ASTVผู้จัดการรายวัน - ผลิตไฟฟ้าราชบุรีเตรียมยื่นประมูลซื้อกิจการโรงไฟฟ้าแมคควารี ที่ออสเตรเลีย กำลังผลิต 4,640 เมกะวัตต์ เงินลงทุน 900-1,200 ล้านเหรียญออสเตรเลีย โดยเจรจาหาพันธมิตร 2 รายร่วมประมูลโครงการนี้ด้วย คาดว่าได้ข้อสรุปปลายปีนี้ ส่วนผลดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปีนี้กำไรฮวบ 24%
นายพีระวัฒน์ พุ่มทอง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ วางแผนและพัฒนาธุรกิจ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (RATCH) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมยื่นหนังสือแสดงเจตจำนงเข้าประมูลซื้อกิจการโรงไฟฟ้าแมคควารี มลรัฐนิวเซาท์เวลส์ ออสเตรเลีย กำลังการผลิตติดตั้ง 4,640 เมกะวัตต์ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 900-1,200 ล้านเหรียญออสเตรเลีย พร้อมทั้งเจราจาหาพันธมิตรเพื่อเข้าร่วมประมูลโรงไฟฟ้าดังกล่าวจำนวน 2 รายซึ่งเป็นบริษัทต่างชาติที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับโรงไฟฟ้าและสายส่งที่มีฐานการผลิตอยู่ที่ออสเตรเลียด้วย คาดว่าจะมีความชัดเจนก่อนเดือน ต.ค. 2556 ที่จะต้องมีการยื่นประมูลราคาและรายชื่อผู้ร่วมประมูล
โดยโครงการดังกล่าวบริษัทฯ จะเข้าไปถือหุ้น 30-40% ซึ่งโรงไฟฟ้าดังกล่าวเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินที่มีต้นทุนการผลิตต่ำ บริษัทฯ มีความมั่นใจที่จะชนะการประมูล ล่าสุดมีผู้สนใจเข้ายื่นประมูลแล้ว 5 ราย มีทั้งญี่ปุ่น และจีน เป็นต้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปลายปีนี้ หากบริษัทฯ ชนะประมูลโครงการคังกล่าวก็จะมีการพิจารณาที่จะดึง บมจ.ผลิตไฟฟ้า (เอ็กโก กรุ๊ป) หรือ กฟผ.อินเตอร์เนชันแนล ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ กฟผ.เข้าร่วมถือหุ้นด้วย และรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวในปีถัดไป
นายพีระวัฒน์กล่าวต่อไปว่า บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาลงทุนโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในต่างประเทศอีก 3 โครงการ กำลังการผลิตรวม 45 เมกะวัตต์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 3/2556 รวมทั้งยังมีความสนใจที่จะลงทุนโรงไฟฟ้าในประเทศเพื่อนบ้านทั้งกัมพูชา พม่า และลาว โดยเฉพาะโครงการพลังน้ำ-น้ำม่วน ขนาดกำลังผลิต 160 เมกะวัตต์ที่ลาวนั้นอยู่ระหว่างการศึกษาความคุ้มทุนอีกครั้ง หากมีความเหมาะสมก็จะเจรจากับรัฐบาลลาวและ กฟผ.ต่อไป ซึ่งแนวโน้มการลงทุนของบริษัทฯ ในระยะสั้นส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในต่างประเทศ ส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 9% ของรายได้รวม
“โครงการใหม่ที่มีศักยภาพที่บริษัทฯ พิจารณาลงทุนในปีนี้ส่วนใหญ่เป็นโครงการพลังงานทดแทนในต่างประเทศ เพราะหลายประเทศมีเป้าหมายชัดเจนในการส่งเสริมพลังงานทดแทน ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการลงทุนที่พร้อมลงทุน 6 โครงการ ประกอบด้วย โครงการพลังงานลมในออสเตรเลีย 2 โครงการ กำลังผลิตรวม 420 เมกะวัตต์ และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ 4 โครงการ กำลังผลิตรวม 65 เมกะวัตต์ โดยหนึ่งโครงการมีกำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในออสเตรเลีย อีก 3 โครงการตั้งอยู่ในประเทศอื่น”
สำหรับงบลงทุนในปี 2557-61 จะใช้เงินลงทุนตามแผนงานโครงการต่างๆ 1.2 หมื่นล้านบาท ส่วนโครงการใหม่ที่อยู่ระหว่างการยื่นประมูลหรือเจรจาซื้อกิจการนั้นยังไม่ได้บรรจุอยู่ในแผนการลงทุน 5 ปีข้างหน้า ทั้งนี้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเป็นผู้ผลิตไฟฟ้ารวม 7,800 เมกะวัตต์ในปี 2559 จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตไฟอยู่ 5,300 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 1,200 เมกะวัตต์
ด้านความพร้อมของเงินทุนนั้น บริษัทฯ มีเงินทุนหมุนเวียน 9,918 ล้านบาท วงเงินในการออกหุ้นกู้สกุลบาทอีก 7,500 ล้านบาท และวงเงินออกหุ้นกู้สกุลต่างประเทศอีก 500 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพียงพอที่จะใช้ในการพัฒนาโครงการหรือซื้อกิจการในอนาคต
นายพีระวัฒน์กล่าวถึงผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปีนี้ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 2.76 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิ 3.71 พันล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็นร้อยละ 23.88 ส่วนครึ่งปีหลังทั้งรายได้และกำไรสุทธิจะดีกว่าช่วงครึ่งปีหลัง 2555 เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคาต่ำกว่าปีก่อน แม้ว่าจะมีการหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าบางโรงก็ตาม