“โดล” แตกไลน์สแน็กฟูดส์ หนีวิกฤตยุโรปหันเจาะเอเชีย

โดลปรับแผนรับวิกฤตเศรษฐกิจอเมริกา-ยุโรป เร่งสยายปีกสร้างตลาดใหม่ ลุยพม่า ลาว จ่อศึกษาตลาดรับเออีซี พร้อมบุกหนักไทยแตกไลน์สินค้าใหม่สแน็กฟูดส์ขยายฐานลูกค้ากลุ่มผู้ใหญ่ มั่นใจปีหน้ากวาดรายได้ 530 ล้านบาท ลั่น 5 ปีรายได้แตะ 1,000 ล้านบาท

นายธนวิตต เจียมประภา ผู้อำนวยการสายงานธุรกิจผลไม้บรรจุสำเร็จ บริษัทไทย-อเมริกัน ฟู้ด จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลไม้บรรจุตราโดล เปิดเผยว่า ผลพวงจากวิกฤตเศรษฐกิจในอเมริกาและยุโรป ส่งผลให้ยอดขายของบริษัทลดลง 20% ทำให้บริษัทต้องเร่งทำตลาดภายในประเทศเพิ่มขึ้นและขยายตลาดใหม่ๆ เช่น รัสเซีย และเยอรมนี

ล่าสุดบริษัทได้ศึกษาการทำตลาดในประเทศกลุ่มอาเซียนในช่วง 1-2 ปีนี้ อาทิ ศึกษาระบบกระจายสินค้าต่างๆ เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยประเทศที่บริษัทได้รับสิทธิให้ทำตลาดคือ พม่า และลาว

สำหรับการทำตลาดในประเทศไทย ล่าสุดบริษัทได้วางนโยบายการดำเนินธุรกิจรุกตลาดเจาะกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปมากขึ้นจากสัดส่วน 10% เพิ่มเป็น 20% และฟูดส์เซอร์วิสเพิ่มจาก 20% เป็น 25% และในช่องทางอุตสาหกรรมซึ่งเคยเป็นตลาดใหญ่สัดส่วน 60% เหลือเป็น 55% พร้อมกันนี้ได้วางแผนแตกโปรดักต์ไลน์สแน็กฟูดส์เพื่อเป็นการต่อยอดจากการทำตลาดผลไม้บรรจุเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ใหญ่และวัยทำงาน โดยมีด้วยกัน 4 กลุ่ม ได้แก่ ผลไม้เคลือบโยเกิร์ต เคลือบช็อกโกแลต ฯลฯ

อย่างไรก็ตาม บริษัทต้องการให้ลูกค้าในประเทศรู้จักแบรนด์และยอมรับผลไม้บรรจุสำเร็จเพิ่มขึ้น จึงได้จัดกิจกรรม “โดล ส่งตรงความสดจากไร่ถึงมือคุณ” เพื่อสื่อสารถึงคุณประโยชน์ของสินค้า เนื่องจากมองว่ามีผู้ที่สนใจสารอาหารจากแหล่งธรรมชาติเพิ่มขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสทางการตลาดจากไลฟ์สไตล์ของคนที่เร่งรีบ และคนเริ่มยอมรับทั้งจากคุณภาพ และมีทัศนคติเชิงบวกต่อผลไม้บรรจุมากขึ้น ดังนั้นจึงมั่นใจว่าตลาดผลไม้บรรจุจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันมีมูลค่าตลาด 800 ล้านบาท

บริษัทตั้งเป้าหมายการรุกตลาดในปีหน้ามีรายได้ 530 ล้านบาท และในอีก 5 ปีข้างหน้ารายได้จะเติบโต 2 เท่าตัว หรือแตะราว 1,000 ล้านบาท จากรายได้ปีนี้ 290 ล้านบาท เติบโต 10% โดยโดลเป็นผู้นำตลาดในไทย มีส่วนแบ่งกว่า 90% เนื่องจากไม่มีคู่แข่งโดยตรงในตลาด ทั้งนี้ แม้ว่าบริษัทจะรุกตลาดภายในประเทศเพิ่มขึ้น แต่ยังคงสัดส่วนการทำตลาดในประเทศ 70% และต่างประเทศ 30% โดยรายได้ของบริษัทมาจากยุโรปสัดส่วน 80-85% และเอเชียสัดส่วน 15-20%ช่น ในประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ และจีน เป็นต้น