xs
xsm
sm
md
lg

ครม.อนุมัติ พ.ร.บ.ธุรกิจ รปภ. หนุนบันทึกความเข้าใจ เกาหลี เพื่อรถไฟความเร็วสูง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัติ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี(แฟ้มภาพ)
ทีมโฆษกสำนักนายกฯ เผย ครม.เห็นชอบ พ.ร.บ.ธุรกิจรักษาความปลอดภัย ให้ผู้ที่จะประกอบธุรกิจรักษาความปลอดภัยใช้ชื่อ บ.รักษาความปลอดภัยนำหน้า ชี้เพื่อไปในทางเดียวกัน และเป็นการคุ้มครองธุรกิจ ครม.ยังหนุนบันทึกความเข้าใจความร่วมมือระบบรางไทย-เกาหลี รองรับรถไฟความเร็วสูง

วันนี้ (7 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป

ทั้งนี้ สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวได้กำหนดให้ผู้ซึ่งประสงค์จะประกอบธุรกิจรักษาความปลอดภัยจะต้องขอรับใบอนุญาต และจะต้องจัดตั้งในรูปบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด โดยต้องใช้คำนำหน้าชื่อว่า “บริษัทรักษาความปลอดภัย” และคำว่า “จำกัด” หรือ “จำกัด (มหาชน)” ต่อท้าย แล้วแต่กรณี

โดยกำหนดให้พนักงานรักษาความปลอดภัยรับอนุญาตต้องสวมเครื่องแบบและติดเครื่องหมายพนักงานรักษาความปลอดภัยรับอนุญาตในขณะปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งกำหนดหน้าที่ในการช่วยเหลือพนักงานฝ่ายปกครองและตำรวจ และหน้าที่อื่นๆ นอกจากนี้ยังมีการกำหนดหลักเกณฑ์การพักใช้และเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจรักษาความปลอดภัย โทษทางปกครอง การอุทธรณ์ กำหนดอำนาจหน้าที่ของนายทะเบียนและพนักงานเจ้าหน้าที่ มีบทกำหนดโทษอาญา รวมทั้งกำหนดบทเฉพาะกาลเกี่ยวกับการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ การประกอบธุรกิจรักษาความปลอดภัย การเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย การจัดการฝึกอบรมหลักสูตรการรักษาความปลอดภัย รวมทั้งการใช้ชื่อบริษัทรักษาความปลอดภัย

“กฎหมายดังกล่าวจะช่วยให้การประกอบธุรกิจด้านการรักษาความปลอดภัยเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ผู้ทำธุรกิจนี้จะต้องขอรับใบอนุญาตและตั้งเป็นบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด มีการอบรมพนักงานตามมาตรฐาน....ปัจจุบันมีพนักงานรักษาความปลอดภัยอยู่ราว 2.5-3 แสนคนทั่วประเทศ อีกทั้งจะเป็นการคุ้มครองธุรกิจดังกล่าวให้มากขึ้นด้วย” รองโฆษกฯ กล่าว

นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ 1. เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระบบรางระหว่างกระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงที่ดิน การขนส่ง และกิจการทางทะเลแห่งสาธารณรัฐเกาหลี ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุง แก้ไขร่างบันทึกความเข้าใจฯในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญก่อนการลงนาม ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการได้โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรี 2. อนุมัติให้ รมว.คมนาคม หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย

นายภักดีหาญส์กล่าวว่า สาระสำคัญของร่างบันทึกความเข้าใจฯ สรุปได้ ดังนี้ 1. ขอบเขตและกิจกรรมความร่วมมือ ให้มีกิจกรรมพัฒนาระบบรางในลักษณะให้คำปรึกษา แลกเปลี่ยนความรู้ ความร่วมมือระหว่างกัน พัฒนาล้อเลื่อนสมัยใหม่ รวมถึงระบบอาณัติสัญญาณและระบบสื่อสารสำหรับระบบราง พัฒนาการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ ศูนย์โลจิสติกส์และศูนย์สินค้า และรถไฟความเร็วสูง เป็นต้น 2. การประชุมความร่วมมือระบบราง จะจัดประชุมสลับกันระหว่างสองประเทศ โดยแต่ละฝ่ายมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม 3. ความตกลงฉบับนี้ไม่มีเจตนาให้เกิดผลผูกพันทางกฎหมายใดๆ 4. ข้อพิพาทใดที่เกิดจากการตีความตามบันทึกความเข้าใจนี้ จะดำเนินการแก้ไขโดยสุจริตจากสองฝ่าย อย่างไรก็ดี การดำเนินการตามที่ได้ลงนามระหว่างสองฝ่าย จะต้องบรรจุข้อบทว่าด้วยการระงับข้อพิพาทลงไปด้วย และ 5. บันทึกความเข้าใจนี้จะมีผลบังคับใช้วันที่ทั้งสองฝ่ายลงนาม มีอายุ 3 ปี และอาจมีการต่ออายุได้อีก 2 ปีตามความเห็นของทั้งสองฝ่าย


กำลังโหลดความคิดเห็น