ASTVผู้จัดการรายวัน-พาณิชย์ลุ้นบิ๊กออเดอร์เดือนธันวาคม หวังดันยอกส่งออกทั้งปีโตตามเป้า 5 % ด้านส่งออกพ.ย.ทำมูลค่าเฉียด 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ พุ่ง 26.86% โตสูงสุดในรอบ 15 เดือน ส่วนยอดรวม 11 เดือนโต 2.32% การนำเข้าเดือนพ.ย. มีมูลค่า 21,010.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 24.53% ในรูปเงินบาทมีมูลค่า 648,126.8 ล้านบาท ส่งผลให้เดือนพ.ย.ขาดดุลการค้า 1,454.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ในรูปเงินบาทขาดดุล 52,342.4 ล้านบาท และรวม 11 เดือน ขาดดุลการค้า 15,706 ล้านเหรียญสหรัฐและในรูปเงินบาทขาดดุล 567,400.4 ล้านบาท
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าไทยในเดือนพ.ย.2555 มีมูลค่า 19,555.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 26.86% หรือในรูปเงินบาทมีมูลค่า 595,784.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.34% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่สูงสุดในรอบ 15 เดือน นับจากเดือนก.ย.2554 ทำให้ยอดส่งออกรวม 11 เดือนของปี 2555 (ม.ค.-พ.ย.) มีมูลค่ารวม 211,417.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.32%
และในรูปเงินบาทมีมูลค่า 6,539,750.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.20%
ส่วนการนำเข้าเดือนพ.ย. มีมูลค่า 21,010.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 24.53% ในรูปเงินบาทมีมูลค่า 648,126.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.04% และยอดรวม 11 เดือน มีมูลค่า 227,123.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.55% คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 7,107,151 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.53% โดยเดือนพ.ย.ขาดดุลการค้า 1,454.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ในรูปเงินบาทขาดดุล 52,342.4 ล้านบาท และรวม 11 เดือน ขาดดุลการค้า 15,706 ล้านเหรียญสหรัฐ
และในรูปเงินบาทขาดดุล 567,400.4 ล้านบาท
ทั้งนี้ กรมฯ ยังมั่นใจว่าการส่งออกในเดือนธ.ค.2555 น่าจะมีมูลค่าประมาณ 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และอาจจะทำได้มากกว่านี้ ซึ่งขณะนี้กำลังเช็กอยู่ว่ามีคำสั่งซื้อล็อตใหญ่ๆ หรือไม่ โดยหากการส่งออกเดือนธ.ค.เป็นไปตามที่คาดไว้ จะทำให้การส่งออกปี 2555 ขยายตัวได้ในระดับ 4-5% แน่นอน
นางศรีรัตน์กล่าวว่า การส่งออกในเดือนพ.ย. สินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 47.2% แต่สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรลดลง 5.9% ขณะที่ตลาดส่งออกในภาพรวมเพิ่มขึ้นแทบทุกตลาด โดยตลาดที่เคยส่งออกติดลบ เช่น สหภาพยุโรปเดิม (15 ประเทศ) เพิ่มขึ้นถึง 30.9% ญี่ปุ่น เพิ่ม 13.5% สหรัฐฯ เพิ่ม 22% ขณะที่อาเซียน เพิ่ม 18.6% จีน เพิ่ม 32.15 อินเดีย เพิ่ม 45.2% รวมไปถึงตลาดทวีปออสเตรเลีย เพิ่ม 73%
ตะวันออกกลาง เพิ่ม 57.6% ทวีปแอฟริกา เพิ่ม 42.6% ลาตินอเมริกา เพิ่ม 3.8% สหภาพยุโรปใหม่ (12 ประเทศ) เพิ่ม 24.9% รัสเซียและ CIS เพิ่ม 30.1% เป็นต้น
สำหรับการส่งออกในปี 2556 กรมฯ ได้ตั้งเป้าหมายทำงานที่ 8-9% มูลค่า 250,410 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการทบทวนมาตรการในการส่งเสริมและผลักดันการส่งออก รวมทั้งกำลังอยู่ระหว่างการหามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) เพื่อให้มีการส่งออกได้เพิ่มขึ้น โดยหลังจากทำงานไประยะหนึ่ง ในเดือนพ.ค.2556จะมีการประชุมเพื่อทบทวนเป้าหมายการส่งออกอีกครั้งว่าจะทำได้ตามเป้าหรือไม่ และจำเป็นต้องมีมาตรการอะไรเพิ่มเติม
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ไปดูรายละเอียดการใช้เงินต้นของเงินกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เพื่อนำมาใช้ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs และโอทอป ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงเป็นวันละ 300 คาดว่าจะใช้เงินประมาณ 1,000 ล้านบาทโดยจะเสนอให้คณะกรรมการกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเห็นชอบก่อนที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในช่วงต้นปี 2556
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าไทยในเดือนพ.ย.2555 มีมูลค่า 19,555.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 26.86% หรือในรูปเงินบาทมีมูลค่า 595,784.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.34% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่สูงสุดในรอบ 15 เดือน นับจากเดือนก.ย.2554 ทำให้ยอดส่งออกรวม 11 เดือนของปี 2555 (ม.ค.-พ.ย.) มีมูลค่ารวม 211,417.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.32%
และในรูปเงินบาทมีมูลค่า 6,539,750.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.20%
ส่วนการนำเข้าเดือนพ.ย. มีมูลค่า 21,010.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 24.53% ในรูปเงินบาทมีมูลค่า 648,126.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.04% และยอดรวม 11 เดือน มีมูลค่า 227,123.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.55% คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 7,107,151 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.53% โดยเดือนพ.ย.ขาดดุลการค้า 1,454.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ในรูปเงินบาทขาดดุล 52,342.4 ล้านบาท และรวม 11 เดือน ขาดดุลการค้า 15,706 ล้านเหรียญสหรัฐ
และในรูปเงินบาทขาดดุล 567,400.4 ล้านบาท
ทั้งนี้ กรมฯ ยังมั่นใจว่าการส่งออกในเดือนธ.ค.2555 น่าจะมีมูลค่าประมาณ 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และอาจจะทำได้มากกว่านี้ ซึ่งขณะนี้กำลังเช็กอยู่ว่ามีคำสั่งซื้อล็อตใหญ่ๆ หรือไม่ โดยหากการส่งออกเดือนธ.ค.เป็นไปตามที่คาดไว้ จะทำให้การส่งออกปี 2555 ขยายตัวได้ในระดับ 4-5% แน่นอน
นางศรีรัตน์กล่าวว่า การส่งออกในเดือนพ.ย. สินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 47.2% แต่สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรลดลง 5.9% ขณะที่ตลาดส่งออกในภาพรวมเพิ่มขึ้นแทบทุกตลาด โดยตลาดที่เคยส่งออกติดลบ เช่น สหภาพยุโรปเดิม (15 ประเทศ) เพิ่มขึ้นถึง 30.9% ญี่ปุ่น เพิ่ม 13.5% สหรัฐฯ เพิ่ม 22% ขณะที่อาเซียน เพิ่ม 18.6% จีน เพิ่ม 32.15 อินเดีย เพิ่ม 45.2% รวมไปถึงตลาดทวีปออสเตรเลีย เพิ่ม 73%
ตะวันออกกลาง เพิ่ม 57.6% ทวีปแอฟริกา เพิ่ม 42.6% ลาตินอเมริกา เพิ่ม 3.8% สหภาพยุโรปใหม่ (12 ประเทศ) เพิ่ม 24.9% รัสเซียและ CIS เพิ่ม 30.1% เป็นต้น
สำหรับการส่งออกในปี 2556 กรมฯ ได้ตั้งเป้าหมายทำงานที่ 8-9% มูลค่า 250,410 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการทบทวนมาตรการในการส่งเสริมและผลักดันการส่งออก รวมทั้งกำลังอยู่ระหว่างการหามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) เพื่อให้มีการส่งออกได้เพิ่มขึ้น โดยหลังจากทำงานไประยะหนึ่ง ในเดือนพ.ค.2556จะมีการประชุมเพื่อทบทวนเป้าหมายการส่งออกอีกครั้งว่าจะทำได้ตามเป้าหรือไม่ และจำเป็นต้องมีมาตรการอะไรเพิ่มเติม
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ไปดูรายละเอียดการใช้เงินต้นของเงินกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เพื่อนำมาใช้ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs และโอทอป ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงเป็นวันละ 300 คาดว่าจะใช้เงินประมาณ 1,000 ล้านบาทโดยจะเสนอให้คณะกรรมการกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเห็นชอบก่อนที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในช่วงต้นปี 2556