“นายกฯ ปู” เผย ครม.เห็นชอบ 3 มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากค่าแรง 300 บาท ส่วนอีก 2 มาตรการให้นำกลับไปศึกษาใหม่ ย้ำค่าจ้าง 300 บาทช่วยแรงงานมีรายได้เพิ่ม กระตุ้นการบริโภคในประเทศ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการพิจารณามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการหลังปรับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันว่า ครม.ได้พิจารณามาตรการการดูแลช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอี โดยมาตรการหลักๆ ที่จะดูแลคือ 1. มาตรการที่ภาครัฐจะไปใช้บริการต่างๆ ในเอสเอ็มอี เพื่อช่วยเสริมสร้างรายได้ 2. มาตรการด้านภาษีที่จะช่วยลดรายจ่าย และ 3. เรื่องดอกเบี้ย หรือเงินทุนหมุนเวียน เพื่อเพิ่อประสิทธิภาพในการทำงานและผลผลิตที่ดีขึ้น ส่วนอีก 2 มาตรการที่กระทรวงแรงงานเสนอมานั้น ครม.ให้นำกลับไปพิจารณาทบทวนใหม่
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ทั้ง 3 มาตรการนี้ถือว่าเป็นมาตรการใหญ่ ซึ่งตนได้สั่งการให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงอุตสาหกรรมเข้าไปดูบางบริษัทที่มีการเลิกจ้าง ทั้งผู้ถูกเลิกจ้าง และระดับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีว่ามีปัญหาอะไร วันนี้เรามีความห่วงใยทุกบริษัทที่ต้องหยุดกิจการ โดยเราจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูในเนื้อหารายละเอียดว่าผลประกอบการที่ผ่านมาเป็นอย่างไร เพื่อที่จะได้เข้าไปช่วยเหลือเป็นรายเฉพาะบริษัท
ผู้สื่อข่าวถามว่าบริษัทที่ปิดกิจการไปมีสาเหตุมาจากการขึ้นค่าแรง 300 บาทตามนโยบายของรัฐบาลหรือไม่นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ค่าแรง 300 บาทประกาศปรับขึ้นตั้งแต่ 1 ม.ค. ส่วนจะมีผลพวงจากการขึ้นค่าแรงหรือไม่อย่างไรนั้น นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงชการคลังเข้าไปดูในเนื้อหารายละเอียดแล้ว อย่างไรก็ตามการปิดกิจการไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไร เราต้องคงเข้าไปดูว่าจะทำอย่างไร และจะให้ความร่วมมือการช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง จะต้องเข้าใจปัญหาต่างๆ ได้อย่างแท้จริง เพราะบางครั้งมีหลายสาเหตุด้วยกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะอธิบายอย่างไรว่าการปิดกิจการของบริษัทต่างๆ ไม่ได้มาจากผลกระทบการขึ้นค่าแรง 300 บาท น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า จะให้กระทรวงพาณิชย์เข้าไปดูในรายละเอียด และดูสถิติปริมาณบริษัทที่ถูกปิดกิจการในแต่ละปีมาประกอบ เพื่อชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบ เมื่อถามย้ำว่ารัฐบาลมั่นใจใช่หรือไม่ว่าการขึ้นค่าแรง 300 บาทจะมีประโยชน์ในอนาคต น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ยืนยันว่าการขึ้นค่าแรง 300 บาทมีประโยชน์ทั้งสองส่วน คือ จะช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานเพื่อให้มีรายได้ที่เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ และระยะยาวทำให้การบริโภคต่างๆ ในประเทศดีขึ้น ซึ่งในช่วงรอยต่อก็ต้องดูในเรื่องผลกระทบที่มีการปรับตัวควบคู่กันไป
ส่วนกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีมีการร้องขอให้รัฐบาลช่วยเหลืออะไรบ้างนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า วันนี้เราได้ตอบรับหลายๆ มาตรการที่ขอมาแล้ว ซึ่งจะให้รองนายกรัฐมนตรีหารือกับภาคเอกชน กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีอีกครั้งหนึ่งว่าจากมาตรการที่รัฐบาลออกไปยังมีอะไรอีกบ้างที่จะร่วมมือกันทำงานต่อไป ซึ่งในระยะยาวเราต้องมองว่าจะทำอย่างไรให้เอสเอ็มอีมีรายได้เพิ่มขึ้น มากกว่าการไปลดค่าใช้จ่าย หรือการทดแทนเพราะตรงนี้จะไม่สามารถอยู่ได้ในระยะยาว เพราะระยะยาวคือจะทำอย่างไรให้ธุรกิจนี้อยู่ได้และแข่งขันได้ในอนาคต