xs
xsm
sm
md
lg

ทุนญี่ปุ่นจีบ “โออิชิ” สยายปีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“โออิชิ” ปรับแผนสู่เป้าหมาย 30,000 ล้านบาทเร็วขึ้น เผยกลุ่มอาหารเล็งปรับสัดส่วนรายได้จากสแน็กเป็นร้านอาหารเพิ่มขึ้น ปีนี้ทุ่มอีก 650 ล้านบาท ผุดเพิ่มอีก 50 สาขาทุกแบรนด์ ดึง 4 พันธมิตรหลัก ระเบิดแคมเปญใหญ่ยาวทั้งปี

นายไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามเป้าหมายแผน 5 ปีที่เริ่มตั้งแต่ปี 2 ปีมาแล้วว่า โออิชิจะต้องมีรายได้รวม 30,000 ล้านบาท ภายในปี 2559 แบ่งเป็นกลุ่มอาหารรายได้ 13,000 ล้านบาท และกลุ่มเครื่องดื่มรายได้ 17,000 ล้านบาท และต้องมีสาขารวมที่ 275 สาขานั้น คาดว่าอาจจะทำได้เร็วกว่าเป้าหมายที่วางไว้ แต่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนสัดส่วนรายได้ในกลุ่มอาหารใหม่

จากเดิมที่กลุ่มอาหารจะมาจากภัตตาคาร และร้านอาหาร 8,000 ล้านบาท และมาจากกลุ่มสแน็ก อาหารแช่แข็ง แช่เย็น 3,000 ล้านบาท และส่งออกอีก 2,000 ล้านบาท คาดว่ากลุ่มสแน็กอาจจะยังทำไม่ถึงเป้าหมาย โดยจะปรับเป็นรายได้จากกลุ่มอาหารเพิ่มแทน ขณะที่สาขาตอนนี้ก็ทำได้ถึง 162 สาขาแล้ว คาดว่าสิ้นปีนี้จะมี 204 สาขา

“ถ้าเราทำรายได้เติบโตเฉลี่ย 30% ทุกปี ก็คงถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น เพราะถ้าถึงสิ้นปีนี้ทำได้สาขาของเราก็จะมีมากกว่า 204 แห่ง ซึ่งเกินครึ่งหนึ่งของเป้าหมายแล้วซึ่ปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้กลุ่มอาหารไว้ที่ 7,000 ล้านบาท เติบโต 30% จากปีที่แล้วเติบโต 27%” นายไพศาลกล่าว

โดยปีนี้เตรียมงบลงทุน 650 ล้านบาท เปิดสาขาใหม่ทุกแบรนด์รวม 50 สาขา มากกว่าปีที่แล้วที่ใช้งบ 500 ล้านบาท เปิดได้ 44 สาขา ซึ่งปีนี้จะเปิดชาบูชิมากสุด 20 สาขาซึ่งสัดส่วนรายได้มากสุดกว่า 55% แบรนด์นิคุยะ 10 สาขา และแบรนด์คาคาชิ 10 สาขา ที่เหลือหลายแบรนด์รวมกันเช่น โออิชิราเมน บุฟเฟต์ เป็นต้น รวม 7 แบรนด์

นอกจากนั้น ยังอยู่ระหว่างการศึกษาและพัฒนาแบรนด์ใหม่เกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่นและเซกเมนต์ของว่างที่กินได้ระหว่างวัน ซึ่งมีกลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่นสนใจลงทุนในไทยติดต่อมาทางบริษัทฯ จำนวนมาก เพราะไทยถือเป็นตลาดที่ดี อาหารญี่ปุ่นเติบโตมาก ส่วนที่ญี่ปุ่นเศรษฐกิจไม่ค่อยดี เขาจึงต้องขยายฐานออกไปสู่ประเทศอื่นๆ และไทยก็เป็นเป้าหมายหนึ่งด้วย ซึ่งเมื่อไม่นานนี้ผมก็ได้เป็นแขกรับเชิญให้ไปบรรยายให้กับนักธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นมากกว่า 300 รายที่จะเข้ามาทำตลาดในเมืองไทย และส่วนบริษัทเองก็ได้รับการติดต่อจากแบรนด์ต่างๆนี่ปุนมาทุกไตรมาสด้วย”

ตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยก็เติบโตดีเฉลี่ย 15% คาดว่าปีนี้ตลาดรวมน่าจะอยู่ที่ 20,000 ล้านบาท จากปีที่แล้รประมาณ 17,000 ล้านบาท โดยที่กลุ่มโออิชิมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 30% และคาดว่าภายในปี 2559 จะมีส่วนแบ่งมากกว่า 50%

นายไพศาลกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันโออิชิมีสาขาอยู่ในกรุงทพฯมากกว่าต่างจังหวัดซึ่งบางแบรนด์ยังมีแต่ในกรุงเทพฯเช่น คาคาชิ นิกุยะ เป็นต้น จึงยังมีโอกาสที่จะขยายได้อีก ซึ่งจากนี้ไปคงจะเน้นตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น เช่นหัวเมืองหลักเช่น โคราช มี 2 สาขา อุดรธานีมีชาบูชิ 3 สาขาแล้ว และหัวเมืองรอง เช่น มหาสารคาม ลำปาง เป็นต้น

ล่าสุดโออิชิใช้งบประมาณรวมกว่า 100 ล้านบาท จัดแคมเปญ “โออิชิ ฟลาย มี ทู แจแปน” กินได้ลด โซ้ยได้ลุ้น โชค 2 ชั้น มันถึงญี่ปุ่น และเป็นครั้งแรกที่รวมกับพันธมิตรรวดเดียว 4 รายใหญ่คือ กรุงศรีคอนซูเมอร์ เอไอเอส บัตรเครดิตกสิกรไทย บัตรเครดิตบัตรเดบิตแบงก์กรุบงเทพ และเป็นครั้งแรกที่จัดยาวทั้งปี ซึ่งลูกค้าบัตรของพันธมิตรทั้ง 4 มีสิทธิ์ลุ้นรับส่วนลดสูงถึง 15% ตามเงื่อนไข นอกจากนั้นแต่ละบัตรจะให้ลูกค้าร่วมลุ้นแพคเกจเที่ยวญี่ปุ่นตามเมืองต่างๆ และช่วงเวลาที่แตกต่างกันตามเงื่อนไขเช่นกัน

แคมเปญนี้เป็นแคมเปญใหญ่ คาดว่าจะสามารถเพิ่มยอดขายได้ประมาณ 15-20% ทั้งนี้จะทำให้โออิชิได้ฐานลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มด้วยจากผู้ถือบัตรของพันธมิตรที่มีจำนวนมาก เช่น ฐานลูกค้าของกรุงศรีคอนซูเมอร์มากกว่า 4 ล้านคน ฐานบัตรของกสิกรอีก 2 ล้าน 6 แสนรายของแบงก์กรุงเทพอีก 15 ล้านใบ และลูกค้าของเอไอเอสอีกกว่า 30 ล้านราย
กำลังโหลดความคิดเห็น