ไซปรัสบรรลุข้อตกลงกับรมว.คลังยูโรโซนในวันนี้ เกี่ยวกับแผนของสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) สำหรับการให้ความช่วยเหลือทางการเงินวงเงิน 1 หมื่นล้านยูโร (1.3 หมื่นล้านดอลลาร์) โดยข้อตกลงนี้จะส่งผลให้มีการปิดกิจการธนาคาร Popular Bank of Cyprus หรือ Laiki ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่อันดับ 2 ของไซปรัส และจะทำให้ผู้ฝากเงินที่ไม่มีการค้ำประกัน (หรือเงินฝากในส่วนที่เกินกว่า100, 000 ยูโร) ต้องสูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก
ต่อไปนี้เป็นรายละเอียดของข้อตกลงที่อยู่ในแถลงการณ์ของรัฐมนตรีคลังยูโรโซน:-
1. จะมีการปิดกิจการ Laiki ในทันที ตามการตัดสินใจของธนาคารกลางไซปรัส และจะมีการดำเนินการตามกรอบการทำงานในการปิดกิจการธนาคาร (Bank Resolution Framework)
2. จะมีการแตกกิจการ Laiki ออกเป็น good bank และ bad bank โดยที่จะมีการปิดกิจการ bad bank ในอนาคต
3. จะมีการโอน good bank หรือสินทรัพย์ที่ดีใน Laikiเข้าไปอยู่ในธนาคาร Bank of Cyprus (BoC) ภายใต้กรอบการทำงานในการปิดกิจการธนาคาร หลังจากมีการรับฟังความเห็นจากคณกรรมการบริหารของ BoC และ Laiki โดยจะมีการนำเงิน 9 พันล้านยูโรจากมาตรการช่วยเหลือด้านสภาพคล่องฉุกเฉิน (ELA) ที่ได้รับจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อัดฉีดเข้าสู่ BoC ด้วย ส่วนเงินฝากที่ไม่มีการค้ำประกันใน BoC จะยังคงถูกอายัดไว้จนกว่าจะมีการเพิ่มทุนธนาคาร และหลังจากนั้นจะมีการดำเนินการต่อเงินฝากนี้ตามความเหมาะสม
4. คณะกรรมการกำหนดนโยบายของอีซีบีจะจัดหาสภาพคล่องให้แก่ BoC ภายใต้กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
5. จะมีการเพิ่มทุน BoC ผ่านทางการแปลงเงินฝากที่ไม่มีการค้ำประกันมาเป็นทุน โดยที่ผู้ถือหุ้นและผู้ถือหุ้นกู้จะมีส่วนร่วมในเรื่องดังกล่าว
6. การแปลงเงินฝากเป็นทุนในครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อทำให้สัดส่วนเงินกองทุนอยู่ที่ 9 % ภายในเวลาสิ้นสุดโครงการนี้
7. ผู้ฝากเงินที่มีการค้ำประกัน (หรือเงินฝากที่อยู่ต่ำกว่า100,000 ยูโร) ในธนาคารทุกแห่งจะได้รับความคุ้มครองอย่างเต็มที่ภายใต้กฎหมายของสหภาพยุโรป (อียู)
8. เม็ดเงินที่อยู่ในโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน (ในวงเงิน 1 หมื่นล้านยูโร) จะไม่ถูกนำมาใช้ในการเพิ่มทุน Laikiและ BoC
เยอรมนีชี้สภาไซปรัสไม่ต้องโหวตรับรองมาตรการช่วยเหลือทางการเงิน นายวูลฟ์กัง แชร์เบิล รมว.คลังของเยอรมนี เปิดเผยว่า รัฐสภาของไซปรัสไม่จำเป็นที่จะต้องอนุมัติข้อตกลงที่รัฐบาลทำกับผู้ปล่อยกู้ระหว่างประเทศในวันนี้สำหรับวงเงินช่วยเหลือ 1 หมื่นล้านยูโร
"คณะกรรมาธิการยุโรปแจ้งกับเราในวันนี้ว่า ได้มีการอนุมัติกฏหมายที่จำเป็นต่อการดำเนินการเหล่านี้แล้ว" เขาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังรมว.คลังยูโรโซนอนุมัติข้อตกลงช่วยเหลือไซปรัส
"การออกกฏหมายเพิ่มเติมจะจำเป็นก็ต่อเมื่อจะมีการหยิบยกประเด็นการเก็บภาษีเงินฝาก แต่ไม่จำเป็นสำหรับการปรับโครงสร้างธนาคาร"
นายแชร์เบิลกล่าวว่า ในทางกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎรของเยอรมนีไม่จำเป็นต้องลงมติต่อมาตรการช่วยเหลือในขั้นนี้ แต่การลงมติอาจมีขึ้นในสัปดาห์นี้ หากสมาชิกสภานิติบัญญัติต้องการให้มีแต่เขาเชื่อมั่นว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะได้รับการสนับสนุนด้วยเสียงข้างมากในสภาบุนเดสทากของเยอรมนี
นายคลอส เร็กลิ่ง ผู้อำนวยการกองทุนรักษาเสถียรภาพยุโรปซึ่งเป็นกองทุนช่วยเหลือของยูโรโซน เปิดเผยว่า ไซปรัสจะได้รับเงินช่วยเหลือระหว่างประเทศงวดแรกจากวงเงิน 1 หมื่นล้านยูโร ในช่วงต้นเดือนพ.ค.หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการต่างๆในเดือนเม.ย.
นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) กล่าวหลังการประชุมของรมว.คลังยูโรโซนว่า ตนจะแนะนำคณะกรรมการไอเอ็มเอฟว่า พวกเขาควรมีส่วนร่วมในโครงการช่วยเหลือ
ดังกล่าว แต่ไม่ได้ระบุจำนวนเงินที่เฉพาะเจาะจง
(ข่าวจาก สำนักข่าว รอยเตอร์)
T.Thammasak
ต่อไปนี้เป็นรายละเอียดของข้อตกลงที่อยู่ในแถลงการณ์ของรัฐมนตรีคลังยูโรโซน:-
1. จะมีการปิดกิจการ Laiki ในทันที ตามการตัดสินใจของธนาคารกลางไซปรัส และจะมีการดำเนินการตามกรอบการทำงานในการปิดกิจการธนาคาร (Bank Resolution Framework)
2. จะมีการแตกกิจการ Laiki ออกเป็น good bank และ bad bank โดยที่จะมีการปิดกิจการ bad bank ในอนาคต
3. จะมีการโอน good bank หรือสินทรัพย์ที่ดีใน Laikiเข้าไปอยู่ในธนาคาร Bank of Cyprus (BoC) ภายใต้กรอบการทำงานในการปิดกิจการธนาคาร หลังจากมีการรับฟังความเห็นจากคณกรรมการบริหารของ BoC และ Laiki โดยจะมีการนำเงิน 9 พันล้านยูโรจากมาตรการช่วยเหลือด้านสภาพคล่องฉุกเฉิน (ELA) ที่ได้รับจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อัดฉีดเข้าสู่ BoC ด้วย ส่วนเงินฝากที่ไม่มีการค้ำประกันใน BoC จะยังคงถูกอายัดไว้จนกว่าจะมีการเพิ่มทุนธนาคาร และหลังจากนั้นจะมีการดำเนินการต่อเงินฝากนี้ตามความเหมาะสม
4. คณะกรรมการกำหนดนโยบายของอีซีบีจะจัดหาสภาพคล่องให้แก่ BoC ภายใต้กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
5. จะมีการเพิ่มทุน BoC ผ่านทางการแปลงเงินฝากที่ไม่มีการค้ำประกันมาเป็นทุน โดยที่ผู้ถือหุ้นและผู้ถือหุ้นกู้จะมีส่วนร่วมในเรื่องดังกล่าว
6. การแปลงเงินฝากเป็นทุนในครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อทำให้สัดส่วนเงินกองทุนอยู่ที่ 9 % ภายในเวลาสิ้นสุดโครงการนี้
7. ผู้ฝากเงินที่มีการค้ำประกัน (หรือเงินฝากที่อยู่ต่ำกว่า100,000 ยูโร) ในธนาคารทุกแห่งจะได้รับความคุ้มครองอย่างเต็มที่ภายใต้กฎหมายของสหภาพยุโรป (อียู)
8. เม็ดเงินที่อยู่ในโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน (ในวงเงิน 1 หมื่นล้านยูโร) จะไม่ถูกนำมาใช้ในการเพิ่มทุน Laikiและ BoC
เยอรมนีชี้สภาไซปรัสไม่ต้องโหวตรับรองมาตรการช่วยเหลือทางการเงิน นายวูลฟ์กัง แชร์เบิล รมว.คลังของเยอรมนี เปิดเผยว่า รัฐสภาของไซปรัสไม่จำเป็นที่จะต้องอนุมัติข้อตกลงที่รัฐบาลทำกับผู้ปล่อยกู้ระหว่างประเทศในวันนี้สำหรับวงเงินช่วยเหลือ 1 หมื่นล้านยูโร
"คณะกรรมาธิการยุโรปแจ้งกับเราในวันนี้ว่า ได้มีการอนุมัติกฏหมายที่จำเป็นต่อการดำเนินการเหล่านี้แล้ว" เขาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังรมว.คลังยูโรโซนอนุมัติข้อตกลงช่วยเหลือไซปรัส
"การออกกฏหมายเพิ่มเติมจะจำเป็นก็ต่อเมื่อจะมีการหยิบยกประเด็นการเก็บภาษีเงินฝาก แต่ไม่จำเป็นสำหรับการปรับโครงสร้างธนาคาร"
นายแชร์เบิลกล่าวว่า ในทางกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎรของเยอรมนีไม่จำเป็นต้องลงมติต่อมาตรการช่วยเหลือในขั้นนี้ แต่การลงมติอาจมีขึ้นในสัปดาห์นี้ หากสมาชิกสภานิติบัญญัติต้องการให้มีแต่เขาเชื่อมั่นว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะได้รับการสนับสนุนด้วยเสียงข้างมากในสภาบุนเดสทากของเยอรมนี
นายคลอส เร็กลิ่ง ผู้อำนวยการกองทุนรักษาเสถียรภาพยุโรปซึ่งเป็นกองทุนช่วยเหลือของยูโรโซน เปิดเผยว่า ไซปรัสจะได้รับเงินช่วยเหลือระหว่างประเทศงวดแรกจากวงเงิน 1 หมื่นล้านยูโร ในช่วงต้นเดือนพ.ค.หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการต่างๆในเดือนเม.ย.
นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) กล่าวหลังการประชุมของรมว.คลังยูโรโซนว่า ตนจะแนะนำคณะกรรมการไอเอ็มเอฟว่า พวกเขาควรมีส่วนร่วมในโครงการช่วยเหลือ
ดังกล่าว แต่ไม่ได้ระบุจำนวนเงินที่เฉพาะเจาะจง
(ข่าวจาก สำนักข่าว รอยเตอร์)
T.Thammasak
