xs
xsm
sm
md
lg

Good Morning News 03/07/56

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



  • อังกฤษเตรียมแผนพัฒนาระบบคมนาคมครั้งใหญ่ในรอบ 40 ปี ใช้งบลงทุนกว่า 1 แสนล้านปอนด์ เพื่อก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงความยาวเกือบ 110 กิโลเมตร และสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าความยาวกว่า 1,360 กิโลเมตร พร้อมทั้งปรับปรุงระบบการให้บริการ ทำถนนสายใหม่ รวมถึงพัฒนาระบบสาธารณูปโภคอื่นๆ ให้ครอบคลุมหลายพื้นที่ของประเทศ อาทิ ในเมืองนิวคาสเซิล แคว้นคอร์นวอล เพื่อก้าวสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอังกฤษในระยะยาว

  • สถาบัน ISM เปิดเผยว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคการผลิตของสหรัฐเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้นสู่ 50.9 จาก 49.0 ในเดือน พ.ค. แสดงว่าภาคการผลิตของสหรัฐมีการขยายตัว ส่วนดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือน มิ.ย.ลดลงสู่ระดับ 51.9 จากระดับ 52.3 ในเดือน พ.ค.

  • ดัชนีภาวะธุรกิจรัฐนิวยอร์กในเดือน มิ.ย.ลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 47.0 จาก 54.4 ในเดือน พ.ค. โดยกิจกรรมทางเศรษฐของนิวยอร์คที่ยังคงหดตัวลงนี้กลับสวนทางกับข้อมูลภาพรวมเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่งขึ้น

  • ธนาคารกลางออสเตรเลีย คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.75% เนื่องจากตลาดที่อยู่อาศัยกำลังฟื้นตัว และดอลลาร์ออสเตรเลียเริ่มอ่อนค่าลงจึงช่วยลดแรงกดดันต่อภาคการส่งออก ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 2 ออกมาค่อนข้างดี

  • มิดแลนด์โฮลดิ้งส์ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของฮ่องกง คาดว่า นายหน้าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกงราว 1 ใน 3 อาจตกงานในปีหน้า เนื่องจากทางการควบคุมตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันภาวะฟองสบู่ จึงอาจส่งผลให้ตลาดหยุดชะงักและอาจถึงจุดต่ำสุดในรอบ 20 ปี ทั้งนี้ ราคาที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าตั้งแต่ปี 2009 จากความต้องการซื้อของคนจีนแผ่นดินใหญ่ ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยต่ำ ขณะที่จำนวนที่อยู่อาศัยแห่งใหม่มีไม่มาก

  • จากผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ พบว่า กลุ่มผู้ผลิตของเกาหลีใต้เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้นในใตรมาส และมีมุมองเป็นบวกต่อภาวะเศรษฐกิจมากขึ้น เนื่องจากมีสัญญาณการฟื้นตัวของประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่

  • ธนาคารโลกลดประมาณการณ์ GDP ปีนี้ของอินโดนีเซียจาก 6.2% เหลือ 5.9% เนื่องจากความต้องการในประเทศและการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ชะลอตัวลง และให้ความเห็นว่า มีความจำเป็นต้องปรับเศรษฐกิจของอินโดนีเซียให้พึ่งพาเศรษฐกิจต่างประเทศลดลง

  • ธนาคารกลางอินเดียขอความร่วมมือประชาชนให้หยุดซื้อทองคำ พร้อมทำการตรวจสอบการเก็งกำไรทองคำอย่างเข้มงวดมากขึ้น หลังการขึ้นภาษีนำเข้าทองคำไม่สามารถลดความต้องการซื้อทองคำได้ และส่งผลต่อการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด

  • กบข. ขออนุมัติ ก.คลัง เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศจากเดิม 25% เป็น 40% ซึ่งปัจจุบันการลงทุนกว่า 75% ยังกระจุกตัวอยู่ในประเทศ โดยจะลงทุนไปยังประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐ และยุโรป เนื่องจากมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน นอกจากนี้ ยังรขอเพิ่มสัดส่วนลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 12% จากเดิม 8% อีกด้วย

  • ดาร์วิด พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่า ผู้บริโภคสนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ประเภท NPA (ยึดจากลูกหนี้และรอการขายเพื่อชำระหนี้) จากสถาบันการเงินมากขึ้น เนื่องจากราคาขายถูกกว่าท้องตลาดประมาณ 30% และมีความได้เปรียบด้านทำเล โดยเฉพาะในจังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี กับ สมุทรปราการ เป็นตลาดที่มีผู้บริโภคให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก เพราะมีสาธารณูปโภคที่สะดวกสบายมากขึ้น

  • กบง.ลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันดีเซลลง 0.40 บาท/ลิตร จากเดิม 2.10 บาท/ลิตร ปรับลดลงเหลือ 1.70 บาท/ลิตร เพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ส่วนน้ำมันชนิดอื่นๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

  • นายกสมาคมกุ้งไทยเรียกร้องให้สหภาพยุโรปคงสิทธิ GSP สินค้ากุ้งไทยต่อไป เนื่องจากอุตสาหกรรมกุ้งไทยกำลังประสบปัญหาโรคกุ้งตายด่วน (EMS) จึงทำให้ผลผลิตลดลงกว่าร้อยละ 50 ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของอุตสาหกรรมและเกษตรกร เพราะหากโดนตัดภาษีพิเศษ GSP อีก ก็จะยิ่งซ้ำเติมอุตสาหกรรมไทยที่กำลังพยายามฟื้นตัว

  • ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี กรรมการ กนง. เปิดเผยภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีนี้ว่าจะเติบโตประมาณ 4%เนื่องจากกำลังการใช้จ่ายในการอุปโภคบริโภคลดลง เพราะประชาชนนำเงินไปชำระหนี้ในโครงการบ้านหลังแรกและรถยนต์คันแรก จึงเหลือเงินจับจ่ายใช้สอยลดลงไปมาก ทำให้เศรษฐกิจไม่สามารถเติบโตตามเป้าที่ 5% ได้ และต้องจับตามองสถานการณ์เศรษฐกิจกับการเมือง ในประเทศด้วย ส่วนหนี้ภาคครัวเรือนแม้จะเร่งตัวขึ้น แต่หนี้ของภาครัฐและเอกชนยังไม่สูงมาก ส่วนการเคลื่อนย้ายเงินทุนในปีนี้จะยังคงเป็นภาวะเงินไหลออกจากเศรษฐกิจสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้น




  • SET Index ปิดที่ 1,463.98 จุด เพิ่มขึ้น 12.08 จุด หรือ +0.83% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 43,948.83 ล้านบาท โดยดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน หลังจากความกังวลเรื่องกระแสเงินทุนไหลออกเริ่มลดลง รวมถึงค่าเงินบาทเริ่มแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ประกอบกับใกล้ถึงช่วงประกาศผลประกอบการไตรมาส 2  ของบริษัทจดทะเบียน ทำให้มีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามามาก

  • นักวิเคราะห์ของจีน คาดการณ์ว่า มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของธนาคารพาณิชย์จีนอาจลดลงมาใกล้เคียงระดับต่ำสุด เนื่องจากกำไรสุทธิมีแนวโน้มลดลงตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และการผิดนัดชำระหนี้อาจเพิ่มขึ้นจากการที่ธนาคารกลางกำกับดูแลสภาพคล่องอย่างเข้มงวดมากขึ้น

  • โกลด์แมน แซคส์ ลดเป้าหมายช่วง 12 เดือนของดัชนี MSCI ของภูมิภาคเอเชียที่ไม่รวมญี่ปุ่น จากเดิม 550 ลดลงสู่ 480  โดยระบุว่า ภูมิภาคเอเชียมีโอกาสปรับตัวแย่ลงในช่วงหลายเดือนข้างหน้าจากเศรษฐกิจมหภาคที่เอื้อประโยชน์น้อยลงต่อหุ้นของภูมิภาค ขณะที่กระแสการชะลอมาตรการทางการเงินของจีนจะส่งผลให้ภาวะทางการเงินตึงตัวมากขึ้น และแนวโน้มการขยายตัวเศรษฐกิจที่ลดลงโดยเฉพาะในจีน อย่างไรก็ตาม ได้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดของเกาหลีใต้ ไทย และ สิงคโปร์ ขณะที่ลดสัดส่วนการลงทุนใน ฮ่องกง ไต้หวัน ออสเตรเลีย มาเลเซียและ ฟิลิปปินส์ โดยคงน้ำหนักการลงทุนในจีน อินเดีย และ อินโดนีเซีย




  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลดลงในทุกช่วงอายุ โดยเปลี่ยนแปลงช่วงระหว่าง 0.00% ถึง -0.04 มูลค่าซื้อขายรวม 119,471 ล้านบาท

  • สมาคมตราสารหนี้ไทย เปิดเผยว่า ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติขายสุทธิออกจากตลาดตราสารหนี้ไทยไปแล้วกว่า 9 หมื่นล้านบาท จากเดิมมียอดซื้อสะสมที่ 8.6 แสนล้านบาท ขณะนี้เหลือสะสมอยู่ 7.7 แสนล้านบาท เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังมีความกังวลต่อสัญญาณลดและเลิกมาตราการ QE ของ FED รวมถึงยังดูท่าทีนโยบายของญี่ปุ่นและสหภาพยุโรปว่าจะมีการอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อเพิ่มสภาพคล่องหรือไม่




  • สถาบันการเงินขนาดใหญ่ของโลก คาดว่า ราคาทองคำยังคงอยู่ในช่วงขาลงขนาดใหญ่และจะลดลงต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า โดยราคาอาจลดลงจนต่ำกว่าต้นทุนของเหมืองทองคำ


   - โกลด์แมนแซคส์กรุ๊ป คาดว่า ราคาทองคำจะลดลงมาอยู่ที่ 1,050 ดอลลาร์/ออนซ์ ในสิ้นปีหน้า
   -  เครดิตสวิสกรุ๊ป คาดว่า จะลดลงมาอยู่ที่ 1,150 ดอลลาร์/ออนซ์ ใน 12 เดือนข้างหน้า
   -  แดนสเกแบงก์ คาดว่า ราคาจะลดลงมาอยู่ที่ 1,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ใน 3 เดือนข้างหน้า
กำลังโหลดความคิดเห็น