“ชัชชาติ” สั่ง ขบ.เร่งสรุปโครงสร้างค่ามิเตอร์แท็กซี่ใหม่ใน 1 เดือน เล็งปรับอัตราช่วงรถติดหรือรถไม่เคลื่อนตัว ยอมรับราคาที่ต่ำกว่าต้นทุนอาจจะเป็นต้นเหตุแท็กซี่ปฏิเสธรับผู้โดยสาร และยังช่วยลดผลกระทบขึ้นค่าแอลพีจีได้ด้วย พร้อมดึงเจ้าของรถร่วมรับผิดกรณีคนขับทำผิด หวังช่วยคัดกรองคนขับให้ดีขึ้นกว่าเดิม
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กรณีกลุ่มคนขับรถแท็กซี่ชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาลเรียกร้องให้รัฐช่วยเหลือจากผลกระทบการปรับเพิ่มราคาก๊าซแอลพีจีนั้น ปัจจุบันรถแท็กซี่ที่ใช้ก๊าซแอลพีจีมีส่วนหนึ่งแต่น้อยกว่ารถที่ใช้ก๊าซเอ็นจีวี และยังไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับราคาก๊าซแอลพีจีในขณะนี้ ซึ่งได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) พิจารณาโครงสร้างอัตราค่ามิเตอร์ที่เหมาะสมกับต้นทุนที่แท้จริงในปัจจุบันให้ได้ข้อสรุปใน 1 เดือน
นอกจากนี้ คนขับรถแท็กซี่ยังเรียกร้องขอให้ยกเว้นการจับกุมกรณีปฏิเสธรับผู้โดยสารซึ่งขณะนี้ได้มีการตรวจจับอย่างเข้มข้นนั้น เรื่องนี้คงผ่อนผันให้ตามที่ขอมาไม่ได้เพราะมีผลกระทบต่อประชาชน ยืนยันว่าจะต้องเข้มข้นการตรวจจับต่อไป ส่วนอีกข้อเรียกร้องคือ ขอปรับค่ามิเตอร์ในช่วงรถติดหรือขณะรถไม่เคลื่อนตัว ซึ่ง ขบ.อยู่ระหว่างพิจารณาอัตราที่เหมาะสมและเป็นธรรม ยอมรับอัตรามิเตอร์ที่จัดเก็บในช่วงรถติดที่กำหนดในปัจจุบันยังต่ำเกินไป โดยกำหนดที่ความเร็วต่ำกว่า 6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตรามิเตอร์ที่ 1.50 บาทต่อนาที และอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้แท็กซี่ปฏิเสธรับผู้โดยสารหรือไม่ ซึ่งหากปรับจะมี 2 รูปแบบ คือ ปรับอัตราความเร็วขั้นต่ำ หรือปรับอัตรามิเตอร์ต่อนาที
“เรื่องนี้เป็นหลักวิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ ซึ่งทาง ขบ.มีตัวเลขเบื้องต้นแล้ว ซึ่งการปรับอัตรามิเตอร์จะต้องดูทุกองค์ประกอบ ทั้งราคาแอลพีจี ปัญหารถติด อะไรที่ไม่ยุติธรรมไม่คุ้มกับต้นทุนก็ต้องปรับให้ แต่ต้องอธิบายได้ เช่น หากวิ่งเข้าจุดที่รถติดผู้โดยสารอาจต้องจ่ายมิเตอร์เพิ่มเพื่อให้คุ้มกับต้นทุนจริง ซึ่งเมื่อแท็กซี่อยู่ได้ การปฏิเสธรับผู้โดยสารก็จะลดลงไปด้วย ส่วนจะบังคับให้รถแท็กซี่มาใช้ก๊าซเอ็นจีวีกันทั้งหมดก็คงไม่ได้เพราะแอลพีจีเติมได้เร็วกว่า และปั๊มเอ็นจีวียังมีไม่มากพอด้วย ต้องให้เป็นเรื่องของความสมัครใจ” นายชัชชาติกล่าว
อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่องไม่กดมิเตอร์ที่ผ่านมาเน้นจับคนขับเป็นหลัก แต่หลังจากนี้จะเน้นเอาผิดเจ้าของรถด้วย เพราะถือเป็นผู้คัดเลือกคนขับรถ โดยให้ ขบ.หาวิธีการดำเนินการ หากเจ้าของรถไม่มีส่วนร่วมรับผิดชอบก็จะปล่อยให้ใครก็ได้มาขับรถ แต่จากนี้ต้องคัดกรองคนขับ ซึ่งมีข้อระเบียบกำหนดให้เจ้าของรถต้องแจ้งชื่อคนขับต่อ ขบ.ตลอดเวลา ข้อมูลต้องออนไลน์ ตรวจสอบได้ทันที