ส่งออกเดือน มิ.ย.ลดอีก 3.38% ลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน เหตุเศรษฐกิจคู่ค้าชะลดตัวลง ยอมรับเป้าทั้งปี 7-7.5% ส่อทำไม่ได้ แต่จะเป็นเท่าไรขอประเมินอีกที “ศรีรัตน์” เตรียมงัดแผนใหม่ดันส่งออก เน้นบุกเจาะตลาดแบบเข้าถึงตัวผู้ซื้อ ผู้นำเข้ามากขึ้น
นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การค้าระหว่างประเทศของไทยเดือน มิ.ย. 2556 มียอดการส่งออกมูลค่า 19,098 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 3.38% เป็นการลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน และในรูปเงินบาทมีมูลค่า 564,168.2 ล้านบาท ลดลง 8.46% เพราะเศรษฐกิจคู่ค้าที่คาดว่าจะดีขึ้นก็ไม่ดีตามคาด ทั้งยุโรป สหรัฐฯ ญี่ปุ่น รวมทั้งจีน ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 21,013 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.01% ในรูปเงินบาท มีมูลค่า 628,588.8 ล้านบาท ลดลง 2.36% โดยขาดดุลการค้า 1,915 ล้านเหรียญสหรัฐ ในรูปเงินบาทขาดดุล 64,420.7 ล้านบาท
ทั้งนี้ การส่งออกช่วง 6 เดือนของปี 2556 (ม.ค.-มิ.ย.) การส่งออกมีมูลค่า 113,304 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.95% คิดเป็นเงินบาท 3,336,007 ล้านบาท ลดลง 3.72% การนำเข้ามีมูลค่า 129,075.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4.32% คิดเป็นเงินบาท 3,850,920 ล้านบาท ลดลง 0.32% ดุลการค้าขาดดุล 15,771.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 514,913 ล้านบาท
“การส่งออกในช่วงครึ่งปีแรกขยายตัวไม่ถึง 1% และหากจะผลักดันให้ส่งออกได้ตามเป้าทั้งปีที่ตั้งไว้จะขยายตัว 7-7.5% จะต้องผลักดันการส่งออกให้ได้มูลค่าเกินเดือนละ 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องยาก เนื่องจากเศรษฐกิจคู่ค้าที่คิดว่าจะดีก็ไม่ดีขึ้นตามที่คาดไว้ ถ้าถามว่าใกล้เคียงกับปีที่แล้วที่ขยายตัว 3% จะทำได้หรือไม่ก็มีความเป็นไปได้ แต่จะเป็นเท่าไรต้องประเมินอีกที” นางวัชรีกล่าว
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า เท่าที่สอบถามข้อมูลจากทูตพาณิชย์ และดูแนวโน้มสถานการณ์ส่งออกในช่วงที่เหลือ เป้า 7-7.5% คงเป็นไปได้ยาก น่าจะอยู่แถวๆ 6-6.5% และประมาณการของหน่วยงานอื่นก็อยู่ประมาณ 3% บางหน่วยงานให้ขยายตัวที่ 5% ซึ่งในส่วนของกรมฯ จะต้องทำงานหนักมากขึ้น โดยในสัปดาห์หน้าคาดว่าจะมีแผนกระตุ้นการส่งออกออกมาอีกรอบ ซึ่งอยู่ระหว่างการหารือกับภาคเอกชน โดยจะเน้นการบุกเจาะตลาดแบบเข้าถึงตัวผู้ซื้อ ผู้นำเข้ามากขึ้น
“การปรับเป้าหมายการส่งออกปกติจะมีการประเมินตัวเลขปีละ 2 ครั้ง ครึ่งแรกประเมินไปเมื่อเดือน พ.ค. 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งต้องขอดูตัวเลขอีก 1-2 เดือน หรือประมาณเดือน ก.ย.จะมีการประเมินตัวเลขอีกครั้ง” นางศรีรัตน์กล่าว
สำหรับการส่งออกในเดือน มิ.ย. 2556 หมวดสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรลดลง 7.1% โดยสินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ ข้าวลดลง 0.5% ยางพาราลด 20.5% อาหารทะเลแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป (ไม่รวมกุ้ง) ลด 5.2% กุ้งแช่แข็งและแปรรูปลด 45.6% ไก่สดแช่แข็งและแปรรูปลด 13% น้ำตาลลด 9.2% โดยมันสำปะหลังส่งออกเพิ่ม 1.4% ผักและผลไม้เพิ่ม 22.5%
ส่วนหมวดสินค้าอุตสาหกรรมลดลง 3.8% สินค้าที่ส่งออกลดลง ได้แก่ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ลด 11.6% เครื่องใช้ไฟฟ้าลด 6.1% ทองคำไม่ขึ้นรูปลด 54.1% เครื่องเดินทาง เครื่องหนังและรองเท้าลด 1% อาหารสัตว์เลี้ยงลด 3.5% โดยสินค้าที่ส่งออกเพิ่ม ได้แก่ ยานยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบเพิ่ม 11.3% เม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติกเพิ่ม 0.5% สิ่งทอเพิ่ม 4.7% อัญมณี (ไม่รวมทองคำ) เพิ่ม 7.1% ผลิตภัณฑ์ยางเพิ่ม 1.6% สิ่งพิมพ์กระดาษและบรรจุภัณฑ์เพิ่ม 5.3% เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วนเพิ่ม 3.9% เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์เพิ่ม 7.6% เครื่องใช้และเครื่องประดับตกแต่งบ้านเพิ่ม 3.6% นาฬิกาและส่วนประกอบเพิ่ม 25.8% ของเล่นเพิ่ม 25.9%
สำหรับตลาดส่งออก พบว่าตลาดหลักลดลง 8.4% โดยญี่ปุ่นลด 11.9% สหรัฐฯ ลด 9.4% สหภาพยุโรป (15 ประเทศ) ลด 2.4% ตลาดศักยภาพสูงลดลง 0.1% โดยจีนลด 16.7% ไต้หวันลด 11.6% ส่วนอาเซียนเพิ่ม 5.5% เอเชียใต้เพิ่ม 2.6% ฮ่องกงเพิ่ม 9.7% เกาหลีใต้เพิ่ม 4.7% ตลาดศักยภาพรองเพิ่มขึ้น 3.9% โดยทวีปออสเตรเลียเพิ่ม 6.1% ทวีปแอฟริกาเพิ่ม 11.3% ละตินอเมริกาเพิ่ม 7.8% รัสเซียและ CIS เพิ่ม 15.4% และตลาดที่ลดลง ได้แก่ ตะวันออกกลางลด 2.9% สหภาพยุโรป สมาชิกใหม่ 12 ประเทศ ลด 2.6% แคนาดาลด 16.7%
