เอกชนเชื่อจำนำข้าวกดดัน “รบ.ปู” ยกเครื่อง ครม.ชุดใหม่ พร้อมคาด “บุญทรง” กระเด็นตกเก้าอี้ “กิตติรัตน์” กลับมาคุมพาณิชย์แทน เพื่อให้การแก้ปัญหาจำนำข้าวเห็นผลในทันที กอบกู้คะแนนนิยมที่ตกต่ำ พร้อมแนะจับตาโฉมหน้า รมต.ใหม่ วัดฝีมือแก้ปัญหาข้าว และเร่งทำงานได้ทัน ศก.ที่ชะลอตัวได้หรือไม่
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ปัญหาโครงการรับจำนำข้าวเป็นกระแสกดดันที่จะทำให้รัฐบาลต้องมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเริ่มมีกระแสข่าวว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะกลับมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แทนนายบุญทรง เตริยาภิรมย์
ประเด็นดังกล่าวมองว่ารัฐบาลอาจต้องการให้นายกิตติรัตน์ ซึ่งเป็นมือวางอันดับหนึ่งด้านเศรษฐกิจมาทำงานเพื่อให้เห็นผลในทันที รวมทั้งทำความเข้าใจกับเกษตรกรในการดำเนินโครงการรับจำนำ เพราะคะแนนนิยมของรัฐบาลขณะนี้ค่อยๆ ปรับลดลง จากปัญหาดังกล่าว หลังจากเกษตรกรเกิดความไม่พอใจจากการลดราคารับจำนำข้าว เหลือ 12,000 บาทต่อตัน และนำมาสู่การปรับ ครม.ในหลายตำแหน่ง เพื่อให้การทำงานของรัฐบาลมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม
ทั้งนี้ คงต้องรอดูโฉมหน้ารัฐมนตรีใหม่เพื่อประเมินว่าจะสามารถเข้ามาบริหารจัดการเรื่องข้าวได้อย่างไร รวมทั้งการดูแลเศรษฐกิจที่ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงขาลงจากผลกระทบมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณของสหรัฐฯ หรือ QE ซึ่งจะเป็นแรงกดดันที่จะทำให้รัฐบาลเร่งทำงานให้ทันภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
นายธนวรรธน์กล่าวว่า ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจได้สำรวจความเห็นโครงการรับจำนำข้าว พบว่าเกษตรกรส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 70 พอใจการดำเนินนโยบายโครงการรับจำนำของรัฐบาล เพราะมองว่าเป็นโครงการที่ช่วยเกษตรกรจริง ทำให้มีรายได้มากขึ้นและเป็นหนี้น้อยลง
ดังนั้นจึงไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลจะปรับลดราคารับจำนำข้าวลงมาอยู่ที่ 12,000 บาทต่อตัน เพราะเกษตรกรได้ลงทุนปลูกข้าวไปแล้วและมีต้นทุนการผลิตในอัตราสูง หากราคารับจำนำลดลงจะทำให้รายได้น้อยลงไม่พอต่อค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้เกษตรกรที่มีอยู่ 4 ล้านครัวเรือน หรือประมาณ 20 ล้านคนจะมีพฤติกรรมการใช้จ่ายลดลงไปจนกว่าสัญญาณเศรษฐกิจจะฟื้นตัวดีขึ้นชัดเจน รัฐบาลจึงควรเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจในภูมิภาคชะลอตัวลงไปมากกว่านี้