xs
xsm
sm
md
lg

พาณิชย์เผย พ.ย.55 ส่งออกโต 26.86% นำเข้าสินค้าเครื่องจักร-วัตถุดิบพุ่ง 24.53%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“พาณิชย์” เผย พ.ย. 55 ส่งออกโต 26.86% นำเข้าโต 24.53% จากเครื่องจักรในการผลิต ส่วนตัวเลข 11 เดือนโต 2.32%

กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยภาวะการค้าต่างประเทศในเดือน พ.ย. 55 การส่งออกมีมูลค่า 19,556 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 26.86% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 21,010 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 24.53% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ขาดดุลการค้า 1,454 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

โดยช่วง 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย. 55) มูลค่าส่งออก 211,417 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.32% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน นำเข้ามีมูลค่า 227,123 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.55% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้มียอดขาดดุลการค้า 1.57 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์ประเมินว่า การส่งออกในปี 55 จะขยายตัวได้ 4.17% มูลค่า 2.32 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตของการส่งออกในปี 56 ที่ 8-9% หรือคิดเป็นมูลค่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

ปัจจัยที่มีผลต่อการส่งออกในเดือน พ.ย. 55 คือ สภาวะเศรษฐกิจยุโรปและการลุกลามของปัญหาหนี้สาธารณะ สภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและญี่ปุ่น รวมทั้งอุตสาหกรรมการส่งออกของไทยบางแห่งยังอยู่ในช่วงของการฟื้นตัวหลังจากประสบปัญหาน้ำท่วมหนักช่วงปลายปี 54

สำหรับการส่งออกสินค้าในเดือน พ.ย. 55 เพิ่มขึ้นในหมวดสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญ และหมวดสินค้าอื่นๆ แต่หมวดสินค้าเกษตร/อุตสาหกรรมเกษตรภาพรวมลดลง 5.9% โดยสินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ ข้าว (-3.8%) ยางพารา (-29.7%) กุ้งแช่แข็งและแปรรูป (-15.4%) น้ำตาล (-32.0%) สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง (+24.2%) อาหารทะเลแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป (ไม่รวมกุ้ง) (+15.2%) ผักและผลไม้ (+3.8%) ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป (+17.7%)

ส่วนหมวดสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญภาพรวมเพิ่มขึ้น 47.2% โดยสินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ (+80.7%) เครื่องใช้ไฟฟ้า (+36.3%) ยานยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+172.8%) เม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติก (+5.0%) สิ่งทอ (+7.5%) วัสดุก่อสร้าง (+111.3%) ผลิตภัณฑ์ยาง (+5.5%) เครื่องเดินทาง เครื่องหนังและรองเท้า (+7.2%) เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน (+17.0%) สินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ (-13.2%) สิ่งพิมพ์กระดาษและบรรจุภัณฑ์ (-2.5%) ขณะที่หมวดสินค้าอื่นๆ ภาพรวมเพิ่มขึ้น 8.1%

เมื่อพิจารณาแยกเป็นรายตลาดแล้วภาพรวมส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดหลัก ตลาดศักยภาพสูง และตลาดศักยภาพระดับรอง โดยตลาดหลักภาพรวมเพิ่มขึ้น 21.2% โดย ญี่ปุ่น (+13.5%) สหรัฐอเมริกา (+22.0%) สหภาพยุโรปสมาชิกเดิม 15 ประเทศ (+30.9%), ตลาดศักยภาพสูงภาพรวมเพิ่มขึ้น 28.1% โดยตลาดที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ อาเซียน(9) (+18.6%) จีน(+32.1%) เอเชียใต้(8) (+32.6%) อินเดีย (+45.2%) ฮ่องกง (+85.2%) เกาหลีใต้ (+33.4%) ตลาดที่ลดลง ได้แก่ ไต้หวัน (-5.2%), ตลาดศักยภาพระดับรอง ภาพรวมเพิ่มขึ้น 40.1% โดยทวีปออสเตรเลีย (+73.0%) ตะวันออกกลาง (+57.6%) ทวีปแอฟริกา (+42.6%) ละตินอเมริกา (+3.8%) สหภาพยุโรปสมาชิกใหม่ 12 ประเทศ(+24.9%) รัสเซียและ CIS (+30.1%) แคนาดา (+4.5%) ส่วนตลาดอื่นๆ ภาพรวมลดลง 5.8% โดยสวิตเซอร์แลนด์ (-48.6%)

ส่วนการนำเข้าในเดือน พ.ย. 55 หมวดสินค้าที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ หมวดสินค้าทุน (+62.5%) (เครื่องจักรกล (+51.6%) เครื่องจักรไฟฟ้า (76.6%) เครื่องคอมพิวเตอร์(+71.8%)), หมวดวัตถุดิบ/กึ่งสำเร็จรูป (+8.8%) (อุปกรณ์ ส่วนประกอบเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (+62.5%) เคมีภัณฑ์ (+6.0%) เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ (+21.6%) ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ (+222.1%), หมวดอุปโภค/บริโภค (+35.8%) (เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน (+92.0%) เวชกรรมและเภสัชกรรม (+3.3%), หมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง (+74.7%) (ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ (+94.1%) รถยนต์นั่ง (+51.7%) รถยนต์โดยสารและรถบรรทุก (+5.9%)ขณะที่หมวดสินค้าที่ลดลง ได้แก่ หมวดเชื้อเพลิง (-7.3%) (ประเภทน้ำมันดิบ -13.6%)

ปัจจัยที่มีผลต่อการนำเข้า มีการนำเข้าเพิ่มขึ้นในสินค้าเครื่องจักรที่มีเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป และยานยนต์และอุปกรณ์ที่ไม่สามารถผลิตได้ หรือผลิตได้ไม่เพียงพอสำหรับการใช้ในประเทศ รวมทั้งนำเข้าสินค้าสำหรับช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ และสินค้ารถยนต์สำหรับแสดงในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 29
กำลังโหลดความคิดเห็น