ASTVผู้จัดการรายวัน- กลุ่มสหกรณ์แท็กซี่ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีหลังรัฐจ่อปรับขึ้นราคาแก๊สLPG กิโลกรัมละ 50 สตางค์ เป็นเวลา 12 เดือน ขณะที่ "ชัชชาติ”สั่งกรมการขนส่งทางบกเร่งสรุปโครงสร้างค่ามิเตอร์แท็กซี่ใหม่ใน 1 เดือน พร้อมดึงเจ้าของรถร่วมรับผิดกรณีคนขับทำผิด หวังช่วยคัดกรองคนขับให้ดีขึ้นกว่าเดิม
เมื่อวานนี้ ( 26 ส.ค. 56) ได้มีกลุ่มแท็กซี่ประมาณ 200 คัน นำโดยนายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ ได้รวมตัวกันที่ลานพระบรมรูปทรงม้า และได้มีแท็กซี่ประมาณ 50 คัน เดินทางมาที่ประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ศาล รมว.พลังงาน ผ่านนาย นายสมพาศ นิลพันธ์ ผู้ช่วยปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้ กลุ่มสหกรณ์แท็กซี่ได้มารวมตัวชุมนุมกันที่บริเวณทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นหนังสือข้อเรียกร้องให้กับนายกรัฐมนตรี จากกรณีที่รัฐบาลมีนโยบายปรับขึ้นราคาแก๊สLPG กิโลกรัมละ 50 สตางค์ เป็นเวลา 12 เดือน ส่วนการควบคุมการจำหน่ายแก๊สให้เป็นไปตามประกาศของกรมการค้าภายใน เนื่องจากศูนย์บริการมีการจำหน่ายแก๊สเกินกว่าที่มีการควบคุม ถึงกิโลกรัมละ 3 บาท ประกอบกับมาตรค่าโดยสารไม่มีการปรับราคามากว่า 5ปีแล้ว ทำให้รายรับไม่เพียงพอกับรายจ่ายในขณะนี้ หากมีการรับค่าแก๊ส ก็จะส่งผลกระทบกับผู้ขับรถแท็กซี่
***ร้องศาลปกครองขอขึ้นค่ามิเตอร์
นายสมบุญ จรรยาเลิศ ตัวแทนกลุ่มสมัชชาแท็กซี่แห่งชาติ ได้ยื่นฟ้องรมว.คมนาคม ต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้มีคำสั่งให้ รมว.คมนาคม พิจารณาปรับปรุง กฎกระทรวง ว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสาร ไม่เกิน7 คน ที่จดทะเบียนในเขตกทม. 2550 ข้อ 15 วรรคแรก ซึ่งเกี่ยวกับกำหนดอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารสำหรับรถรับจ้างและอัตราค่าจ้างให้เพิ่มขึ้นโดยคิดจากค่าครองชีพและต้นทุนที่สูงขึ้นตามความเป็นจริง
โดยทางกลุ่มฯต้องการให้รัฐมนตรีดำเนินการปรับอัตราเรียกเก็บค่าโดยสารเริ่มแรกจาก35 บาท เป็นเพดานขั้นต่ำไม่เกิน 50 บาทระยะทางในไม่เกิน 2กิโลเมตรแรก และกิโลเมตรต่อไปไม่เกินกิโลเมตรละ 12 บาท ส่วนกรณีที่ไม่สามารถเคลื่อนที่หรือเดินรถต่อไปได้ตามปกติวิสัยให้เพิ่มขึ้นในอัตรานาทีละไม่เกิน 3 บาท สำหรับการเรียกจ้างผ่ายศูนย์บริการสื่อสารของผู้รับจ้างจากเดิม 20 บาท ให้กำหนดได้ไม่เกิน 50 บาท และกรณีการจ้างจากท่าอากาศยาน หรือ สถานที่ที่กระทรวงคมนาคมประกาศกำหนดให้กำหนดเรียกเพิ่มจากผู้โดยสารได้อีกไม่เกิน 100 บาท เนื่องจากเห็นว่าสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันมีค่าครองชีพและต้นทุนสูงขึ้นจากอดีต โดยรัฐไม่สามารถควบคุมได้ แต่อัตราค่าโดยสารกลับถูกควบคุมถือว่าไม่มีความยุติธรรมกับผู้ประกอบอาชีพแท็กซี่
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ปัจจุบันรถแท็กซี่ที่ใช้ก๊าซแอลพีจีมีส่วนหนึ่งแต่น้อยกว่ารถที่ใช้ก๊าซเอ็นจีวี และยังไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับราคาก๊าซแอลพีจีในขณะนี้ซึ่งได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) พิจารณาโครงสร้างอัตราค่ามิเตอร์ที่เหมาะสมกับต้นทุนที่แท้จริงในปัจจุบัน ให้ได้ข้อสรุปใน 1 เดือน
“เรื่องนี้เป็นหลักวิทยาศาสตร์ พิสูจน์ได้ ซึ่งทางขบ.มีตัวเลขเบื้องต้นแล้ว ซึ่งการปรับอัตรามิเตอร์จะต้องดูทุกองค์ประกอบ ทั้งราคาแอลพีจี ปัญหารถติด อะไรที่ไม่ยุติธรรมไม่คุ้มกับต้นทุนก็ต้องปรับให้ แต่ต้องอธิบายได้ เช่น หากวิ่งเข้าจุดที่รถติดผู้โดยสารอาจต้องจ่ายมิเตอร์เพิ่ม เพื่อให้คุ้มกับต้นทุนจริง ซึ่งเมื่อแท็กซี่อยู่ได้การปฏิเสธรับผู้โดยสารก็จะลดลงไปด้วย ส่วนจะบังคับให้รถแท็กซี่มาใช้ก๊าซแอลพีจีกันทั้งหมด ก็คงไม่ได้เพราะ แอลพีจีเติมได้เร็วกว่า และปั๊มเอ็นจีวียังไม่มากพอด้วย ต้องให้เป็นเรื่องของความสมัครใจ”นายชัชชาติ
****พลังงานเล็งอุ้มแท็กซี่ใช้LPGราคาเดิม
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน กล่าวหลังการเข้าพบของเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในกทม.ว่า ราคาLPG ภาคขนส่ง 21.38 บาทต่อกิโลกรัม จะปรับขึ้นราคาอีกครั้งในเดือนก.พ.57 หรืออีก 6 เดือนข้างหน้าดังนั้นก็รับปากที่จะดูแลผลกระทบหากมีการปรับขึ้นส่วนจะเป็นรูปแบบใดจะได้หารือรายละเอียดภายหลัง รวมถึงการปรับอุปกรณ์จาก LPGเป็นใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์หรือ NGV ตามข้อเสนอ
เมื่อวานนี้ ( 26 ส.ค. 56) ได้มีกลุ่มแท็กซี่ประมาณ 200 คัน นำโดยนายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ ได้รวมตัวกันที่ลานพระบรมรูปทรงม้า และได้มีแท็กซี่ประมาณ 50 คัน เดินทางมาที่ประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ศาล รมว.พลังงาน ผ่านนาย นายสมพาศ นิลพันธ์ ผู้ช่วยปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้ กลุ่มสหกรณ์แท็กซี่ได้มารวมตัวชุมนุมกันที่บริเวณทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นหนังสือข้อเรียกร้องให้กับนายกรัฐมนตรี จากกรณีที่รัฐบาลมีนโยบายปรับขึ้นราคาแก๊สLPG กิโลกรัมละ 50 สตางค์ เป็นเวลา 12 เดือน ส่วนการควบคุมการจำหน่ายแก๊สให้เป็นไปตามประกาศของกรมการค้าภายใน เนื่องจากศูนย์บริการมีการจำหน่ายแก๊สเกินกว่าที่มีการควบคุม ถึงกิโลกรัมละ 3 บาท ประกอบกับมาตรค่าโดยสารไม่มีการปรับราคามากว่า 5ปีแล้ว ทำให้รายรับไม่เพียงพอกับรายจ่ายในขณะนี้ หากมีการรับค่าแก๊ส ก็จะส่งผลกระทบกับผู้ขับรถแท็กซี่
***ร้องศาลปกครองขอขึ้นค่ามิเตอร์
นายสมบุญ จรรยาเลิศ ตัวแทนกลุ่มสมัชชาแท็กซี่แห่งชาติ ได้ยื่นฟ้องรมว.คมนาคม ต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้มีคำสั่งให้ รมว.คมนาคม พิจารณาปรับปรุง กฎกระทรวง ว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสาร ไม่เกิน7 คน ที่จดทะเบียนในเขตกทม. 2550 ข้อ 15 วรรคแรก ซึ่งเกี่ยวกับกำหนดอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารสำหรับรถรับจ้างและอัตราค่าจ้างให้เพิ่มขึ้นโดยคิดจากค่าครองชีพและต้นทุนที่สูงขึ้นตามความเป็นจริง
โดยทางกลุ่มฯต้องการให้รัฐมนตรีดำเนินการปรับอัตราเรียกเก็บค่าโดยสารเริ่มแรกจาก35 บาท เป็นเพดานขั้นต่ำไม่เกิน 50 บาทระยะทางในไม่เกิน 2กิโลเมตรแรก และกิโลเมตรต่อไปไม่เกินกิโลเมตรละ 12 บาท ส่วนกรณีที่ไม่สามารถเคลื่อนที่หรือเดินรถต่อไปได้ตามปกติวิสัยให้เพิ่มขึ้นในอัตรานาทีละไม่เกิน 3 บาท สำหรับการเรียกจ้างผ่ายศูนย์บริการสื่อสารของผู้รับจ้างจากเดิม 20 บาท ให้กำหนดได้ไม่เกิน 50 บาท และกรณีการจ้างจากท่าอากาศยาน หรือ สถานที่ที่กระทรวงคมนาคมประกาศกำหนดให้กำหนดเรียกเพิ่มจากผู้โดยสารได้อีกไม่เกิน 100 บาท เนื่องจากเห็นว่าสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันมีค่าครองชีพและต้นทุนสูงขึ้นจากอดีต โดยรัฐไม่สามารถควบคุมได้ แต่อัตราค่าโดยสารกลับถูกควบคุมถือว่าไม่มีความยุติธรรมกับผู้ประกอบอาชีพแท็กซี่
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ปัจจุบันรถแท็กซี่ที่ใช้ก๊าซแอลพีจีมีส่วนหนึ่งแต่น้อยกว่ารถที่ใช้ก๊าซเอ็นจีวี และยังไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับราคาก๊าซแอลพีจีในขณะนี้ซึ่งได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) พิจารณาโครงสร้างอัตราค่ามิเตอร์ที่เหมาะสมกับต้นทุนที่แท้จริงในปัจจุบัน ให้ได้ข้อสรุปใน 1 เดือน
“เรื่องนี้เป็นหลักวิทยาศาสตร์ พิสูจน์ได้ ซึ่งทางขบ.มีตัวเลขเบื้องต้นแล้ว ซึ่งการปรับอัตรามิเตอร์จะต้องดูทุกองค์ประกอบ ทั้งราคาแอลพีจี ปัญหารถติด อะไรที่ไม่ยุติธรรมไม่คุ้มกับต้นทุนก็ต้องปรับให้ แต่ต้องอธิบายได้ เช่น หากวิ่งเข้าจุดที่รถติดผู้โดยสารอาจต้องจ่ายมิเตอร์เพิ่ม เพื่อให้คุ้มกับต้นทุนจริง ซึ่งเมื่อแท็กซี่อยู่ได้การปฏิเสธรับผู้โดยสารก็จะลดลงไปด้วย ส่วนจะบังคับให้รถแท็กซี่มาใช้ก๊าซแอลพีจีกันทั้งหมด ก็คงไม่ได้เพราะ แอลพีจีเติมได้เร็วกว่า และปั๊มเอ็นจีวียังไม่มากพอด้วย ต้องให้เป็นเรื่องของความสมัครใจ”นายชัชชาติ
****พลังงานเล็งอุ้มแท็กซี่ใช้LPGราคาเดิม
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน กล่าวหลังการเข้าพบของเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในกทม.ว่า ราคาLPG ภาคขนส่ง 21.38 บาทต่อกิโลกรัม จะปรับขึ้นราคาอีกครั้งในเดือนก.พ.57 หรืออีก 6 เดือนข้างหน้าดังนั้นก็รับปากที่จะดูแลผลกระทบหากมีการปรับขึ้นส่วนจะเป็นรูปแบบใดจะได้หารือรายละเอียดภายหลัง รวมถึงการปรับอุปกรณ์จาก LPGเป็นใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์หรือ NGV ตามข้อเสนอ
