- ธนาคารกลางโปรตุเกสปรับลดประมาณการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีหน้าลงเหลือ 0.3% จากเดิม 1.1% โดยคาดว่าปีนี้จะหดตัวลง 2% จากผลของมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาลและอัตราว่างงานในระดับสูง โดยรัฐบาลมีแผนลดงบประมาณรายจ่ายลง 4.8 พันล้านยูโรจนถึงปี 2558
- ธ.กลางอังกฤษมีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไว้ตามเดิม โดยบางคนที่เคยเห็นด้วยกับการเพิ่มมาตรการผ่อนคลายกลับเห็นว่ายังไม่เหมาะที่จะเพิ่มอีก แต่ควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและพิจารณาทางเลือกอื่นๆ ก่อน ทั้งนี้ รายงานการประชุมระบุว่า แม้เศรษฐกิจอังกฤษกำลังฟื้นตัวแต่ก็ยังขยายตัวต่ำเกินไป ทำให้ยังไม่มีเสถียรภาพ
- จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานของอังกฤษในเดือน มิ.ย.ลดลง 21,200 รายมาอยู่ที่ 1.48 ล้านราย เป็นการลดลงมากที่สุดในรอบ 3 ปี โดยแนวโน้มตลาดแรงงานกำลังดีขึ้นเพราะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นในภาคเอกชน แต่ในระยะสั้นอาจได้รับผลกระทบจากการเลิกจ้างงานในภาครัฐ กับจำนวนแรงงานใหม่ที่เข้าสู่ตลาด ทั้งนี้ อัตราว่างงานยังคงอยู่ที่ 7.8% ด้วยจำนวนผู้ว่างงาน 2.51 ล้านราย ลดลง 57,000 ราย
- ยอดเริ่มก่อสร้างที่อยู่อาศัยของสหรัฐในเดือน มิ.ย.ลดลงเหลือ 836,000 หลัง หรือลดลง 9.9% จากเดือนก่อน เป็นระดับต่ำสุดในปีนี้ โดยการก่อสร้างที่อยู่อาศัยอย่างอพาร์ทเมนต์หดตัวลงมากที่สุด 26.2% เหลือเพียง 245,000 หลัง ขณะที่ยอดขออนุญาตก่อสร้างหดตัวลงเหลือ 911,000 หลัง ลดลง 7.5% ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ยังมองว่า การหดตัวดังกล่าวเป็นเพียงความผันผวนระยะสั้น และภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐยังมีแนวโน้มเติบโต
- Ben Bernanke ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) แถลงต่อคณะกรรมาธิการการเงินว่า FED จะเริ่มลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรในปีนี้ต่อเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดและอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นมาอยู่ในกรอบเป้ามหายของ FED ที่ 2% อย่างชัดเจน แต่ก็พร้อมจะยืดระยะเวลาออกไปหากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งนี้ Bernanke ได้ชี้ชัดว่าที่ประชุม FOMC ต้องการให้เศรษฐกิจและตลาดแรงงานดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจนมั่นใจได้ก่อนที่จะลดจำนวนการซื้อพันธบัตรที่เคยกำหนดไว้เดือนละ 85,000 ล้านดอลลาร์
- ผลสำรวจจากสำนักข่าวเกียวโต ระบุว่า รัฐบาลผสมของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นมีแนวโน้มชนะเสียงข้างมากจากการเลือกตั้งสภาสูงในวันอาทิตย์นี้ โดยการครองเสียงข้างมากในสภาสูงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้รัฐบาลเร่งแผนปฏิรูปเศรษฐกิจได้ตามเป้าหมายที่กำหนด
- การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของจีนในเดือน มิ.ย.เพิ่มขึ้น 20.12% สู่ 1.43 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 2 ปี แสดงว่านักลงทุนต่างชาติยังคงเชื่อมั่นกับเศรษฐกิจจีนในระยะยาวจากนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจที่ให้พึ่งพาการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น
- หลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวว่า จีนจะให้ความสำคัญกับการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพ โดยจะควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนของเศรษฐกิจในช่วงปฏิรูป ซึ่งแม้เศรษฐกิจระยะสั้นจะชะลอตัวลงแต่จะยังคงเดินหน้าปฏิรูปต่อไป เนื่องจากเศรษฐกิจยังขยายตัวได้ดี มีการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อในระดับที่เหมาะสม
- รมว.คลังจีน ระบุว่า ปีนี้จะไม่ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวงเงินขนาดใหญ่ใน แต่ยังคงกระตุ้นการจ้างงาน และจะควบคุมการขาดดุลงบประมาณให้อยู่ในระดับเดิม ทั้งนี้ การแสดงความเห็นของ รมว.คลัง ที่สอดคล้องกับนายกฯ แสดงว่ารัฐบาลรับการเติบโตในระดับปัจจุบันได้ กับจะมุ่งเน้นรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมากกว่าการขยายตัวอย่างรวดเร็ว
- อินเดียจะลดข้อจำกัดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเพื่อชะลอการไหลออกของเงินทุน โดยจะแก้ข้อจำกัดการถือหุ้นของชาวต่างชาติ เช่น ให้ถือหุ้นได้เต็มที่ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม และเกินกว่า 26% ในกิจการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ เป็นต้น ทั้งนี้ อินเดียขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างรุนแรงหลังเงินรูปีอ่อนค่าลงถึง 7.3% ในปีนี้ โดยเศรษฐกิจชะลอตัวมากที่สุดในรอบ 10 ปี
- กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลได้เพิ่มเป้าหมายของรายได้ท่องเที่ยวในปี 2558 เป็น 2.2 ล้านล้านบาท ซึ่ง ก.การท่องเที่ยวและกีฬา ยืนยันว่าจะทำได้โดยภาพรวมการท่องเที่ยวในปีนี้อยู่ในระดับที่ดีมากด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวกับรายได้ท่องเที่ยวที่สูงกว่าเป้าหมาย ขณะที่ยังต้องแก้ไขเรื่องการให้ความสะดวกและความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว
- รมว.คมนาคม คาดว่า จะเริ่มเปิดดำเนินการโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางได้ในปี 2557 หาก พ.ร.บ.การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทผ่านได้ทุกวาระในสภาสมัยนี้ เนื่องจากมีการศึกษาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้ดำเนินการได้เร็วกว่าโครงการอื่นๆ
- SET Index ปิดที่ 1,458.08 จุด เพิ่มขึ้น 6.63 จุด หรือ +0.46% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 35,763.35 ล้านบาท โดยเคลื่อนไหวในกรอบแคบสอดคล้องกับตลาดในภูมิภาค ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงเฝ้ารอความชัดเจนเกี่ยวกับการดำเนินมาตรการ QE จากการแถลงของประธาน FED ต่อคณะกรรมาธิการสภาคองเกรสในคืนที่ผ่านมา
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยระหว่าง -0.01% ถึง 0.01% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 54,311 ล้านบาท โดยนักลงทุนกำลังรอความชัดเจนจากถ้อยแถลงของประธาน FED เช่นเดียวกับนักลงทุนในตลาดหุ้น สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตรธปท.อายุ 14 วัน และ 3 ปี มูลค่ารวม 60,000 ล้านบาท