ปธ.บอร์ด "การบินไทย" โต้ข่าวทิ้งผู้โดยสารที่บาดเจ็บ ย้ำมาตรฐานของการบินและนักบิน อยู่ในระดับการยอมรับของสากล พร้อมยืนยันจะดูแลเต็มที่ ขณะเดียวกัน "กลุ่มลูกเรือ" ได้โพสต์ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ "รักคนเท่าฟ้า" ยันสาเหตุที่ต้องสไลด์ตัวด้วยแพยางออกมาก่อน เพื่อรอรับผู้โดยสารอยู่ด้านล่าง และแนะนำวิธีสไลด์ที่ถูกต้องและรวดเร็ว ส่วนประเด็น ลูกเรือหายไปขณะเกิดเหตุ จริงๆ แล้วจะมีลูกเรือ 2 คนสุดท้ายบนเครื่อง เดินตรวจหาผู้โดยสารที่ติดค้าง และพาลงมาข้างล่าง
นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการ (บอร์ด) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวให้สัมภาษณ์กรณีเครื่องการบินไทยประสบอุบัติเหตุ โดยยืนยันว่า การบินไทยจะดูแลผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บเมื่อวานนี้อย่างเต็มที่ พร้อมปฏิเสธกระแสข่าวในโซเชียลมีเดียว่า การบินไทยทอดทิ้งผู้โดยสารที่ประสบเหตุ ย้ำมาตรฐานของการบินและนักบินของการบินไทยอยู่ในระดับการยอมรับของสากล
ส่วนสัมภาระของผู้โดยสาร ไม่สามารถนำออกมาได้ทันที เพราะต้องมีการตรวจสอบร่วมกันของ 3 หน่วยงานก่อน คือ ตัวแทนการบินไทย แอร์บัส และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ซึ่งดำเนินการเรียบร้อยแล้ว และติดต่อให้ผู้โดยสารมารับในเช้าวันนี้
สำหรับผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บ เหลือเพียง 2 ราย ที่ยังพักรักษาตัวในโรงพยาบาล โดยมีผู้บริหารระดับสูงการบินไทยดูแลด้วยตัวเอง รวมถึงการชดเชยความเสียหายอื่นๆ ด้วย ส่วนการเคลื่อนย้ายเครื่องบินจากที่เกิดเหตุต้องใช้ เวลาอีก 1 วัน
โดยก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวเผยแพร่ทั้งในฟรีทีวี และในสื่อต่างๆ ระบุว่า กลุ่มผู้โดยสารที่ประสบอุบัติเหตุ ได้ออกมาโวยว่าลูกเรือไม่ได้ให้ความช่วยเหลือผู้โดยสาร แถมซ้ำหนีออกจากตัวเครื่องก่อนที่ผู้โดยสารจะลงจากเครื่องหมด
ขณะที่ กลุ่มลูกเรือการบินไทย โพสต์ชี้แจงขั้นตอนการปฏิบัติกรณีเกิดอุบัติเหตุบนเครื่องบิน ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ “รักคนเท่าฟ้า” จำนวน 2 ตอน หลังถูกผู้โดยสาร กรณีเครื่องบิน แอร์บัส เอ 330-300 เที่ยวบินที่ TG 679 เส้นทางกวางโจว-สุวรรณภูมิ ไถลออกนอกรันเวย์ ฝั่งตะวันออก ขณะร่อนลงจอด เมื่อช่วง 23.30 น. เมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยผู้โดยสารที่ประสบเหตุในเที่ยวบินระทึก ได้บุกประท้วงแสดงความไม่พอใจการให้บริการที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ของลูกเรือการบินไทย ถึงกลางสนามบินสุวรรณภูมิ
กลุ่มลูกเรือการบินไทย กล่าวว่า พวกเขาได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างครบถ้วนตามที่องค์กรการบินระหว่างประเทศกำหนด โดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ลูกเรือจะต้องสไลด์ตัวด้วยแพยางออกมาก่อน เพื่อรอรับผู้โดยสารอยู่ด้านล่าง และแนะนำวิธีสไลด์ที่ถูกต้องและรวดเร็ว ส่วนประเด็น ลูกเรือหายไปขณะเกิดเหตุ จริงๆ แล้วจะมีลูกเรือ 2 คนสุดท้ายบนเครื่องเดินตรวจหาผู้โดยสารที่ติดค้าง และพาลงมาข้างล่าง หากมีผู้บาดเจ็บ ทีมลูกเรือทั้ง 14 คน จะช่วยปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บก่อน และทยอยลำเลียงผู้โดยสารคนอื่นๆ ออกห่างจากเครื่องบิน อย่างน้อย 200 เมตร แต่กรณีนี้โชคดีทีพนักงานภาคพื้นเข้ามารับช่วงต่อ
ส่วนประเด็น ลูกเรือไม่ยอมอำนวยความสะดวกเรื่องการตรวจคนเข้าเมือง ต้องขอชี้แจงว่า ลูกเรือการบินไทยไม่ได้รับอนุญาตจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้เข้าพื้นที่ได้ จึงต้องคอยอยู่เฝ้าเครื่องบิน และดูแลผู้โดยสารที่ไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรง
ทั้งนี้ กลุ่มลูกเรือการบินไทยยังได้ขอร้องผู้โดยสารให้ความสนใจรับฟังวิดีโอแนะนำความปลอดภัย หรือ สาธิตการใช้หน้ากากออกซิเจน เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร
