ASTVผู้จัดการรายวัน-ส่งออกต.ค.กลับมาเป็นบวก โต 15.57% สูงสุดในรอบปี หลังสินค้าส่งออกส่วนใหญ่ฟื้นตัว ตลาดส่งออกกระเตื้องขึ้น ประเมินเดือนพ.ย.-ธ.ค.ยังบวกได้อีก คาดทั้งปีโต 4.5-5%
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าไทยในเดือน ต.ค.2555 มีมูลค่า 19,524.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 15.57% ซึ่งมีแนวโน้มดีขึ้นชัดเจน หลังจากที่ก่อนหน้านี้การส่งออกขยายตัวติดลบ ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 21,993.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 21.61% เป็นการเพิ่มขึ้นที่จะส่งผลดีต่อการส่งออกในอนาคต เนื่องจากการนำเข้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าทุนและวัตถุดิบ ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้า 2,469 ล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนยอดการส่งออกรวม 10 เดือนของปี 2555 (ม.ค.-ต.ค.) มีมูลค่า 191,861.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.34% การนำเข้ามีมูลค่า 206,113.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.15% ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้าในช่วง 10 เดือนทั้งสิ้น 14,251.7 ล้านเหรียญสหรัฐ
สาเหตุที่ทำให้การส่งออกไทยฟื้นตัว มาจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมส่งออกหลังได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมเมื่อปลายปี 2554 ประกอบกับการส่งออกในเดือนต.ค.ปีที่แล้วเกิดน้ำท่วมหนัก ทำให้มียอดการส่งออกต่ำ จึงทำให้เดือนต.ค.ปีนี้ขยายตัวได้ดี
สำหรับทิศทางการส่งออกช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้ คือ เดือนพ.ย.-ธ.ค.2555 คาดว่าจะส่งออกได้โตมากกว่า 10% ซึ่งจะทำให้ทั้งไตรมาส 4 การส่งออกจะขยายตัวได้มากกว่า 10% และทำให้การส่งออกทั้งปี 2555 เติบโตได้ 4.5-5.0% ส่วนเป้าส่งออกปี 2556 จะนัดประชุมทูตพาณิชย์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 28-30 พ.ย.2555 มั่นใจว่าการส่งออกจะขยายตัวเป็นบวกได้มากกว่าปีนี้
นางศรีรัตน์กล่าวว่า สินค้าที่ส่งออกเพิ่มขึ้นในเดือนต.ค.2555 หมวดสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 24.3% ได้แก่ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์เพิ่ม 23.0% เครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่ม 25.2% ยานยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบเพิ่ม 53.4% เม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติกเพิ่ม 10.5% วัสดุก่อสร้างเพิ่ม 74.5% อัญมณีและเครื่องประดับเพิ่ม 3.9% ผลิตภัณฑ์ยางเพิ่ม 2.1% สิ่งพิมพ์กระดาษและบรรจุภัณฑ์เพิ่ม 18.0% เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วนเพิ่ม 9.9% ส่วนสินค้าส่งออกลดลง เช่น สิ่งทอลด 3.2% เครื่องเดินทาง เครื่องหนัง และรองเท้าลด 3.4% เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์ลด 2.2%
หมวดสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรลดลง 9.0% ได้แก่ ยางพาราลด 40.1% กุ้งแช่แข็งและแปรรูปลด 24.5% ผักและผลไม้ลด 29.1% น้ำตาลลด12.3% ส่วนสินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวเพิ่ม 29.2% ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเพิ่ม 34.7% อาหารทะเลแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป(ไม่รวมกุ้ง)เพิ่ม 11.9%ไก่สดแช่แข็งและแปรรูปเพิ่ม 15.3% และหมวดสินค้าอื่นๆ ในภาพรวมเพิ่มขึ้น 16.3%
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าไทยในเดือน ต.ค.2555 มีมูลค่า 19,524.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 15.57% ซึ่งมีแนวโน้มดีขึ้นชัดเจน หลังจากที่ก่อนหน้านี้การส่งออกขยายตัวติดลบ ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 21,993.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 21.61% เป็นการเพิ่มขึ้นที่จะส่งผลดีต่อการส่งออกในอนาคต เนื่องจากการนำเข้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าทุนและวัตถุดิบ ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้า 2,469 ล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนยอดการส่งออกรวม 10 เดือนของปี 2555 (ม.ค.-ต.ค.) มีมูลค่า 191,861.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.34% การนำเข้ามีมูลค่า 206,113.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.15% ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้าในช่วง 10 เดือนทั้งสิ้น 14,251.7 ล้านเหรียญสหรัฐ
สาเหตุที่ทำให้การส่งออกไทยฟื้นตัว มาจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมส่งออกหลังได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมเมื่อปลายปี 2554 ประกอบกับการส่งออกในเดือนต.ค.ปีที่แล้วเกิดน้ำท่วมหนัก ทำให้มียอดการส่งออกต่ำ จึงทำให้เดือนต.ค.ปีนี้ขยายตัวได้ดี
สำหรับทิศทางการส่งออกช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้ คือ เดือนพ.ย.-ธ.ค.2555 คาดว่าจะส่งออกได้โตมากกว่า 10% ซึ่งจะทำให้ทั้งไตรมาส 4 การส่งออกจะขยายตัวได้มากกว่า 10% และทำให้การส่งออกทั้งปี 2555 เติบโตได้ 4.5-5.0% ส่วนเป้าส่งออกปี 2556 จะนัดประชุมทูตพาณิชย์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 28-30 พ.ย.2555 มั่นใจว่าการส่งออกจะขยายตัวเป็นบวกได้มากกว่าปีนี้
นางศรีรัตน์กล่าวว่า สินค้าที่ส่งออกเพิ่มขึ้นในเดือนต.ค.2555 หมวดสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 24.3% ได้แก่ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์เพิ่ม 23.0% เครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่ม 25.2% ยานยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบเพิ่ม 53.4% เม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติกเพิ่ม 10.5% วัสดุก่อสร้างเพิ่ม 74.5% อัญมณีและเครื่องประดับเพิ่ม 3.9% ผลิตภัณฑ์ยางเพิ่ม 2.1% สิ่งพิมพ์กระดาษและบรรจุภัณฑ์เพิ่ม 18.0% เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วนเพิ่ม 9.9% ส่วนสินค้าส่งออกลดลง เช่น สิ่งทอลด 3.2% เครื่องเดินทาง เครื่องหนัง และรองเท้าลด 3.4% เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์ลด 2.2%
หมวดสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรลดลง 9.0% ได้แก่ ยางพาราลด 40.1% กุ้งแช่แข็งและแปรรูปลด 24.5% ผักและผลไม้ลด 29.1% น้ำตาลลด12.3% ส่วนสินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวเพิ่ม 29.2% ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเพิ่ม 34.7% อาหารทะเลแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป(ไม่รวมกุ้ง)เพิ่ม 11.9%ไก่สดแช่แข็งและแปรรูปเพิ่ม 15.3% และหมวดสินค้าอื่นๆ ในภาพรวมเพิ่มขึ้น 16.3%
