- ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีในเดือน ก.ค.อยู่ที่ 106.2 จุด เพิ่มขึ้นจาก 105.9 จุดในเดือนก่อน โดยเพิ่มขึ้น 3 เดือนติดต่อกัน จากอัตราว่างงานที่ลดลงและดัชนีภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น
- อัตราการว่างงานของสเปนในไตรมาส 2 อยู่ที่ 26.26% ลดลงจาก 27.16% ในไตรมาสก่อน คิดเป็นจำนวนผู้ว่างงาน 5.87 ล้านราย ลดลง 225,200 ราย บ่งชี้ถึงเสถียรภาพที่ดีขึ้นบ้างของเศรษฐกิจสเปน โดยธนาคารกลางสเปนคาดว่าสเปนจะกลับมาขยายตัวอีกครั้งในครึ่งปีหลังหลังจากหดตัวมาตลอด 4 ปีที่ผ่านมา
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอิตาลีในเดือน ก.ค.เท่ากับ 97.3 จุด เพิ่มขึ้นจาก 95.8 ในเดือนก่อน เป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี จากมุมมองเชิงบวกของภาคครัวเรือนต่อแนวโน้มเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นเป็น 99.6 จุด จาก 99.4 จุดในเดือนก่อน
- สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ S&P ลดอันดับเครดิตธนาคาร 18 แห่งในอิตาลี จากความเสี่ยงที่เศรษฐกิจอิตาลีมีแนวโน้มถดถอยมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ธนาคารขนาดใหญ่สุด 2 แห่งอย่างIntesa Sanpaolo และ UniCredit ไม่ได้ถูกลดอันดับ
- เศรษฐกิจอังกฤษในไตรมาส 2 ขยายตัว 0.6% เพิ่มขึ้นจาก 0.3% ในไตรมาสก่อน โดยภาคบริการ การผลิต และการก่อสร้าง ขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ที่ +0.6 ถึง +0.9% ทั้งนี้ การกลับมาขยายตัวของภาคบริการปัจจัยสำคัญที่สุดเนื่องจากเป็นสัดส่วนถึง 78% ของเศรษฐกิจ
- ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐในเดือน มิ.ย.เพิ่มขึ้น 4.2% จาก 5.2% ในเดือนก่อน จากยอดสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นในสินค้าเกือบทุกรายการ โดยเฉพาะสินค้ารถยนต์และอะไหล่ที่เพิ่มขึ้น 1.3%
- จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ณ วันที่ 20 ก.ค.เพิ่มขึ้น 7,000 ราย สู่ 343,000 ราย เพราะเป็นฤดูกาลหยุดผลิตในอุตสาหกรรมรถยนต์เพื่อเตรียมพร้อมในการเริ่มผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขยอดสั่งซื้อรถยนต์ที่สูงขึ้นในเดือนก่อนทำให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์หลายแห่งลดระยะเวลาการปิดโรงงานเพื่อตอบรับกับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น บ่งชี้ว่า อุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง
- นายกรัฐมนตรีจีนประกาศเร่งลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูงโดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลางและตะวันตก พร้อมทั้งลดภาษีเงินได้ให้กับบริษัทขนาดย่อม กับลดค่าธรรมเนียมในการส่งออกสินค้า เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงมากที่สุดในรอบ 23 ปี
- เศรษฐกิจเกาหลีใต้ในไตรมาส 2 ขยายตัว 2.3% อันเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี จากการใช้จ่ายภาครัฐและการบริโภคภายในที่ขยายตัวทดแทนการส่งออกที่ชะลอตัวลงหลังได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
- ดร.วีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการ ธปท. เป็นห่วงเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังที่มีแนวโน้มชะลอลงอย่างชัดเจน เพราะการส่งออกและภาคการผลิตมีแนวโน้มชะลอตัวลง ขณะที่รัฐบาลยังไม่มีแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจน รัฐบาลจึงควรเร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
- SET Index ปิดที่ 1,456.68 จุด ลดลง 44.68 จุด หรือ -2.98% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 56,291.36 ล้านบาท ปรับตัวลดลงมากที่สุดเมื่อเทียบกับภูมิภาค จากความกังวลต่อปัจจัยการเมืองในประเทศหลังรัฐบาลยืนยันที่จะผลักดันร่างกม.นิรโทษกรรมเข้าสู่การพิจารณาของสภาเป็นวาระแรกในการเปิดประชุมสภาวันที่ 7 ส.ค.
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวในช่วงแคบ -0.01% ถึง +0.01% สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตร ธปท. อายุ 14 วัน มูลค่า 30,000 ล้านบาท
- ธนาคารกลางของฟิลิปปินส์และนิวซีแลนด์มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 3.5% และ 2.5% ตามลำดับ เพื่อเตรียมรับมือกับภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจากเศรษฐกิจยูโรโซนที่ถดถอยและการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
