นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงแนวทางการปรับลดราคาจำนำข้าว ปี 2556/2557 ให้เหลือตันละ 12,000-13,500 บาท ว่า จะเป็นทางออกที่ดี เพราะเป็นการประเมินข้อมูลจากเกษตรกร ภาคการค้าส่งออก โรงสี และตลาดโลกด้วยหลักการทางธุรกิจอย่างสมดุล และเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับราคาตลาดโลกทำให้เกษตรกรมีกำไรจากการขาย และสามารถส่งออกเพื่อแข่งขันในตลาดโลกได้
ส่วนการเตรียมชี้แจงตัวเลขโครงการรับจำข้าวต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ที่จะใช้ข้อมูลจากหลายฝ่ายร่วมกันในทุกด้าน ทั้งการตรวจสอบสต๊อกข้าว การคำนวณราคา เชื่อว่า จะช่วยคลี่คลายความสงสัยและเกิดความชัดเจนต่อการดำเนินงานของภาครัฐในโครงการจำนำข้าวได้ทั้งหมด ซึ่งการดำเนินการใดๆ ด้านเศรษฐกิจต้องยอมรับว่า จะต้องมีผลกระทบเชิงลบและบวกเสมอ แต่โครงการรับจำนำข้าวมุ่งให้เกิดผลลัพธ์เชิงบวกในระยะสั้น และให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกร หากดำเนินการเช่นนี้ต่อเนื่องอาจเกิดความเสี่ยง หรือส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะยาวได้ ดังนั้น การปรับลดราคารับจำนำข้าวและแนวทางต่างๆ ที่รองรับโครงการดังกล่าว จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจได้
ส่วนการเตรียมชี้แจงตัวเลขโครงการรับจำข้าวต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ที่จะใช้ข้อมูลจากหลายฝ่ายร่วมกันในทุกด้าน ทั้งการตรวจสอบสต๊อกข้าว การคำนวณราคา เชื่อว่า จะช่วยคลี่คลายความสงสัยและเกิดความชัดเจนต่อการดำเนินงานของภาครัฐในโครงการจำนำข้าวได้ทั้งหมด ซึ่งการดำเนินการใดๆ ด้านเศรษฐกิจต้องยอมรับว่า จะต้องมีผลกระทบเชิงลบและบวกเสมอ แต่โครงการรับจำนำข้าวมุ่งให้เกิดผลลัพธ์เชิงบวกในระยะสั้น และให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกร หากดำเนินการเช่นนี้ต่อเนื่องอาจเกิดความเสี่ยง หรือส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะยาวได้ ดังนั้น การปรับลดราคารับจำนำข้าวและแนวทางต่างๆ ที่รองรับโครงการดังกล่าว จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจได้