นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้า กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.นั้น คณะกรรมการคงจะมีการพิจารณาใน 2 ทางคือ หากจะต้องชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็ว และยังเป็นการส่งเสริมการออม อาจจะตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 2.75 เปอร์เซ็นต์ไว้ อย่างไรก็ตาม เป็นไปได้เช่นกันที่ กนง.อาจตัดสินใจลดดอกเบี้ยลง 0.25 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้มีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะว่าจากข้อมูลของหลายฝ่ายเห็นตรงกันว่า เศรษฐกิจไทยนั้นมีแนวโน้มชะลอตัวลงจากความผันผวนของเศรษฐกิจ
ด้านนายไพบูลย์ พลสุวรรณา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กนง.คงจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง หรือหากลดคงจะลดเพียง 0.25 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งไม่ได้ช่วยลดการเข้ามาเก็งกำไรค่าเงินอย่างแน่นอน ประกอบกับกระทรวงการคลังไม่มีมาตรการการคลังเข้ามาดูแล และส่งสัญญาณว่าจะสกัดการเข้ามาเก็งกำไรอย่างจริงจัง ดังนั้นภาคเอกชนจึงทำใจ และเชื่อว่าต้องพยายามผลักดันการส่งออกด้วยตนเอง มากกว่าที่จะรอความช่วยเหลือจากภาครัฐ และประเมินว่าการส่งออกปีนี้น่าจะขยายตัวได้เพียง 4.92 เปอร์เซ็นต์
ด้านนายไพบูลย์ พลสุวรรณา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กนง.คงจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง หรือหากลดคงจะลดเพียง 0.25 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งไม่ได้ช่วยลดการเข้ามาเก็งกำไรค่าเงินอย่างแน่นอน ประกอบกับกระทรวงการคลังไม่มีมาตรการการคลังเข้ามาดูแล และส่งสัญญาณว่าจะสกัดการเข้ามาเก็งกำไรอย่างจริงจัง ดังนั้นภาคเอกชนจึงทำใจ และเชื่อว่าต้องพยายามผลักดันการส่งออกด้วยตนเอง มากกว่าที่จะรอความช่วยเหลือจากภาครัฐ และประเมินว่าการส่งออกปีนี้น่าจะขยายตัวได้เพียง 4.92 เปอร์เซ็นต์