รัฐบาลมั่นใจเศรษฐกิจปี 56 โตได้ 5% ได้แน่นอน “รมว.คลัง” แจงหลายสัญญาณบ่งชี้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหนุนสำคัญ ทั้งการลงทุน “ภาครัฐ-เอกชน” พร้อมส่งสัญญาณ “ค่าเงินบาท-ดอกเบี้ย” ไม่ผันผวน ยันขึ้นค่าแรง 300 บาทไม่กระทบเศรษฐกิจ
ภายหลังการประชุมคณะทำงานเพื่อติดตามวิกฤตเศรษฐกิจยุโรปนัดแรก ของปี 2556 ที่มีนายกรัฐมนตรีได้เป็นประธาน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากการรับฟังข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจจากหน่วยงานต่างๆ ยืนยันว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปีนี้ จะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5 ใกล้เคียงกับประมาณการที่สำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่ร้อยละ 5.5
ขณะที่การส่งออกในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2555 ขยายตัวร้อยละ 2.5 ฉะนั้น จึงมั่นใจว่าทั้งปีการส่งออกจะไม่ติดลบอย่างแน่นอน พร้อมกันนี้ ยังยืนยันเศรษฐกิจไทยยังคงมีเสถียรภาพ เพราะดุลการค้า ดุลบัญชีเดินสะพัดยังอยู่ในเกณฑ์ดี ทุนสำรองระหว่างประเทศยังมั่นคงที่ 181,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่าเงินบาทยังมีเสถียรภาพ และจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นถึง 21 ล้านคน
ดังนั้น จากการที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีมติเห็นชอบผ่านร่างกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลังนั้น จะส่งผลต่อเศรษฐกิจ และตลาดหุ้นทั่วโลกดีขึ้น โดยเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5 เช่นกัน เพราะการลงทุนภาครัฐ และการลงทุนภาคเอกชนจะขยายตัวดีขึ้น ขณะที่การส่งออกจะขยายตัวประมาณร้อยละ 9 ส่วนตัวเลขนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เดิมที่ 22.5 ล้านคน
ส่วนปัญหาการปรับขี้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทนั้น นายกิตติรัตน์ ยืนยันว่า จะไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมของไทย เพราะก่อนหน้านี้ ผู้ประกอบการได้ปรับตัวมาบ้างแล้ว ขณะที่รัฐบาลได้เตรียมมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำครั้งนี้แล้ว โดยในวันที่ 8 มกราคม 2556 จะเสนอมาตรการบางส่วนให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา
นอกจากนี้ นายกิตติรัตน์ ยังเชื่อว่าการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารแห่วประเทศไทยในขณะนี้ถือว่ามีเสถียรภาพ ค่าเงินบาท และอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ในระดับที่เหมาะสม ขณะที่เงินทุนไหลเข้าไม่ได้อยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง ซึ่งเชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะรักษาเสถียรภาพทางการเงินไม่ให้มีความผันผวนได้