ผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเอเชียล่าสุดของธอมสัน รอยเตอร์/ INSEAD บ่งชี้ว่า บริษัทชั้นนำของเอเชียมีความเชื่อมั่นมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มธุรกิจ ขณะที่อุตสาหกรรมค้าปลีกและเดินเรือดีดตัวขึ้นอย่างมาก ในไตรมาส 2 ของปีนี้
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจในเอเชียที่สำรวจโดยธอมสัน รอยเตอร์ / INSEAD เพิ่มขึ้น 6 จุด สู่ระดับ 71 ในเดือนมิ.ย.ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 ไตรมาส และเพิ่มขึ้นเป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน โดยดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงแนวโน้มในเชิงบวก
บริษัท 44% จากจำนวน 91 แห่งที่เข้าร่วมในการสำรวจมีความเห็นในเชิงบวกในขณะนี้เกี่ยวกับแนวโน้มทางธุรกิจ เพิ่มขึ้นจาก 30% ในไตรมาสก่อน
อย่างไรก็ดี ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกยังคงเป็นความเสี่ยงทางธุรกิจมากที่สุดในประเทศและภาคธุรกิจส่วนใหญ่
ความเชื่อมั่นทางธุรกิจในญี่ปุ่นบ่งชี้ถึงการปรับตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยดัชนีพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่มาตรการกระตุ้นด้านการเงินเชิงรุกเริ่มที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ
ผู้ตอบแบบสำรวจ 19 รายของญี่ปุ่นซึ่งรวมถึงไดอิชิ ซันเคียว, โตชิบา คอร์ป, ฮิตาชิ และชาร์ป คอร์ปนั้น บริษัท 5 แห่งมองแนวโน้มธุรกิจในเชิงบวก และ 14 รายมองแนวโน้มที่เป็นกลาง ขณะที่ในผลสำรวจครั้งก่อนนั้น มีบริษัทเพียงแห่งเดียวจาก 22 แห่งที่คาดการณ์แนวโน้มธุรกิจในเชิงบวก
ออสเตรเลียและอินโดนีเซียคาดการณ์แนวโน้มธุรกิจว่ามีการปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก และเป็นประเทศที่มีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจมากที่สุดในเอเชีย
เศรษฐกิจออสเตรเลียยังคงปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 2 โดยหนุนดัชนีความเชื่อมั่นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2012 แม้ผู้ร่วมสำรวจมากขึ้นมีความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลก
"จากมุมมองทั่วไปนั้น ความเชื่อมั่นมีความสัมพันธ์อย่างมากกับค่าเงิน, อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง และข่าวจากต่างประเทศที่ออกมาดีขึ้น" นายสตีเฟน วอลเตอร์ส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเจพี มอร์แกนในซิดนีย์กล่าว
ความเชื่อมั่นทางธุรกิจในจีน ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยอยู่ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 50 ขณะที่บริษัทต่างๆวิตกเกี่ยวกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
"หากคุณย้อนกลับไปปีที่แล้ว มีความวิตกอย่างมากเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก ซึ่งเกิดจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวรุนแรงในจีน, การล่มสลายในยุโรป และ ภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจซ้ำซ้อนในสหรัฐ โดยความวิตกดังกล่าวบางประการยังคงมีอยู่ ขณะที่ได้เบาบางลงในปีที่ผ่านมา" นายเชน โอลิเวอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอเอ็มพี แคปิตอล อินเวสเตอร์สในซิดนีย์กล่าว "ดังนั้นบริษัทต่างๆในเอเชียจึงยังคงวิตกเกี่ยวกับจีนว่าการขยายตัวจะอยู่ที่ 7.5 หรือ 7.8% แต่ความวิตกบางประการในปีที่ผ่านมาได้เบาบางลง ซึ่งบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของบริษัทที่ค่อยๆปรับตัวขึ้น"
สำหรับความเชื่อมั่นทางธุรกิจในอินเดียนั้นร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี โดยถูกถ่วงลงจากความวิตกเกี่ยวกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของไทยลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 42 จากระดับ 60
เมื่อจำแนกตามภาคธุรกิจนั้น อุตสาหกรรมส่วนใหญ่บ่งชี้ถึงการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยความเชื่อมั่นในภาคอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี ขณะที่ความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมอาหาร, เวชภัณฑ์และ
ทรัพยากรร่วงลง
ความเชื่อมั่นของบริษัทเดินเรือพุ่งขึ้นอย่างมาก โดยมีแนวโน้มดีที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2012
นายทิม ฮักซเลย์ ซีอีโอของวาห์ กง มาริไทม์ ทรานสปอร์ต โฮลดิ้งส์ในฮ่องกงกล่าวว่า "เราเห็นความเชื่อมั่นระดับหนึ่ง ขณะที่มีความเชื่อว่า อุตสาหกรรมเดินเรือกำลังผ่านพ้นปัญหาอุปทานมากเกินไป และอาจจะมีความสมดุลในปี 2014"
นายฮักซ์เลย์กล่าวว่า มีความหวังเกี่ยวกับการปรับตัวดีขึ้นของอัตราค่าระวางเรือขนาดใหญ่ในไตรมาส 4 ขณะที่มีการเพิ่มสต็อกแร่เหล็ก และราคาแร่เหล็กลดลงในจีน เขากล่าวด้วยว่า เรือบรรทุกน้ำมันดิบสามารถรักษาอัตราค่าระวางที่เพิ่มขึ้น ขณะที่เจ้าของเรือปฏิเสธการเรียกร้องให้ปรับลดราคาลง
ความเชื่อมั่นในภาคค้าปลีกปรับตัวขึ้นมากที่สุดหลังจากพุ่งขึ้นสู่ระดับ 69 จากระดับ 50 ขณะที่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีมีการฟื้นตัวมากขึ้นสู่ระดับสูงสุด ในรอบกว่า 1 ปี
ส่วนความเชื่อมั่นของบริษัทผลิตอาหารและเครื่องดื่มร่วงลงสู่ระดับ 75 จากระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 88 ในการสำรวจที่ผ่านมา ขณะที่ความผันผวนของสกุลเงินและต้นทุนที่เพิ่มขึ้นยังคงเป็นความเสี่ยง
T.Thammasak
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจในเอเชียที่สำรวจโดยธอมสัน รอยเตอร์ / INSEAD เพิ่มขึ้น 6 จุด สู่ระดับ 71 ในเดือนมิ.ย.ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 ไตรมาส และเพิ่มขึ้นเป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน โดยดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงแนวโน้มในเชิงบวก
บริษัท 44% จากจำนวน 91 แห่งที่เข้าร่วมในการสำรวจมีความเห็นในเชิงบวกในขณะนี้เกี่ยวกับแนวโน้มทางธุรกิจ เพิ่มขึ้นจาก 30% ในไตรมาสก่อน
อย่างไรก็ดี ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกยังคงเป็นความเสี่ยงทางธุรกิจมากที่สุดในประเทศและภาคธุรกิจส่วนใหญ่
ความเชื่อมั่นทางธุรกิจในญี่ปุ่นบ่งชี้ถึงการปรับตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยดัชนีพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่มาตรการกระตุ้นด้านการเงินเชิงรุกเริ่มที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ
ผู้ตอบแบบสำรวจ 19 รายของญี่ปุ่นซึ่งรวมถึงไดอิชิ ซันเคียว, โตชิบา คอร์ป, ฮิตาชิ และชาร์ป คอร์ปนั้น บริษัท 5 แห่งมองแนวโน้มธุรกิจในเชิงบวก และ 14 รายมองแนวโน้มที่เป็นกลาง ขณะที่ในผลสำรวจครั้งก่อนนั้น มีบริษัทเพียงแห่งเดียวจาก 22 แห่งที่คาดการณ์แนวโน้มธุรกิจในเชิงบวก
ออสเตรเลียและอินโดนีเซียคาดการณ์แนวโน้มธุรกิจว่ามีการปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก และเป็นประเทศที่มีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจมากที่สุดในเอเชีย
เศรษฐกิจออสเตรเลียยังคงปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 2 โดยหนุนดัชนีความเชื่อมั่นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2012 แม้ผู้ร่วมสำรวจมากขึ้นมีความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลก
"จากมุมมองทั่วไปนั้น ความเชื่อมั่นมีความสัมพันธ์อย่างมากกับค่าเงิน, อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง และข่าวจากต่างประเทศที่ออกมาดีขึ้น" นายสตีเฟน วอลเตอร์ส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเจพี มอร์แกนในซิดนีย์กล่าว
ความเชื่อมั่นทางธุรกิจในจีน ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยอยู่ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 50 ขณะที่บริษัทต่างๆวิตกเกี่ยวกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
"หากคุณย้อนกลับไปปีที่แล้ว มีความวิตกอย่างมากเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก ซึ่งเกิดจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวรุนแรงในจีน, การล่มสลายในยุโรป และ ภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจซ้ำซ้อนในสหรัฐ โดยความวิตกดังกล่าวบางประการยังคงมีอยู่ ขณะที่ได้เบาบางลงในปีที่ผ่านมา" นายเชน โอลิเวอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอเอ็มพี แคปิตอล อินเวสเตอร์สในซิดนีย์กล่าว "ดังนั้นบริษัทต่างๆในเอเชียจึงยังคงวิตกเกี่ยวกับจีนว่าการขยายตัวจะอยู่ที่ 7.5 หรือ 7.8% แต่ความวิตกบางประการในปีที่ผ่านมาได้เบาบางลง ซึ่งบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของบริษัทที่ค่อยๆปรับตัวขึ้น"
สำหรับความเชื่อมั่นทางธุรกิจในอินเดียนั้นร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี โดยถูกถ่วงลงจากความวิตกเกี่ยวกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของไทยลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 42 จากระดับ 60
เมื่อจำแนกตามภาคธุรกิจนั้น อุตสาหกรรมส่วนใหญ่บ่งชี้ถึงการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยความเชื่อมั่นในภาคอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี ขณะที่ความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมอาหาร, เวชภัณฑ์และ
ทรัพยากรร่วงลง
ความเชื่อมั่นของบริษัทเดินเรือพุ่งขึ้นอย่างมาก โดยมีแนวโน้มดีที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2012
นายทิม ฮักซเลย์ ซีอีโอของวาห์ กง มาริไทม์ ทรานสปอร์ต โฮลดิ้งส์ในฮ่องกงกล่าวว่า "เราเห็นความเชื่อมั่นระดับหนึ่ง ขณะที่มีความเชื่อว่า อุตสาหกรรมเดินเรือกำลังผ่านพ้นปัญหาอุปทานมากเกินไป และอาจจะมีความสมดุลในปี 2014"
นายฮักซ์เลย์กล่าวว่า มีความหวังเกี่ยวกับการปรับตัวดีขึ้นของอัตราค่าระวางเรือขนาดใหญ่ในไตรมาส 4 ขณะที่มีการเพิ่มสต็อกแร่เหล็ก และราคาแร่เหล็กลดลงในจีน เขากล่าวด้วยว่า เรือบรรทุกน้ำมันดิบสามารถรักษาอัตราค่าระวางที่เพิ่มขึ้น ขณะที่เจ้าของเรือปฏิเสธการเรียกร้องให้ปรับลดราคาลง
ความเชื่อมั่นในภาคค้าปลีกปรับตัวขึ้นมากที่สุดหลังจากพุ่งขึ้นสู่ระดับ 69 จากระดับ 50 ขณะที่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีมีการฟื้นตัวมากขึ้นสู่ระดับสูงสุด ในรอบกว่า 1 ปี
ส่วนความเชื่อมั่นของบริษัทผลิตอาหารและเครื่องดื่มร่วงลงสู่ระดับ 75 จากระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 88 ในการสำรวจที่ผ่านมา ขณะที่ความผันผวนของสกุลเงินและต้นทุนที่เพิ่มขึ้นยังคงเป็นความเสี่ยง
T.Thammasak