ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจปรับจีดีพีปี 56 เหลือโตแค่ 4.3% เหตุปัจจัยลบรุมกระหน่ำ ทั้งเศรษฐกิจโลก ปัญหาการเมือง ค่าครองชีพพุ่ง
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ศูนย์ฯ ได้ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยในปี 2556 จาก 5% เหลือ 4.3% เนื่องจากมีปัจจัยลบที่กระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจค่อนข้างมาก ทั้งความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก ความขัดแย้งทางการเมืองในไทย ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน การขาดแคลนแรงงานในบางอุตสาหกรรม ปัญหาค่าครองชีพที่ปรับตัวสูง และการเพิ่มขึ้นของหนี้สินภาคครัวเรือน
ทั้งนี้ยังได้ปรับประมาณการตัวเลขส่งออกในปี 2556 ใหม่ โดยคาดว่าจะส่งออกได้มูลค่า 235,425 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4.1% เพราะเศรษฐกิจคู่ค้าชะลอตัว โดยเฉพาะยุโรปและจีน และยังมีการแข่งขันในด้านการส่งออกที่รุนแรงขึ้น ส่วนการนำเข้าคาดว่าจะมีมูลค่า 233,281 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.1% โดยได้ดุลการค้า 2,144 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 0.5%
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของดุลบัญชีเดินสะพัดคาดว่าจะขยายตัวติดลบ 0.2% ซึ่งจะเป็นการติดลบครั้งแรกหลังจากที่ประเทศไทยประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งในปี 2540 แต่ยังเป็นตัวเลขที่ยังไม่น่ากังวลมากนัก เนื่องจากผู้ประกอบการไทยยังมีการนำเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบต่างๆ เพื่อใช้ในการผลิตสินค้า
นายธนวรรธน์กล่าวว่า เพื่อให้เศรษฐกิจไทยขยายตัว รัฐบาลจะต้องหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจให้มากที่สุด และหากโครงการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ 3.5 แสนล้านบาท และโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาลผ่านก็จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4 และปีต่อไป แต่หากมีปัญหาหรือสะดุดก็จะกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และยิ่งการเมืองมีความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้นก็จะยิ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น