- สเปนสามารถขายพันธบัตรรัฐบาลอายุ 6 และ 12 เดือน มูลค่ารวม 4.047 พันล้านยูโร ด้วยอัตราผลตอบแทน 0.492% ลดลงจาก 0.53% สำหรับตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือน และอัตราผลตอบแทน 0.994% ลดลงจาก 1.235% สำหรับตั๋วเงินคลังอายุ 12 เดือน
- ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีในเดือนพฤษภาคมปรับขึ้นมาอยู่ที่ 36.4 จาก 36.3 ในเดือนก่อน โดยดัชนีภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันปรับลดลงสู่ระดับ 8.9 จากเดิม 9.2 จุด ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นของเยอรมนียังอยู่ในระดับที่ทรงตัวตรงข้ามกับภาวะเศรษฐกิจในภูมิภาคที่ยังคงย่ำแย่ลง
- ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนในเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.0% จากเดือนก่อน เป็นการขยายตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันจากผลผลิตภาคพลังงานที่เพิ่มขึ้น 3.8%
- รมว.คลังเยอรมนีเชื่อมั่นว่า สโลวาเนียไม่จำเป็นต้องขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากยูโรโซน เนื่องจากสโลเวเนียสามารถแก้ปัญหาภายในได้เอง และอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรเริ่มลดลงแล้ว ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีของสโลเวเนียได้ออกมาตรการแก้ปัญหาการขาดดุลงบประมาณด้วยการขึ้นภาษี และเพิ่มทุนให้กับธนาคารวงเงิน 900 ล้านยูโร
- ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในอังกฤษประจำเดือนเม.ย.อยู่ที่ระดับ 1 จุด จากระดับ -2 จุดในเดือนก่อน เป็นการกลับขึ้นมาอยู่ในระดับบวกครั้งแรกในรอบ 3 ปี ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา
- ราคาสินค้านำเข้าของสหรัฐในเดือนเม.ย.ปรับลดลง 0.5% จากที่ลดลง 0.2% ในเดือนก่อน เนื่องจากราคาปิโตรเลียมที่ลดลง 1.9% จากเดือนก่อน และสินค้าที่ไม่ใช่ปิโตรเลียมที่หดตัวลง 0.2% ขณะที่ราคาสินค้าส่งออกในเดือนเม.ย.ปรับลดลง 0.7% จากที่ลดลง 0.5% ในเดือนก่อน เนื่องจากราคาส่งออกสินค้าเกษตรที่หดตัว 2.2% และราคาสินค้านอกภาคเกษตรหดตัว 0.5%
- มอร์แกน สแตนลีย์ ประเมินว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 8.2% ในปีนี้ โดยคาดว่าความไม่แน่นอนต่อการเติบโตของเศรษฐกิจจีนจะยังมีอยู่ในครึ่งปีแรก แต่ในครึ่งปีหลังจะขยายตัวมากขึ้นจากปัจจัยสนับสนุนของการผ่อนคลายนโยบายการเงิน
- อัตราเงินเฟ้อของอินเดียในเดือนเม.ย.อยู่ที่ 4.89% ลดลงจากระดับ 5.96% ในเดือนก่อน เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 41 เดือน ช่วยลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อลง ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารกลางอินเดียมีช่องว่างเพียงพอสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงได้อีก ทั้งนี้ ธนาคารกลางอินเดียได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมาแล้ว 3 ครั้งในปีนี้
- นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง รายงานต่อครม.ว่า ค่าเงินบาทที่ระดับ 29 บาทปลาย ถึง 30 บาทต่อดอลลาร์ ถือเป็นระดับที่เหมาะสมและภาคเอกชนยอมรับได้ สำหรับเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายนั้น เชื่อว่า ธปท.และกนง.เข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี และทุกภาคส่วนเชื่อมั่นว่า ธปท.จะดูแลให้ค่าเงินบาทมีเสถียรภาพมากที่สุด ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้ฝากให้รมว.คลัง ประชุมร่วมกับภาคเอกชนอย่างต่อเนื่องเพื่อดูแลผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าในปีนี้
- SET Index ปิดที่ 1,623.48 จุด เพิ่มขึ้น 5.75 จุด หรือ +0.36% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 50,774.99 ล้านบาท โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวในแดนบวกตลอดทั้งวัน จากปัจจัยบวกของผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ที่ยังคงเติบโตในระดับที่แข็งแกร่ง
- ตลท. เปิดเผยว่า มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai ในเดือนเม.ย.เท่ากับ 53,853 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93.06%จากปีก่อน และในช่วง 4 เดือนแรกมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยเท่ากับ 61,817 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 102.48%จากปีก่อน จากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อเศรษฐกิจไทย และพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของนักลงทุน ขณะที่ในเดือนเม.ย.นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 19,830 ล้านบาท ทำให้ในช่วง 4 เดือนแรกนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 15,923 ล้านบาท โดยในตลาดหลักทรัพย์ภูมิภาคมีเพียงไทยและเกาหลีใต้เท่านั้นที่นักลงทุนต่างชาติมียอดขายสุทธิ
- อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลปรับเพิ่มขึ้นในทุกช่วงอายุตราสาร ประมาณ 0.00% ถึง +0.08% หลังการประชุมระหว่างกระทรวงการคลัง ธปท. และภาคเอกชน ไม่ได้มีการหารือถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อดูแลค่าเงินบาทแต่อย่างใด ทำให้แรงกดดันให้กนง.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเริ่มลดลง สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ (ILB) อายุ 15 ปี มูลค่า 15,000 ล้านบาท
- ธนาคารกลางอินโดนีเซียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.75% แม้ว่า ช่วงที่ผ่านมาข้อมูลเศรษฐกิจอินโดนีเซียจะอ่อนแอลง แต่มีความกังวลต่อแนวโน้มเงินเฟ้อที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตหลังรัฐบาลมีแผนที่จะปรับลดการชดเชยราคาน้ำมันในประเทศลง
- สำนักงานพลังงานสากล(IEA) รายงานว่า การค้นพบแหล่งน้ำมันแห่งใหม่ในทวีปอเมริกาเหนือเป็นปัจจัยสำคัญที่เปลี่ยนแปลงธุรกิจน้ำมันของโลก โดยแหล่งน้ำมันแห่งใหม่ในที่นี้ คือ Shale Gas ของสหรัฐ และ Oil sands ของแคนาดา ซึ่งจะทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันมีเพียงพอกับความต้องการของโลกในอนาคต และจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการกลั่น เก็บรักษา และขนส่งน้ำมันในอนาคต จนทำให้บริษัทน้ำมันต้องปรับแผนการลงทุนใหม่
- เฮดจ์ฟันด์เชื่อว่า ราคาทองคำจะยังลดลงได้อีก หลังจากนักลงทุนได้ถอนการลงทุนของจาก ETFs ทองคำรวม 20.8 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ ทำให้เฮดจ์ฟันด์ได้เพิ่มสัดส่วนการถือครองสถานะชอร์ตราคาทองคำมากขึ้นเป็น 67,374 สถานะ ณ วันที่ 7 พ.ค. เพิ่มขึ้น 6.4% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่ BlackRock บริษัทจัดการกองทุนที่มีมูลค่าสินทรัพย์สูงที่สุดในโลกยังคงเชื่อมั่นในราคาทองคำ โดยประธานบริษัทระบุว่า จะยังคงลงทุนในทองคำต่อไปเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน สอดคล้องกับความเห็นของ John Paulson ที่ยังคงมุมมองบวกต่อราคาทองคำ แม้ว่า กองทุนทองคำของเค้าจะขาดทุนกว่า 27% ในเดือนก่อน