นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อํานวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า จากการที่สหรัฐอเมริกาส่งสัญญาณการปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หรือ คิวอี ของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟดลง เริ่มส่งผลให้ตลาดหุ้น ตลาดตราสารหนี้ ตลาดทองคำ ค่าเงิน เกิดการผันผวนไปทั้งระบบและเริ่มชะลอตัวลง เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนในด้านเงื่อนไข ทั้งเวลา และปริมาณในการปรับลดมาตรการคิวอี ขณะเดียวกันเศรษฐกิจโลกในหลายประเทศทั้งสหรัฐฯ ยุโรป จีน และญี่ปุ่น ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก ทำให้ 1-2 เดือนหลังจากนี้ นักลงทุนจะหันมาถือเงินสดมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้มีการชะลอตัวของนักลงทุนในระยะต่อไป เนื่องจากต้องรอดูความชัดเจนการลดขนาดของคิวอีของสหรัฐฯ
ขณะที่เศรษฐกิจไทยเอง อาจส่งผลกระทบกับความเชื่อมั่นด้านการบริโภคที่จะชะลอตัวลง ส่วนการส่งออกที่คาดการณ์ว่า จากเดิมจะขยายตัวร้อยละ 5 อาจลดลงเหลือร้อยละ 3 รวมทั้งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว หากเศรษฐกิจโลกยังชะลอตัวลง
อย่างไรก็ตามมองว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะสามารถขยายตัวได้ร้อยละ 4-5 ขณะที่เศรษฐกิจโลก จะขยายอยู่ที่ตัวร้อยละ 2-2.5 และในช่วงไตรมาส 3 จะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากเศรษฐกิจอยู่ในภาวะเปราะบาง
ขณะที่เศรษฐกิจไทยเอง อาจส่งผลกระทบกับความเชื่อมั่นด้านการบริโภคที่จะชะลอตัวลง ส่วนการส่งออกที่คาดการณ์ว่า จากเดิมจะขยายตัวร้อยละ 5 อาจลดลงเหลือร้อยละ 3 รวมทั้งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว หากเศรษฐกิจโลกยังชะลอตัวลง
อย่างไรก็ตามมองว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะสามารถขยายตัวได้ร้อยละ 4-5 ขณะที่เศรษฐกิจโลก จะขยายอยู่ที่ตัวร้อยละ 2-2.5 และในช่วงไตรมาส 3 จะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากเศรษฐกิจอยู่ในภาวะเปราะบาง