กทพ.เร่งปรับข้อมูลประมวลผล Easy Pass รองรับไม่ต่ำกว่า 1 ล้านเที่ยว/วัน ประมวลผลใน 15 นาที ยัน 30 ก.ย.ไม่มีปัญหา ขณะที่ยังเหลือ 2 หมื่นใบเงินสำรองยังติดลบ แจงด่านประชาอุทิศ และพระราม 9 แสดงผลเงินคงเหลือล่าช้า เหตุติดปมรอยต่อกับ BECL
นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติ (Easy Pass) ว่า จากการดำเนินการปรับปรุงซอฟต์แวร์ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาทำให้ระบบสามารถส่งผ่านข้อมูลเพิ่มจาก 2.5 แสนเที่ยวต่อวัน เป็น 5.5 แสนเที่ยว/วัน ส่วนการเติมเงิน/ตัดเงิน/แสดงผล เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยภายในวันที่ 30 กันยายนจะปรับปรุงให้ระบบสามารถรองรับข้อมูลได้ 1 ล้านเที่ยว/วัน และประมวลผลได้เร็วกว่า 15 นาที ในอนาคตจะปรับปรุงให้แสดงผลได้เร็วกว่านี้ คาดว่าภายในสิ้นเดือนกันยายน 2556 นี้ โดยปัจจุบันเหลือบัตรที่มียอดเงินสำรองในบัตรติดลบประมาณ 2 หมื่นใบจากที่มี 4 หมื่นใบช่วงที่มีการปรับปรุงข้อมูลเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา
“ขณะนี้ กทพ.จะงดส่ง SMS แจ้งยอดเงินคงเหลือในบัตรที่มีปัญหาเนื่องจากระบบเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ โดยการเติมเงิน/ตัดเงิน/แสดงผลเป็นไปตามการใช้งานจริงแล้ว ซึ่งสถิติการใช้ Easy Pass ของผู้ใช้งานเมื่อวันที่ 2 กันยายนจำนวน 7.42 แสนเที่ยว/วัน ส่วนวันที่ 13 กันยายนจำนวน 5.12 แสนเที่ยว/วัน ซึ่งเป็นจำนวนที่ปกติ ส่วนประชาชนที่ยังมีปัญหาถูกตัดเงินย้อนหลังและทำให้เงินในบัตรติดลบสามารถตรวจสอบข้อมูลการใช้งานจริงได้ทุกช่อง ทั้งอาคารด่านเก็บเงิน เว็บไซต์ www.thaieasypass.com และ Call Center 1543 ตลอด 24 ชม.
นายโกเมน พิบูลย์โรจน์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงปลอดภัยระบบสารสนเทศ กทพ.กล่าวว่า ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา กทพ.ได้ปรับปรุงซอฟต์แวร์ให้ส่งผลข้อมูลได้มากกว่า 5.5 แสนรายการ/วัน และปรับปรุงระบบประมวลผลให้รองรับปริมาณการจราจรได้รวดเร็วซึ่งทำให้เคลียร์บัญชีได้ภายในวันเดียว ซึ่งปัจจุบันมีช่องทาง Easy Pass 272 ด่าน ระบบสามารถแสดงผลเงินคงเหลือที่หน้าด่านได้ทันที จะมีที่ยังล่าช้าอยู่ 2 ด่าน คือ ด่านประชาอุทิศ และด่านพระราม 9 เนื่องจากทางกายภาพเป็นด่านรอยต่อที่มีระยะทางวิ่งไม่เกิน 5 นาที ในขณะที่ข้อมูลจากด่านต้องส่งเข้าไปที่บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BECL ก่อนแล้วจึงส่งมาที่ กทพ.ก่อนจะกลับไปที่ด่าน ทำให้เกิดความล่าช้าซึ่งกำลังเร่งปรับปรุง
อย่างไรก็ตาม หลังจากขยายการรองรับข้อมูลได้เป็น 1 ล้านรายการ/วันแล้ว เป้าหมายต่อไปจะต้องปรับปรุงระบบให้มีเสถียรภาพมากขึ้น ทั้งการเติมเงิน/ตัดเงิน/แสดงผล โดยการประมวลผลจะทำได้ใน 10 นาที ซึ่งระบบ Easy Pass จะแตกต่างจากการเติมเงินมือถือหรือบัตรโดยสารรถไฟฟ้า ซึ่งจากการเก็บสถิติด่านที่มีปริมาณจราจรหนาแน่น เช่น ดินแดง, บางนา, ดาวคะนอง พบว่าในช่วง 8 ชั่วโมงจะมีรถใช้ช่องทาง Easy Pass ประมาณ 2-3 หมื่นคัน จะมีประมาณ 66 คัน สาเหตุหลักคือไม่ติดบัตรไว้กับตัวรถ แต่ใช้การถือบัตรแทนทำให้เครื่องไม่อ่านถึง 80% อีก 20% เป็นปัญหาเงินสำรองในบัตรไม่พอ