- รัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ชาติ (G 7) เห็นพ้องว่าจะเดินหน้าปฏิรูปภาคธนาคารโดยจะจัดวางระบบต่างๆ เพื่อรับมือกรณีธนาคารมีปัญหาเพื่อปกป้องผู้เสียภาษี และยืนยันว่านโยบายการคลังกับการเงินควรมีเป้าหมายไปที่การแก้ปัญหาในประเทศ ไม่ใช่มุ่งปั่นค่าเงิน
- IMF เปิดเผยว่า กำลังจับตาสัญญาณกระแสเงินสดไหลเข้าในตลาดโลกอันเนื่องมาจากการผ่อนคลายทางการเงินอย่างใกล้ชิด เพราะอาจนำไปสู่ภาวะฟองสบู่ในสินทรัพย์หรือทำให้ตลาดเกิดใหม่บางที่ร้อนแรงเกินไป โดยขณะนี้มีสัญญาณบางอย่างแต่ยังไม่ถึงขั้นต้องออกประกาศเตือน
- ธ.กลางสหรัฐ กำลังร่างแผนการยุติโครงการเข้าซื้อพันธบัตรหรือการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) เดือนละ 85,000 ล้านดอลาร์ โดยจะดำเนินการอย่างระมัดระวังและเป็นขั้นตอนในทันทีที่มั่นใจว่ามีการสร้างงานมากขึ้นและเงินเฟ้อไม่สูงเกินไป ส่วนจะเริ่มลดปริมาณการซื้อพันธบัตรเมื่อไรนั้น เป็นสิ่งที่กำลังหารือกัน
- ก.คลังสหรัฐ เปิดเผยว่า รัฐบาลเกินดุลงบประมาณ 1.129 แสนล้านดอลลาร์ในเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นยอดเกินดุลรายเดือนที่สูงที่สุดในรอบ 5 ปี โดยมีรายได้ 4.067 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 28% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 2.938 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13.1% อย่างไรก็ตาม สหรัฐมักจะมียอดเกินดุลในเดือน เม.ย. เนื่องจากชาวอเมริกันหลายคนยื่นขอคืนภาษี
- กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC)เพิ่มผลผลิตน้ำมันดิบในเดือน เม.ย. สู่ระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน เนื่องจากซาอุดิอาระเบียเพิ่มการผลิต ขณะที่คาดการณ์การขยายตัวของความต้องการน้ำมันโดยรวมยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เพราะแม้ว่าความต้องการจะขยายตัวน้อยกว่าคาดในไตรมาสแรก แต่คาดว่าปริมาณการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี
- รมว.คลังออสเตรเลีย กล่าวว่า เศรษฐกิจในประเทศขยายตัวได้แข็งแกร่งโดยมีอัตราว่างงานต่ำ มีลู่ทางการลงทุนขนาดใหญ่ มีเงินเฟ้อในระดับที่ควบคุมได้ และมีอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้ เศรษฐกิจออสเตรเลียกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ 2 ด้าน คือเปลี่ยนจากการลงทุนไปสู่ระยะการผลิตในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ และเปลี่ยนแปลงจากการพึ่งพาอุตสาหกรรมทรัพยากรไปเป็นการเติบโตของอุตสาหกรรมนอกกลุ่มเหมืองแร่
- ก.คลังญี่ปุ่น ระบุว่า หนี้ของรัฐบาลกลางลดลงเป็นประวัติการณ์ไปอยู่ที่ 991.6 ล้านล้านเยน ณ สิ้นเดือน มี.ค. และเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 4 ปี อย่างไรก็ตาม หนี้อาจสูงกว่า 1,100 ล้านล้านเยนในช่วงสิ้นปีงบประมาณปัจจุบันซึ่งจะสิ้นสุดในเดือน มี.ค. 2557 ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันให้กับนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ในการสรุปแผนปฏิรูปการคลังที่ชัดเจนอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
- พรรค PML ของ นาวาซ ชารีฟ อดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัยของปากีสถาน และหัวหน้าพรรค ครองที่นั่งมากที่สุดในการเลือกตั้งครั้งประวัติวัติศาสตร์ โดยการเลือกตั้งครั้งนี้มีประชาชนไปลงคะแนนเกือบ 60% ทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 30 ปี
- ชาวอิสราเอลกว่า 10,000 คนออกมาชุมนุมในเมืองเทลอาวีฟเพื่อประท้วงร่างงบประมาณปี 2556-2557 ซึ่งคาดว่าจะขึ้นภาษีเงินได้ 1.5% และขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม จาก 17% เป็น 18% โดยมาตรการดังกล่าวจะกระทบชนชั้นกลางและชนชั้นล่างของอิสราเอลอย่างหนัก
- ยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลภายในอินเดีย (ตัวชี้วัดสถานเศรษฐกิจโดยรวมของอินเดีย) ในเดือน เม.ย. ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 10.43% มาอยู่ที่ 150,789 คัน เป็นการลดลงรายเดือนติดต่อกันยาวนานถึงหกเดือน เพราะต้นทุนการกู้ยืมสูง ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจตกต่ำอย่างรวดเร็ว และราคาพลังงานสูงขึ้น ทำให้ผู้ซื้อไม่ซื้อรถยนต์
- ก.กลยุทธ์และการคลังเกาหลีใต้ ประกาศว่า เกาหลีใต้วางแผนดึงงบประมาณรายจ่ายพิเศษในสัดส่วน72.4% (3.9 ล้านล้านวอน จากวงเงิน 5.4 ล้านล้านวอน) มาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ที่กำลังซบเซาโดยเร็วที่สุดในช่วงครึ่งแรกของปีนี้
- ธนาคารกลางเวียดนามเตรียมลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะชะลอตัวครั้งเลวร้ายที่สุดตลอดช่วง 13 ปี โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาความลำบากด้านการผลิตของภาคธุรกิจ และจัดการกับสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพื่อให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
- ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่า ธปท. เปิดเผยว่า ขณะนี้ กนง. กำลังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจในการประชุมวันที่ 29 พ.ค. ซึ่งหากเศรษฐกิจไม่ร้อนแรงและเข้าสู่ภาวะปกติ ก็อาจจะมีการผ่อนคลายอัตราดอกเบี้ยลงได้ และหวังว่าการประชุมกับรัฐบบาลและภาคเอกชนในวันนี้จะไม่ใช่การเพิ่มแรงกดดันให้ กนง. ต้องลดอัตราดอกเบี้ย
- สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ปรับประมาณการเศรษฐกิจอุตสาหกรรมใหม่ โดยคาดว่า GDP อุตสาหกรรมในปีนี้จะขยายตัว 5-6 % และดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) จะขยายตัว 3.5-4.5 %โดยได้ลดเดิมที่ประมาณการไว้เมื่อเมื่อเดือน ก.พ.ว่า GDP อุตสาหกรรมจะขยายตัว 5.5 % และ MPI จะขยายตัว 4 % เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงจากการส่งออกที่มีแนวโน้มชะลอตัวจากเศรษฐกิจโลกที่ยังมีปัญหา รวมทั้งต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นจากการปรับค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาท กับค่าเงินบาท และแรงกดดันจากนโยบาย QE ของสหรัฐและญี่ปุ่น
- SET Index ปิดที่ 1,622.48 จุด เพิ่มขึ้น 1.36 จุด หรือ 0.08% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 50,644.04 ล้านบาทโดยดัชนีเแกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบเคลื่อนไหวสลับบวกและลบจากแรงขายทำกำไร ประกอบกับตลาดยังไร้ปัจจัยใหม่ๆ เข้ามา
- อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลปรับลดลงต่อเนื่องจากวันก่อน โดยลดลง -0.04% ถึง -0.01% จากการคาดว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในการประชุม กนง.ในวันที่ 29 พ.ค. สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 14 วัน มูลค่า 30,000 ล้านบาท
- Marc Faber
“จะให้มีสัญญาณเตือนอะไรถ้าตลาดหุ้นจะพังลงมา ในเมื่อตลาดหุ้นสหรัฐเคยพังลงมา 21% ภายในวันเดียวในปี 1987 ตลาด Nasdaq ก็โดนในปี 2000 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นก็เจอมาแล้วในปี 1989 และในปี 2007 ตลาดหุ้นทั่วโลกก็พังครืนลงมาได้ 50% โดยไม่มีสัญญาณอะไรเตือน เราไม่รู้ล่วงหน้าว่ามันจะเกิดขึ้นวันไหน เรารู้แต่ว่าบางเรื่องก็ทำให้ตลาดขึ้นเสมอ บางเรื่องก็ทำให้ลง และราคาหุ้นในวันนี้เมื่อเทียบกับปี 2007 มันขึ้นไปแล้วถึง 100% ซึ่งไม่ใช่ราคาถูกๆ อีกต่อไปแล้ว
ตลอด 40 ปีที่ผมทำงานทั้งในฐานะนักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุน ผมไม่เคยเห็นว่าตลาดของ สินทรัพย์ต่างๆ จะไม่เป็นไปตามเศรษฐกิจที่แท้จริง วันนี้ราคาสินทรัพย์ในตลาดสูงเสียดฟ้า ในขณะที่เศรษฐกิจของคนเดินดินตกต่ำเหมือนอยู่ในถังขยะ รายได้ของเขาเมื่อหักเงินเฟ้อกำลังลดต่ำลงไปเรื่อยๆ แต่ราคาสินทรัพย์กลับสูงขึ้นๆ ผมว่าตลาดจะต้องพังลงมาสักวัน
ไม่มีใครรู้ว่าเวลาไหนถึงจะดีที่จะซื้อทองคำ ผมพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าผมซื้อทองคำทุกเดือน และในช่วงที่ราคาทองคำร่วงลงมาล่าสุดนี้ผมก็ซื้อเพิ่มที่ $1,400 / ออนซ์ ที่ $1,300 / ออนซ์ และผมก็ส่งคำสั่งซื้อไว้ที่ $1,200 และ $1,100 / ออนซ์ ซึ่งผมจะไม่ยอมขายทองคำออกไปเป็นอันขาด
ผมมีสัดส่วนสูงสุดของทองคำในพอร์ตโฟลิโอของผมที่ 25% ที่เหลือ 75% ผมแบ่งไปลงทุนในตราสารหนี้เอกชนกับถือเงินสด 25% หุ้น 25% และอสังหาริมทรัพย์ 25% ผมเชื่อว่านี่เป็นการจัดสรรเงินลงทุนที่รอบคอบและผลโดยรวมจะสามารถชดเชยได้หากราคาทองคำหรือสินทรัพย์อื่นๆ ที่ลงทุนจะตกลงไป และแม้ว่าผมจะรู้สึกว่าสัดส่วนหุ้น 25% ในวันนี้อาจจะสูงไปเมื่อเทียบกับราคาแพงๆของหุ้น แต่ผมก็ต้องการรักษาสัดส่วนพอร์ตไว้อย่างนี้”