

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะมุ่งเน้นการลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียนเป็นหลัก รวมทั้งออสเตรเลีย รวมเป็น 7 ประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว พม่า อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และออสเตรเลีย โดยมีเป้าหมายว่าบริษัทฯ จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 1.2 หมื่นเมกะวัตต์ในปี 2563 จากสิ้นปีนี้จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าประมาณ 6.3 พันเมกะวัตต์ โดยการลงทุนขนาดใหญ่จะอยู่ที่พม่า ซึ่งกระทรวงพลังงานได้ให้นโยบายบริษัทฯ เข้าไปร่วมลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนท่าซาง หรือโครงการโรงไฟฟ้ามายตงที่พม่า ขนาดกำลังการผลิต 6 พันเมกะวัตต์ ส่วนการพัฒนาโรงไฟฟ้าทวายนั้นเป็นการลงทุนของ บมจ.ผลิตไฟฟ้า (เอ็กโก กรุ๊ป)

สำหรับการลงทุนโรงไฟฟ้าในประเทศไทยนั้น ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจาซื้อโรงไฟฟ้า SPP ประมาณ 1-2 ราย คาดว่าจะมีความชัดเจนในกลางปีหน้า ใช้เงินลงทุนประมาณ 1-2 พันล้านบาท รวมทั้งเสนอขอเข้าร่วมทุนกับกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ที่ชนะประมูลไอพีพีรอบใหม่นี้ด้วย แต่ยังไม่ได้รับคำตอบเนื่องจากกลุ่มกัลฟ์ฯ อยู่ระหว่างการเจรจาสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) และเมื่อเจรจาเสร็จสิ้นก็จะดำเนินการทำ EIA โดยใช้เวลาทำ 1-2 ปี

นายพงษ์ดิษฐกล่าวถึงการเข้าไปลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) ในประเทศญี่ปุ่นว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจราจากับพันธมิตร คาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ โดยจะแบ่งเป็น 3 พื้นที่ คิดเป็นกำลังการผลิตรวม 40 เมกะวัตต์ ใช้เงินลงทุนเมกะวัตต์ละ 120 ล้านบาท โดยบริษัทฯ จะเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 40% คาดว่าจะจ่ายไฟฟ้าได้ภายใน 1-1 ปีครึ่ง

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนเพิ่มการพัฒนาโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่นอีก 6 พื้นที่ กำลังการผลิตรวม 160 เมกกะวัตต์ โดยบริษัทฯ จะเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 60% สาเหตุที่เข้าไปลงทุนทำโครงการโซลาร์ฟาร์มที่ญี่ปุ่นนั้น เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นสนับสนุนโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โดยรับซื้อไฟฟ้า Feed in Tariff 13-14 บาทต่อหน่วย เป็นเวลานานถึง 20 ปี

ส่วนการยื่นประมูลโครงการโรงไฟฟ้าแมคควารีในออสเตรเลียนั้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปในการหาพันธมิตรในสัปดาห์นี้ หลังจากนั้นจะดำเนินการจดทะเบียนตั้งบริษัทร่วมทุนแล้วยื่นประมูลให้ทันวันที่ 20 ต.ค.นี้ หากไม่สามารถหาพันธมิตรร่วมทุนได้ก็คงไม่ยื่นประมูลโรงไฟฟ้าดังกล่าว เนื่องจากบอร์ดบริษัทฯ มีมติให้เข้าไปลงทุนถือหุ้น 1 ใน 3 ของโครงการ เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ใช้เงินลงทุนราว 2 พันล้านเหรียญออสเตรเลีย

ขณะที่แผนการลงทุนร่วมกับ บมจ.บ้านปูเพื่อศึกษาการลงทุนโรงไฟฟ้าถ่านหินในอินโดนีเซียนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา ยังไม่มีข้อสรุป
กำลังโหลดความคิดเห็น