xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.โอ่น้ำมันพุ่งดัน Q3 สดใส “ไพรินทร์” ลุ้นบอร์ดชี้ขาดพรุ่งนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - ปตท.ยิ้ม ผลดำเนินงานไตรมาส 3/56 ส่อแววสดใสหลังราคาน้ำมันโลกขยับตัวสูงขึ้น คาดสิ้นปีนี้น้ำมันดิบเฉลี่ยไม่เกิน 110 เหรียญสหรัฐ/ตัน ยันรีวิวแผนลงทุน 5 ปีข้างหน้าไม่ลดงบลงทุนที่ตั้งไว้เดิม 3.6 แสนล้านบาท “ไพรินทร์” รอลุ้นผลประชุมบอร์ด ปตท.วันนี้เรื่องขัดคุณสมบัติฯ รัฐวิสาหกิจ 2518 หรือไม่

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2556 มีแนวโน้มจะดี หลังจากราคาน้ำมันในไตรมาสนี้ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาน้ำมัน WTI ที่เกิน 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในรอบ 3-4 ปีนี้ และเชื่อว่าสิ้นปีนี้ราคาน้ำมันดิบน่าจะไม่เกิน 110 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้กลุ่มธุรกิจต่างๆ ในเครือ ปตท.มีผลดำเนินงานดีขึ้น แต่บริษัทฯ ก็ไม่ชะล่าใจ เนื่องจากเศรษฐกิจจีนยังไม่ได้ไปในทิศทางที่ดี และยุโรปก็ยังไม่ฟื้นตัว ทำให้ ปตท.เน้นการค้าขายในกลุ่มประเทศอาเซียนเพิ่มมากขึ้น

ส่วนในไตรมาส 2/2556 บริษัทฯ มีผลดำเนินงานทรงตัวเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยไตรมาส 2/2555 ธุรกิจการกลั่นไม่ค่อยดี แต่ปีนี้ทั้งธุรกิจการกลั่นและปิโตรเคมีพอใช้ได้ ส่วนการทบทวนแผนการลงทุน 5 ปี (2557-2561) ของกลุ่ม ปตท.นั้น ขณะนี้บริษัทในเครืออยู่ระหว่างการทบทวน คาดว่าจะเสนอคณะกรรมการ ปตท.ได้ในไตรมาส 3 นี้ โดยวงเงินลงทุน 5 ปีของ ปตท.จะไม่ลดลงจากเดิมที่เคยวางงบลงทุนไว้ 3.6 แสนล้านบาท โดยเงินลงทุนในปีนี้ที่ลดลงจะโยกไปลงทุนในปี 2557 แทน ซึ่งการลงทุนนับจากนี้จะทำอย่างระมัดระวังว่าจะเน้นลงทุนในกลุ่มธุรกิจไหน และเน้นการลงทุนในกลุ่มประเทศใด

ส่วนกรณีคณะกรรมการบริษัทฯ จะพิจารณาว่าตนจะขัด พ.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2518 หลังจากไปเป็นกรรมการอิสระบริษัท เฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ (เอฟแอนด์เอ็น) หรือไม่นั้น คงต้องรอผลการประชุมบอร์ด ปตท.ในวันพรุ่งนี้ (26 ก.ค.) ก่อน ยังไม่สามารถพูดอะไรได้ ซึ่งปัจจุบันตนก็ทำงานตามปกติ ที่ผ่านมา กมธ.ป.ป.ช.ก็ไม่ได้บอกว่าตนทุจริตแต่อย่างใด

ด้านนายปานปรีย์ พหิทธานุกร ประธานกรรมการ บมจ.ปตท. กล่าวว่า ยังไม่สามารถระบุได้ว่าที่ประชุมบอร์ด ปตท.ครั้งนี้จะมีมติเรื่องคุณสมบัติซีอีโอ ปตท.หรือไม่ ขึ้นกับผลการตรวจสอบของคณะอนุกรรมการที่มีนายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุดในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบที่จะชี้แจงให้บอร์ดได้รับทราบ

วันนี้ (25 ก.ค.) นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานใน “พิธีลงนามในสัญญาอนุญาตให้ใช้เทคโนโลยีชุดอุปกรณ์ PTT DIESEL CNG และบันทึกความเข้าใจในโครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี PTT DIESEL CNG สำหรับรถยนต์ดีเซลขนาดเล็กรุ่นใหม่” ระหว่างบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กับบริษัท สามมิตร กรีนพาวเวอร์ จำกัด

นายไพรินทร์กล่าวว่า ปตท. และสามมิตร กรีนพาวเวอร์ ได้ร่วมกันนำเทคโนโลยีใหม่ของสถาบันวิจัยและเทคโนโลยี ปตท. ในการใช้ก๊าซธรรมชาติร่วมกับน้ำมันดีเซลแบบเชื้อเพลิงร่วมสำหรับรถยนต์ดีเซลขนาดเล็กหรือรถยนต์กระบะดีเซล โดยใช้ชื่อว่า “เทคโนโลยีชุดอุปกรณ์ PTT DIESEL CNG” มาพัฒนาขยายผลสู่เชิงพาณิชย์ ตั้งแต่ปลายปี 2555 ซึ่งล่าสุดประสบผลสำเร็จในการนำเทคโนโลยีชุดอุปกรณ์ PTT DIESEL CNG สู่สายการผลิตชิ้นส่วน นำไปประกอบติดตั้งในรถยนต์กระบะดีเซลพร้อมออกสู่ตลาด

ทั้งนี้ ชุดอุปกรณ์ PTT DIESEL CNG จะช่วยให้รถยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติร่วมกับน้ำมันดีเซลมีประสิทธิภาพการใช้พลังงานและสมรรถนะสูงเทียบเท่าเครื่องยนต์ดีเซล นอกจากนี้ยังสามารถทดแทนการใช้น้ำมันได้ถึง 70% ในการใช้งานนอกเมือง และจะลดความสิ้นเปลืองในการใช้ก๊าซธรรมชาติลงได้ครึ่งหนึ่งเมื่อนำไปใช้ทดแทนรถยนต์กระบะเบนซินที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง อีกทั้งยังวิ่งได้ระยะทางไกลกว่าต่อการเติมก๊าซธรรมชาติแต่ละครั้ง โดยชุดอุปกรณ์ PTT DIESEL CNG จะนำไปติดตั้งในรถกระบะก้านกล้วย DIESEL CNG ที่จะเริ่มจำหน่ายในอีก 3 เดือนข้างหน้าในราคาคันละ 6.87 แสนบาท โดย ปตท.จะได้รับค่าใบอนุญาตให้การใช้เทคโนโลยี และค่ารอยัลตี 2 พันบาท/คันด้วย

เชื่อว่าในอนาคตจะพัฒนาเทคโนโลยีในการนำก๊าซธรรมชาติไปใช้กับรถขนส่งขนาดใหญ่ตามนโยบายของรัฐ ซึ่งจะทำให้ค่าขนส่งถูกลง และเป็นแนวทางหนึ่งที่จะทำให้รัฐสามารถลอยตัวน้ำมันดีเซลได้ในอนาคต โดยยอมรับว่าปีนี้ ปตท.คงต้องแบกรับภาระการขาดทุนจากการขาย NGV ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท เนื่องจากอัตราการใช้เนื้อก๊าซฯ ในปีนี้เพิ่มขึ้น 30-40% แต่ ปตท.ไม่สามารถขยับขึ้นราคาขายปลีก NGV ได้จากปัจจุบันที่จำหน่ายอยู่ 10.50 บาท/กก. ขณะที่ต้นทุนอยู่ที่ 15-16 บาท/กก.
กำลังโหลดความคิดเห็น