“ประภัสร์” สยบเกาเหลา “พีรกันต์” บุกแอร์พอร์ตลิงก์ ซัดไม่เข้าใจระเบียบทำสับสน พร้อมชี้แจงพนักงาน ยันผลตอบแทน สวัสดิการไม่กระทบหลังยุบบริษัทกลับมาเป็นหน่วยธุรกิจของ ร.ฟ.ท. ขอร่วมมือทำงาน ชูเป็นหน่วยเดินรถไฟฟ้าหลักของประเทศ ทั้งรถไฟความเร็วสูงและสายสีแดง ชี้สัญญาจ้าง “พีรกันต์” ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องหลังยุบบริษัท CEO ยันพร้อมทำงานตามนโยบาย หวังเพิ่มผู้โดยสาร
วันนี้ (4 มิ.ย.) นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้เดินทางไปยังศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ที่คลองตัน ซอยศูนย์วิจัย เพื่อให้นโยบายในการทำงานพร้อมทำความเข้าใจกับผู้บริหารและพนักงานหลังจากที่มีข่าวความขัดแย้งระหว่างนายประภัสร์ กับนายพีรกันต์ แก้ววงศ์วัฒนา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (CEO) บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด โดยนายประภัสร์เปิดเผยว่าได้ชี้แจงพนักงานของแอร์พอร์ตลิงก์ถึงแนวคิดในการยุบบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ให้กลับมาเป็นหน่วยธุรกิจของ ร.ฟ.ท. ซึ่งได้นำเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท.ไปแล้ว จากนี้จะเสนอกระทรวงคมนาคมและเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) หาก ครม.ให้ความเห็นชอบ ในส่วนของพนักงานจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ทั้งในเรื่องเงินเดือน ผลตอบแทน สวัสดิการ สิทธิประโยชน์ต่างๆ ในขณะที่การทำงานจะมีความคล่องตัวมากขึ้นเพราะจะเพิ่มฝ่ายพัสุดเข้าไปจะทำให้หน่วยธุรกิจนี้มีความเข้มแข็งและพึ่งพาตัวเองได้ โดยจะทำหน้าที่หลักในการเดินรถ ทั้งรถไฟความเร็วสูง และรถไฟฟ้าสายสีแดง
ส่วนข่าวความขัดแย้งกับนายพีรกันต์ CEO แอร์พอร์ตลิงก์นั้น นายประภัสร์กล่าวว่า ได้พูดคุยกัน 2-3 ครั้ง และนายพีรกันต์ได้ขอโทษแล้ว ซึ่งสาเหตุอาจเป็นเพราะนายพีรกันต์ไม่ทราบระเบียบที่เกี่ยวข้องเพราะไม่เคยอยู่ในระบบราชการหรือรัฐวิสาหกิจมาก่อน ซึ่งเมื่อทำความเข้าใจร่วมกันแล้วก็ต้องก้าวผ่านกรณีนี้ไปและร่วมมือกันทำงานเพื่อพัฒนาองค์กรให้เป็นไปตามเป้าหมาย ส่วนสถานภาพของนายพีรกันต์ภายหลังยุบบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.นั้น นายประภัสร์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้เคยเสนอบอร์ดแอร์พอร์ตลิงก์ให้ชะลอการสรรหาไปก่อนเพื่อรอความชัดเจนเรื่องยุบบริษัท แต่เมื่อบอร์ดแอร์พอร์ตลิงก์ไม่รอจึงให้ตั้งเงื่อนไขสัญญาจ้าง 2 ข้อ คือ 1. หากเลิกจ้างก่อนนายพีรกันต์จะเรียกค่าเสียหายค่าชดเชยไม่ได้ 2. ไม่สามารถเรียกร้องตำแหน่งในหน่วยธุรกิจได้
“เสียใจกับภาพความขัดแย้งความสับสนที่เกิดขึ้น เพราะเป้าหมายไม่ได้ยุบแอร์พอร์ตลิงก์แต่ต้องการเอาบริษัทจำกัดออก เพราะถ้าไม่ทำแบบนี้ต่อไปรถไฟจะเดินรถต้องตั้งหน่วยธุรกิจขึ้นมาอยู่ดี แนวคิดนี้ดีที่สุด ประเทศต้องมาก่อน ตัวบุคคลมาทีหลัง และผมคิดตั้งแต่มารับตำแหน่งก่อนที่ CEO แอร์พอร์ตลิงก์จะมา ไม่ได้มีปัญหาส่วนตัวกัน เชื่อว่าพนักงานแอร์พอร์ตลิงก์เข้าใจเป้าหมายการทำงานของผมมากขึ้นที่ต้องการให้รถไฟกลับมาเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยและประเทศ เป็นองค์กรที่มีความเข้มแข็ง และเป็นผู้นำในการเดินรถไฟฟ้า ซึ่งขณะนี้ ร.ฟ.ท.จะต้องวางแผนการบริหารการลงทุน วงเงิน 1.3 ล้านล้านบาทที่อยู่ใน พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท รถไฟอยู่ได้ พนักงานแอร์พอร์ตลิงก์ก็อยู่ได้” นายประภัสร์กล่าว
นายพีรกันต์กล่าวว่า พร้อมปฏิบัติตามนโยบายของผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. และขอบคุณที่มาพูดคุยทำความเข้าใจกับพนักงาน ยืนยันถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ หลังจากนี้ทุกคนจะร่วมมือกันทำงานตามหน้าที่ โดยต้องเร่งตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการให้ได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว ตรงต่อเวลา ปลอดภัย และสะดวกสบาย และยืนยันว่าไม่เคยยึดติดกับตำแหน่ง ขอมองไปข้างหน้า ส่วนอนาคตอยู่ที่ผู้ว่าจ้างเพราะในสัญญาจะมีการประเมินผลการทำงาน อย่างไรก็ตาม วันที่ 14 มิถุนายนนี้จะเปิดโครงการ “Smile Service” ให้ผู้โดยสารรู้สึกถึงความเป็นมิตรในการใช้บริการ และจะใช้ทุกยุทธศาสตร์เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดี และเพิ่มจำนวนผู้โดยสารแอร์พอร์ตลิงก์โดยเฉพาะรถไฟฟ้าด่วน (Express Line)