เจ้าของบัตร “Easy Pass” จ๊าก! เติมเงินแต่ยอดไม่เข้า “ชัชชาติ” สั่ง กทพ.ชี้แจงปัญหาระบบเติมเงินและตัดเงินค่าผ่านทาง Easy Pass มีปัญหา ด้าน กทพ.แจงระบบโหลด ข้อมูลค้าง กว่าจะอัปเดตใช้เวลาข้ามวัน เผยทำงานหนักเหตุสมาชิกบัตรมากเกินขีดรองรับ เร่งปรับปรุงแล้ว ยันปรับค่าผ่านทาง 1 ก.ย.ไม่มีปัญหา
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้สั่งการให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ชี้แจงทำความเข้าใจต่อประชาชนกรณีที่ระบบเก็บเงินค่าผ่านทางอัตโนมัติ (Easy Pass) มีปัญหาการตัดเงินและเติมเงินเนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเข้ามา เบื้องต้นทาง กทพ.ยืนยันว่าเงินในบัตรไม่หายแต่ที่ตัวเลขแสดงมูลค่าไม่สอดคล้องเพราะการปรับข้อมูลล่าช้า เนื่องจากอยู่ในระหว่างปรับปรุงระบบฐานข้อมูลเพื่อรองรับจำนวนผู้ใช้บัตรที่เพิ่มมากขึ้น โดยยืนยันว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการปรับขึ้นค่าผ่านทางอีก 5 บาทในวันที่ 1 กันยายน 2556 นี้แต่อย่างใด
ทั้งนี้ ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีปัญหาไม่สามารถเติมเงินในบัตร Easy Pass ตามช่องทางต่างๆ ได้ตามปกติ โดยพบว่าปัญหาเกิดต่อเนื่องมานานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว ซึ่งได้สั่งการให้ กทพ.แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนใน วันที่ 20 สิงหาคม 25 56 เวลา 15.30 น. ที่ กทพ.สำนักงานใหญ่ บางเขน
โดยเบื้องต้น กทพ.ชี้แจงว่า ระบบเก็บเงินค่าผ่านทางอัตโนมัติ หรือ Easy Pasd เริ่มจะมีปัญหามาเป็นเวลาประมาณ 1 เดือนแล้ว โดยพยว่าระบบที่ควบคุมการตัดและเติมเงินในบัตรทำงานช้าลงกว่าปกติ แต่ยังสามารถเคลียร์บัญชีแล้วเสร็จภายในวันเดียว แต่ระบบเริ่มมีปัญหามากขึ้น คือ ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยการทำงานของระบบทำงานช้าลงกว่าเดิมจนเกิดมียอดบัญชีค้างสะสมข้ามมาถึงวันรุ่งขึ้น
ทั้งนี้ สาเหตุเกิดจากระบบคอมพิวเตอร์กลางที่ควบคุมระบบบัตร Easy Pass ที่ติดตั้งรองรับผู้ใช้บริการอยู่ที่ประมาณ 30% เนื่องจากยังเป็นระยะแรก แต่ในปัจจุบันยอดผู้ใช้บัตรเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 32% หรือประมาณ 520,000 เที่ยวต่อวัน จากผู้ใช้บริการทางพิเศษทั้งหมดประมาณ 1.6 ล้านเที่ยวต่อวัน (สำหรับรถยนต์ 4 ล้อ) ระบบคอมพิวเตอร์ทำงานหนักทำให้ประสิทธิภาพลดลง ซึ่งเป็นอาการเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วๆ ไป ที่เมื่อทำงานหนักขึ้นเครื่องอาจจะทำงานล่าช้าลง ซึ่ง กทพ.ได้มีการบำรุงรักษาพร้อมกับปรับปรุงแก้ไขและเพิ่มขีดความสามารถของเครื่องให้สามารถรองรับผู้ใช้บริการมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม พบว่า ช่วงเวลาเร่งด่วน เช้า เย็น พบปัญหามากที่สุดและยังเป็นช่วงเวลาที่มีผู้เติมเงินในบัตรเป็นจำนวนมาก จึงทำให้มีปัญหาไม่สามารถเติมเงินได้ตามปกติ โดยกทพ.แนะนำว่าในช่วงนี้ ให้ผู้ใช้บริการตรวจสอบจำนวนเงินในบัตร โดยอย่าให้เหลือมูลค่าในบัตรน้อยเกินไแล้วจึงเติมเงินเพราะอาจทำให้เกิดปัญหาในการใช้งานแบบฉุกเฉิน และควรเติมเงินสำรองเผื่อไว้ ที่สำคัญควรเลี่ยงเติมเงินในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าเย็น และกระจายไปใช้บริการเติมเงินช่อทางอื่น เช่น ร้านสะดวกซื้อ หรือผ่านบัตรเอทีเอ็ม จะสะดวกกว่าและช่วยแก้ปัญหาการเติมเงินล่าช้าได้ระดับหนึ่ง
ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาว อาจจะต้องปรับปรุงระบบใหม่ให้สามารถรองรับผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 50% ของผู้ใช้บริการทางพิเศษทั้งระบบ
สำหรับคืบการปรับอัตราค่าผ่านทางพิเศษ ซึ่งจะมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2556 นี้ พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ลงนามในประกาศปรับอัตราค่าผ่านทางพิเศษแล้ว อยู่ระหว่างรอลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา
โดยโครงข่ายในเมือง (ทางพิเศษเฉลิมมหานคร : ดินแดง-ท่าเรือ, บางนา-ท่าเรือ, ดาวคะนอง-ท่าเรือ, ทางพิเศษศรีรัช ส่วนA และ B : ถนนรัชดาภิเษก-พระราม 9, พญาไท-บางโคล่) จะปรับอัตราค่าผ่านทางพิเศษเป็น 50/75/110 บาท สำหรับรถ 4 ล้อ รถ 6-10 ล้อ และรถมากกว่า 10 ล้อ ตามลำดับ สำหรับโครงข่ายนอกเขตเมือง (ทางพิเศษศรีรัช ส่วน C : ถนนรัชดาภิเษก-แจ้งวัฒนะ) จะปรับอัตราค่าผ่านทางพิเศษเป็น 15/20/35 บาท สำหรับรถ 4 ล้อ รถ 6-10 ล้อ และรถมากกว่า 10 ล้อ ตามลำดับ
ส่วนโครงข่ายนอกเขตเมือง (ทางพิเศษศรีรัชส่วน D : ถนนรัชดาภิเษก-ศรีนครินทร์) จะปรับอัตราค่าผ่านทางพิเศษเป็น 25/55/75 บาท สำหรับรถ 4 ล้อ รถ 6-10 ล้อ และรถมากกว่า 10 ล้อ ตามลำดับ ส่วนการดำเนินการต่อไปนั้น กทพ.จะได้นำเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อประกาศอัตราค่าผ่านทางพิเศษต่อไป ทั้งนี้อัตราค่าผ่านทางพิเศษที่จะปรับขึ้นใหม่จะเริ่มใช้ตั้งแต่ วันที่ 1 กันยายน 2556
สำหรับทางพิเศษอุดรรัถยา ช่วงแจ้งวัฒนะถึงเชียงราก จะปรับอัตราค่าผ่านทางพิเศษเป็น 45/100/150 บาท สำหรับรถ 4 ล้อ รถ 6-10 ล้อ และรถมากกว่า 10 ล้อ ตามลำดับ และช่วงเชียงรากถึงบางไทร จะปรับอัตราค่าผ่านทางพิเศษเป็น 10/20/30 บาท สำหรับรถ 4 ล้อ รถ 6-10 ล้อ และรถมากกว่า 10 ล้อ ตามลำดับ โดยจะปรับอัตราค่าผ่านทางพิเศษในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2556