“แมคโดนัลด์” โหมตลาดอาหารมื้อเช้า หวังดันรายได้สัดส่วนมื้อเช้าขึ้น 50% ในปีนี้ แย่งอาหารทุกอย่าง เตรียมทยอยส่งเมนูอาหารราคาประหยัดดึงลูกค้า เปิดตัวแคมเปญใหญ่ แจกแมคมัฟฟินฟรี
น.ส.เพชรัตน์ อุทัยสาง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แมคไทย จำกัด ผู้บริหารร้านแมคโดนัลด์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะกระตุ้นการเข้าใช้บริการของลูกค้าในช่วงมื้อเช้าที่ร้านแมคโดนัลด์มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันพบว่าสัดส่วนรายได้จากอาหารเช้าของแมคโดนัลด์อยู่ที่ 15% ส่วนรายได้จากมื้อเที่ยงสัดส่วน 20% และมื้อเย็นอยู่ที่ 20% ส่วนที่เหลือจะเป็นช่วงของสแน็กไทม์ และทีไทม์
อย่างไรก็ตาม พบว่าตั้งแต่ที่แมคโดนัลด์ทำตลาดมื้อเช้ามาตั้งแต่ปี 2551 หรือประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีอัตราการเติบโตที่น่าพอใจ โดยยอดขายมื้อเช้าถึงปีที่แล้วเพิ่มขึ้นถึง 202% ส่วนยอดคนเข้าร้านช่วงเช้าเพิ่มขึ้น 148% ซึ่งยอดค่าใช้จ่ายช่วงเช้าของลูกค้าเฉลี่ย 100 บาทต่อบิล ใกล้เคียงและบางครั้งมากกว่ามื้อเที่ยงด้วย
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ พยามยามที่จะเปิดตัวเมนูและการสร้งงความคุ้มค่าด้านการใช้จ่ายให้กับลูกค้ามากขึ้น เพื่อแข่งกับคู่แข่งที่แมคโดนัลด์มองว่าอาหารทุกอย่างที่ผู้บริโภคทานตอนเช้าถือเป็นคู่แข่งทั้งหมด โดยมีเมนูบริการประมาณ 7-8 เมนู เริ่มตั้งแต่เวลา 06.00-11.00 น. เช่น แมคมัฟฟิน เริ่มที่ 25 บาท และโจ๊กหมูและโจ๊กไก่ราคา 29 บาท เป็นต้น ซึ่งเรานำเข้ามัฟฟินจากออสเตรเลีย ทั้งนี้แมคโดนัลด์มีร้านที่เปิดบริการเมนูเช้าประมาณ 139 สาขา รวมทั้งร้านที่เป็นไดร์ฟทรูด้วย 40 สาขา จากทั้งหมดในไทยที่มี 182 สาขา
ล่าสุดแมคโดนัลด์จัดแคมเปญ “National Breakfast Day” พร้อมกันกว่า 30 ประเทศทั่วโลกในภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลาง จำนวนกว่า 5,000 สาขา เพื่อให้ผู้บริโภคเห็นความสำคัญของอาหารเช้า โดยในประเทศไทยจะแจกซอสเซจ แมคมัฟฟิน วิทเอ้ก สาขาละ 1,000 ชิ้น ในวันที่ 18 มีนาคมนี้ จากสาขาที่มีบริการเมนูเช้า หรือรวมประมาณ 150,000 ชิ้น หรือทั้งแคมเปญจากทุกประเทศที่ร่วมรายการรวมกว่า 5 ล้านคน ซึ่งใช้งบประมาณเฉพาะในไทยประมาณ 40 ล้านบาท ซึ่งจะใช้สื่อประชาสัมพันธ์โฆษณาหลากหลาย รวมทั้งเฟซบุ๊กของแมคโดนัลด์ด้วยที่มีแฟนเพจมากกว่า 500,000 คน และหลังจากนั้นจะมีโปรโมชันอาหารเช้าอีกมากสำหรับลูกค้าตลอดทั้งปี และวันที่ 19 จะเป็นโปรโมชันเมนูยอดนิยมลด50% เช่น ลาเต้ คาปูชิโน ชาผลไม้
ทั้งนี้ ปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้รวมจากการทำตลาดมื้อเช้าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 50% และในส่วนของลูกค้าที่เข้าใช้บริการจะเพิ่มขึ้น 40%
สำหรับแมคมัฟฟินนี้ ถือเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมอย่างมากของแมคโดนัลด์ หลังจากที่เปิดตัวจำหน่ายมื่อ 42 ปีที่ผ่านมาเริ่มที่อเมริกา ซึ่งถึงขณะนี้จำหน่ายไปแล้วกว่า 12,000 ล้านชิ้น จาก 34,000 สาขาทั่วโลก ใน 119 ประเทศที่แมคโดนัลด์เปิดบริการ แต่ประเทศไทยถือว่าเป็นตลาดที่มีการเติบโตดีอย่างมากสำหรับยอดจำหน่ายแมคมัฟฟิน
สำหรับตลาดรวมอาหารจานด่วนหรือคิวเอสอาร์ในไทยนั้น น.ส.เพชรัตน์กล่าวว่า ที่ผ่านมาตลาดรวมโตเพียงหลักเดียวไม่มากนัก มาประมาณหลายปีแล้ว แต่ในส่วนของแมคโดนัลด์เองเติบโตสองหลักมาตลอด และคาดว่าปีนี้ตลาดรวมก็น่าจะดีขึ้นและแมคโดนัลด์เองก็เติบโต 2 หลักเช่นเดิม เนื่องจากผู้บริโภคมีรายได้เพิ่มขึ้นจากค่าแรง 300 บาท เป็นต้น ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการทำตลาดของผู้ประกอบการรายอื่นด้วย
