xs
xsm
sm
md
lg

ไตรมาส 2 สินค้าจ่อขึ้นราคา-ชี้ชะตาเอสเอ็มอีปิดกิจการชัดขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ภาคการผลิตยอมรับไตรมาส 2 ยังมีโอกาสสินค้าจะขยับราคาอีกหลังภาระค่าแรง 300 บาทต่อวันยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ผสมโรงวัตถุดิบที่แพงทำให้ผู้ผลิตแบกต้นทุนไม่ไหว จับตาเอสเอ็มอีจะเห็นชัดขึ้นว่าเจ๊งมากน้อยเพียงใด ชี้จะเอาตัวเลขจริงยากเหตุไม่มีใครอยากปิดกิจการทันทีเหตุขั้นตอนทางบัญชียุ่งยาก


นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ไตรมาส 2 ยังมีโอกาสที่ผู้ประกอบการธุรกิจ อุตสาหกรรมจะปรับราคาสินค้าในประเทศเพิ่มขึ้นอีกตามภาระต้นทุนที่สูงโดยปัจจัยหนึ่งมาจากการปรับขึ้นค่าแรง 300 บาทต่อวันทั่วประเทศเพื่อให้ครอบคลุมกับต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาถือว่าค่าแรงได้ปรับขึ้นแบบก้าวกระโดดแต่การปรับราคาสินค้าไม่สามารถขยับขึ้นได้ทั้งหมด

“ผู้ผลิตที่มีต้นทุนสูงมากและคิดว่าไม่ไหวยังไงก็ต้องดิ้นรนปรับสินค้าขึ้นซึ่งผมคิดว่ายังมีอยู่อีกระดับหนึ่งแม้ที่ผ่านมาได้ขึ้นราคาไปบ้างแล้วแต่ยังไม่มากพอกับภาระที่เพิ่มขึ้น และถ้ารายใดขึ้นไม่ได้แต่ต้นทุนรับไม่ไหวอันนี้ก็ต้องยอมรับสภาพว่าจะต้องปิดตัวไปซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) รัฐเองก็จะต้องควบคุมสินค้าที่เป็นพื้นฐานต่อการดำรงชีวิต อะไรไม่ใช่ก็ต้องปล่อยเขา และควรดูว่ารายจ่ายของประชาชนที่เพิ่มขึ้นจากค่าแรงเทียบกับสินค้าแล้วอะไรสูงกว่ากัน ถ้าสินค้าสูงกว่าก็ควรจะเข้าไปคุมด้วย” นายวัลลภกล่าว

สำหรับผลกระทบค่าแรง 300 บาทต่อวัน คาดว่าปลายไตรมาส 2 จะเห็นผลชัดเจนมากขึ้นว่าจะกระทบต่อผู้ประกอบการโดยเฉพาะเอสเอ็มอีมากน้อยเพียงใด เนื่องจากช่วงไตรมาสแรกจะเป็นการปรับตัวของผู้ประกอบการเป็นส่วนใหญ่และแต่ละรายเองก็พยายามจะประคองให้อยู่รอด แต่บางรายที่ปิดกิจการไปแล้วก็พบว่ามีพอสมควร แต่ภาพรวมส่วนใหญ่มีปัญหาขาดทุนสะสมก่อนหน้าพอมีค่าแรงขึ้นจึงผลักดันให้ต้องปิดกิจการทันที

นายสมมาต ขุนเศษฐ รองประธาน ส.อ.ท.กล่าวยอมรับว่า ขณะนี้เอสเอ็มอีไตรมาสแรกที่ปิดกิจการมีให้เห็นกันไปพอสมควรแล้ว แต่คิดว่าภาพจะชัดเจนมากขึ้นไปเรื่อยๆ จากนี้ไปคงจะต้องติดตามใกล้ชิด ดังนั้น อยู่ที่ภาครัฐว่าจะสามารถเข้ามาเยียวยาเอสเอ็มอีเหล่านี้ได้ทันเหตุการณ์หรือไม่ ซึ่งภาพรวมเวลานี้ภาระต้นทุนรวมเอกชนสูงขึ้นจากหลายปัจจัยทั้งวัตถุดิบที่ราคาแพงขึ้นโดยเฉพาะภาคเกษตร ค่าแรง จึงมีโอกาสที่จะผลักดันให้ภาคการผลิตต้องดิ้นทุกทางและที่สุดก็จะหนีไม่พ้นการปรับขึ้นสินค้าซึ่งจะเป็นทางเลือกสุดท้ายซึ่งเชื่อว่าการขึ้นราคาสินค้าในไตรมาส 2 บางประเภทจะยังมีให้เห็นอยู่

นายยุทธพงศ์ จีรประภาพงศ์ ประธาน ส.อ.ท.ภาคเหนือกล่าวว่า การปิดกิจการเอสเอ็มอียังไม่เห็นผลชัดนักขณะนี้เรากำลังรวบรวมปลาย เม.ย.นี้คงจะได้ข้อมูลภาพรวมทั้งหมด สาเหตุหนึ่งคือ เอสเอ็มพยายามประคองธุรกิจด้วยการทำบัญชีแบบไม่มีผลประกอบการเพราะไม่ต้องการปิดกิจการทันทีที่จะต้องไปแจ้งกับกระทรวงพาณิชย์ที่มีขั้นตอนยุ่งยาก และหากปิดทันทีก็จะต้องจ่ายเงินชดเชยธุรกิจส่วนใหญ่จึงพยายามประคองให้อยู่ไปก่อนและค่อยๆ ทยอยลดคนและค่อยเลิกกิจการเมื่อทนไม่ไหวจริงๆ

“เชียงใหม่ตอนนี้แรงงานย้ายไปอยู่ภาคบริการหมดเพราะห้างฯ เปิดตัวเพิ่มมากทำให้ธุรกิจต้องจ่ายค่าแรงเพิ่มมากกว่าปกติด้วยซ้ำในบางอย่างเช่น ภาคก่อสร้างพนักงานฉาบปูน ต้องจ่ายกัน 500 บาทต่อวันก็มีเพราะค่าแรงผลักดันให้เพิ่มขึ้นไปทั้งระบบมาก” นายยุทธพงศ์กล่าว

นายทวี ปิยพัฒนา รองประธานอาวุโส ส.อ.ท.กล่าวว่า ส่วนของอุตสาหกรรมอาหารทะเลมีปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบหนักสุด ต้นทุนค่าแรง และบาทแข็งก็เข้ามากระทบภาพรวมทำให้ไทยไม่สามารถปรับราคาสินค้าต่างประเทศได้และตลาดในประเทศจึงแข่งขันสูงการขึ้นราคายังทำได้ยากมากแต่ถ้าที่สุดทนไม่ไหวจริงก็คงจะหนีไม่พ้นว่าจะต้องปรับขึ้นแน่ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเมื่อไหร่
กำลังโหลดความคิดเห็น