บอร์ดกทพ.เห็นชอบกรอบการปรับค่าผ่านทางด่วนใหม่แล้ว รถ 4ล้อ ขึ้นเป็น 50 บาท กทพ.เตรียมเจรจา BECL และ NECL ตามขั้นตอนของสัญญาสัมปทาน ก่อนเสนอบอร์ดและรายงานครม.เพื่อทราบ เพื่อประกาศใช้อัตราใหม่ ด่วน 1 ,2 (ในเมือง) 1ก.ย.นี้ ส่วนบางปะอิน-ปากเกร็ด เริ่ม 1พ.ย.
พลตำรวจเอก วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ดกทพ.เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแนวทางการปรับอัตราค่าผ่านทางปี 2556 ของทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทางพิเศษศรีรัช ทางพิเศษอุดรรัถยา และทางพิเศษบูรพาวิถี ตามที่คณะอนุกรรมการพิจารณาค่าผ่านทางพิเศษเสนอ โดยขั้นตอนต่อจากนี้ คณะอนุกรรมการพิจารณาค่าผ่านทางพิเศษจะต้องนำกรอบดังกล่าวไปเจรจากับบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BECL) และบริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด (NECL) ซึ่งเป็นคู่สัญญา จากนั้นให้นำผลการเจรจามาเสนอคณะกรรมการ กทพ. อีกครั้งก่อนที่จะได้รายงานไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อออกประกาศกระทรวงฯ และนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อทราบต่อไป ทั้งนี้ การปรับอัตราค่าผ่านทางสำหรับทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1) ทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2 ) และทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา-ชลบุรี) จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2556 ส่วน ทางพิเศษอุดรรัถยา(สายบางปะอิน-ปากเกร็ด) จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2556 เป็นต้นไป
โดยการปรับอัตราค่าผ่านทางพิเศษศรีรัช เป็นไปตามสัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 ที่ กทพ. ได้ลงนามกับBECL เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2531 โดยในสัญญาฯ กำหนดให้วันที่ 1 มีนาคม 2541 และทุกระยะเวลา 5 ปี นับจากนั้น เป็นวันพิจารณาปรับอัตราค่าผ่านทางฯ และให้อัตราค่าผ่านทางที่ปรับใหม่ มีผลบังคับใช้ภายใน 6 เดือน นับแต่วันพิจารณาปรับอัตราค่าผ่านทาง ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการปรับอัตราค่าผ่านทางมาแล้ว 3 ครั้ง คือ ในปี 2541, 2546 และ ปี 2551 โดยการปรับอัตราค่าผ่านทางในครั้งนี้ นอกจากจะยึดหลักการตามสัญญาฯ แล้ว กทพ. ยังได้นำความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุดในการปรับค่าผ่านทางทั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมานำมาพิจารณาประกอบด้วย ซึ่งรวมถึงการปรับอัตราค่าผ่านทางพิเศษตามสัญญาโครงการทางพิเศษอุดรรัถยา และทางพิเศษบูรพาวิถีด้วย
ด้านนายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการฯกทพ. กล่าวว่า การปรับอัตราค่าผ่านทางไม่ใช่การขึ้นราคา หากแต่เป็นการปรับเพื่อให้อัตราค่าผ่านทางพิเศษในปัจจุบัน คงมูลค่าที่แท้จริงของอัตราค่าผ่านทางพิเศษเดิม ณ วันที่เปิดใช้งาน โดยปรับบนพื้นฐานอัตราเพิ่มของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สำหรับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่นำดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมีนาคม 2551 (93.90) เทียบกับเดือนมีนาคม 2556 (104.76) มาคำนวณ หาอัตราเพิ่มได้ 11.57 % นำไปคูณอัตราค่าผ่านทางเดิมแล้วปัดให้ลงท้ายด้วย 0 หรือ 5
สำหรับอัตราค่าผ่านทางใหม่ โครงข่ายในเขตเมือง (ทางพิเศษเฉลิมมหานคร : ดินแดง-ท่าเรือ, บางนา-ท่าเรือ, ดาวคะนอง-ท่าเรือ, ทางพิเศษศรีรัช ส่วน A และ B : พญาไท-พระราม 9, พญาไท-บางโคล่) จะปรับอัตรา ค่าผ่านทางสำหรับรถ 4 ล้อ จากเดิม 45 บาท เป็น 50 บาท รถ 6-10 ล้อ จากเดิม 70 บาท เป็น 75 บาท และรถมากกว่า 10 ล้อ จากเดิม 100 บาท เป็น 110 บาท ตามลำดับ
ส่วนโครงข่ายนอกเขตเมือง(ทางพิเศษศรีรัช ส่วน C และ D) จะปรับเฉพาะทางพิเศษศรีรัช ส่วน D(ถนนพระราม 9- ถนนศรีนครินทร์) สำหรับ รถ 6-10 ล้อ จากเดิม 50 บาท เป็น 55 บาท และรถมากกว่า 10 ล้อ จากเดิม 70 บาท เป็น 75 บาท ตามลำดับ สำหรับทางพิเศษอุดรรัถยาและทางพิเศษบูรพาวิถี จะพิจารณาตามหลักเกณฑ์และสัญญาที่เกี่ยวข้องด้วยเช่นเดียวกัน
