สสว.เผยสถานการณ์ SMEs เดือน พ.ค.มีการส่งออก 156,453.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.60 ขณะที่ 5 เดือนแรกของปีมียอดส่งออก 747,735.73 ล้านบาท ตลาดใหญ่ยังคงอยู่ที่จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ส่วนเอเชียตลาดหลักคืออินโดนีเซีย และมาเลเซีย กลุ่มบริการนันทนาการ ก่อสร้างทั่วไป และอสังหาริมทรัพย์ครองแชมป์
นายชาวันย์ สวัสดิ์-ชูโต รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ SMEs ในเดือนพฤษภาคม 2556 โดยในส่วนสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศของ SMEs พบว่าขาดดุลการค้าคิดเป็นมูลค่า 40,838.62 ล้านบาท และเมื่อพิจารณาช่วง 5 เดือนแรกของปี (มกราคม-พฤษภาคม) ขาดดุลการค้าคิดเป็นมูลค่า 312,517.99 ล้านบาท
สำหรับการส่งออกของ SMEs ในเดือนพฤษภาคมมีมูลค่า 156,453.42 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 11.60 ส่วนในช่วง 5 เดือนแรก (มกราคม-พฤษภาคม) มีมูลค่ารวม 747,735.73 ล้านบาท หดตัวลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 9.61 ทั้งนี้ การส่งออกของ SMEs คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 26.98 ต่อการส่งออกรวมของประเทศ สินค้าที่มีการส่งออกมากที่สุด ได้แก่ พลาสติกและของที่ทำด้วยพลาสติก อัญมณีและเครื่องประดับ ยางและของที่ทำด้วยยาง เครื่องจักร คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ และน้ำตาลและขนมที่ทำจากน้ำตาล ส่วนตลาดที่มีการส่งออกสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ตามลำดับ
ส่วนการนำเข้าของ SMEs ในเดือนพฤษภาคมมีมูลค่า 197,292.04 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 3.94 ขณะที่ช่วง 5 เดือนแรกของปี (มกราคม-พฤษภาคม) มีมูลค่ารวม 1,060,253.71 ล้านบาท หดตัวลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 0.57 ทั้งนี้ มูลค่าการนำเข้าของ SMEs คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 32.90 ของมูลค่าการนำเข้ารวมทั้งประเทศ สินค้าที่นำเข้ามากที่สุดคือ อัญมณีและเครื่องประดับ รองลงมาคือเครื่องจักร คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ อุปกรณ์ไฟฟ้าและส่วนประกอบ เหล็กและเหล็กกล้า พลาสติกและของที่ทำด้วยพลาสติก ตามลำดับ ส่วนตลาดที่มีการนำเข้าสินค้ามากที่สุดคือ จีน รองลงมาคือ ญี่ปุ่น สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา และเกาหลีใต้ ตามลำดับ
สำหรับการจัดตั้งและยกเลิกกิจการของ SMEs ในเดือนพฤษภาคม 2556 พบว่ามีกิจการที่จดทะเบียนจัดตั้งใหม่จำนวนทั้งสิ้น 6,175 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 29.16 ขณะที่ช่วง 5 เดือนแรกของปี (มกราคม-พฤษภาคม) มีกิจการที่จัดตั้งใหม่รวมทั้งสิ้น 30,629 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 21.49 ประเภทกิจการที่มีการจัดตั้งสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ บริการนันทนาการ ก่อสร้างอาคารทั่วไป อสังหาริมทรัพย์ ขายส่งเครื่องจักร และขายส่งสินค้าทางเภสัชกรรม
ส่วนการยกเลิกกิจการในเดือนพฤษภาคมมีจำนวนทั้งสิ้น 827 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 18.65 ขณะที่ช่วง 5 เดือนแรกของปี (มกราคม-พฤษภาคม) มีกิจการที่ยกเลิกรวมทั้งสิ้น 4,221 ราย หดตัวลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 6.86 ประเภทกิจการที่มีการยกเลิกมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ก่อสร้างอาคารทั่วไป บริการนันทนาการ อสังหาริมทรัพย์ ภัตตาคาร ร้านขายอาหาร และขายส่งเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *