กรมการขนส่งทางบก เผย ช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา มีประชาชนร้องเรียนการให้บริการรถแท็กซี่ ผ่าน 1584 กว่า 10,000 ราย ส่วนใหญ่ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร ขณะที่ ประเภท รถตาม พ.ร.บ.ขนส่งฯ มีการร้องเรียนกว่า 4,000 ราย ส่วนใหญ่ขับรถประมาท เรียกมาลงโทษแล้วกว่า 90%
นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2557 (เดือนตุลาคม 2556–เดือนกุมภาพันธ์ 2557) กรมการขนส่งทางบก ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่ใช้บริการรถแท็กซี่ ผ่านศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 จำนวน 10,070 ราย ความผิดส่วนใหญ่ ได้แก่การปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร มีโทษปรับ 1,000 บาท จำนวน 4,348 ราย แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ มีโทษปรับ 1,000 บาท จำนวน 1,416 ราย ขับรถประมาทน่าหวาดเสียว มีโทษปรับ 1,000 บาท จำนวน 1,194 ราย ไม่ส่งผู้โดยสารตามที่ตกลง มีโทษปรับ 1,000 บาท จำนวน 1,102 ราย และ ไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร จำนวน 867 ราย ซึ่ง กรมการขนส่งทางบกได้เรียกตัวผู้กระทำผิดมาสอบสวนข้อเท็จจริงและเปรียบเทียบปรับแล้ว จำนวน 9,901 ราย หรือ คิดเป็น 89.00% ที่เหลืออยู่ระหว่างเรียกตัวมาสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อเปรียบเทียบปรับต่อไป
สำหรับการร้องเรียนรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก มีจำนวน 3,744 ราย ความผิดส่วนใหญ่ คือ ขับรถประมาทหวาดเสียว มีโทษปรับ 1,000 บาท จำนวน 1,472 ราย ไม่หยุดรับ-ส่งผู้โดยสารที่ป้ายรถประจำทาง มีโทษปรับ 1,000 บาท จำนวน 749 ราย แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ มีโทษปรับ 1,000 บาท 676 ราย ให้ผู้โดยสารลงก่อนถึงจุดหมาย มีโทษปรับ 1,000 บาท จำนวน 263 ราย และ เก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด มีโทษปรับ 1,000 บาท จำนวน 200 ราย ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกได้เรียกตัวผู้กระทำผิดมาสอบสวนข้อเท็จจริงและเปรียบเทียบปรับแล้ว 3,358 ราย หรือ คิดเป็น 90% ที่เหลืออยู่ระหว่างเรียกตัวมาสอบสวนความผิดเพื่อเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย โดยการกระทำผิดดังกล่าว นอกจากผู้ขับรถถูกเปรียบเทียบปรับแล้ว กรมการขนส่งทางบกยังนำข้อมูลมาพิจารณาในการต่ออายุใบอนุญาตประกอบการขนส่งเพื่อลงโทษผู้ประกอบการอีกทางหนึ่งด้วย
นายอัฌษไธค์กล่าวว่า มาตรการตรวจจับอย่างจริงจังดังกล่าวเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะของประชาชน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในการใช้บริการยิ่งขึ้น พร้อมทั้งฝากถึงผู้ประกอบการและผู้ขับรถโดยสารสาธารณะ ขอให้ร่วมกันสร้างมาตรฐานการให้บริการเพื่อสร้างอาชีพที่ยั่งยืนต่อไปด้วย
