เริ่มแล้ว! นิทรรศการ “Thailand 2020” โชว์อภิมหาการลงทุนครั้งยิ่งใหญ่ 2 ล้านล้านบาท ก้าวใหม่เชื่อมไทยสู่โลก “ชัชชาติ” มั่นใจยุทธศาสตร์ลงทุนครั้งนี้เพิ่มขีดความสามารถแข่งขันประเทศในเวทีโลก “ยิงลักษณ์” ยืนยันการดำเนินการทั้งหมดรัฐบาลจะรักษาวินัยการเงินการคลัง ย้ำการทำงาน 1 ปีที่ผ่านมารัฐบาลพยายามรักษาบรรยากาศการเมืองแบบสร้างสรรค์ ทำให้ไทยได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนชาวต่างชาติ
รายงานข่าวแจ้งว่า การจัดงานนิทรรศการ Thailand 2020 ก้าวใหม่ เชื่อมไทยสู่โลก เพื่อชี้แจงและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและทุกภาคส่วนถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ 2 ล้านล้านบาท ได้เริ่มขึ้นแล้ว วันนี้ (8 มี.ค.) เป็นวันแรก และจะมีไปถึงวันที่ 12 มีนาคม 2556 ซึ่งการจัดนิทรรศการครั้งนี้เป็นการทำความเข้าใจเรื่องการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 2.2 ล้านล้านบาท เกี่ยวกับยุทธศาสตร์และแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของประเทศ รวมถึงยุทธศาสตร์และแผนระดมทุนสำหรับโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของประเทศและการบริหารจัดการโครงการ เพื่อเป็นการพัฒนาเครือข่ายขนส่ง สารสนเทศ พลังงานกับประเทศเพื่อนบ้าน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดนิทรรศการครั้งนี้เป็นไปตามยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศ ที่ต้องการเพิ่มศักยภาพการลงทุนเพื่อลดต้นทุนการขนส่ง รวมถึงการเดินทางที่สะดวกรวดเร็วขึ้น อีกทั้งต้องการสร้างความเชื่อมั่นจากนักลงทุนว่า ไทยมีโครงการลงทุนอย่างชัดเจน ประกอบกับต้องการรับฟังความเห็นของประชาชนและภาคเอกชนเกี่ยวกับโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อรวบรวมข้อมูลความเห็นเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนขอความเห็นชอบจากรัฐสภา
โดยแผนงานทั้งหมดจะใช้ระยะเวลา 7 ปี พร้อมยืนยันการดำเนินการทั้งหมดจะรักษาวินัยการเงินการคลัง ทั้งนี้ 1 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลพยายามรักษาบรรยากาศการเมืองแบบสร้างสรรค์ ทำให้ไทยได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนชาวต่างชาติ
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า แผนการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทเป็นการเตรียมประเทศไปสู่การแข่งขันและการเปิดรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งไทยไม่ได้มีการลงทุนขนาดใหญ่แบบนี้มานานแล้ว ซึ่งวงเงินที่ใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศครั้งนี้เชื่อว่าจะทำให้ไทยมีความพร้อมในการแข่งขันทางด้านการค้าการลงทุนในอนาคต
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เชื่อว่าการจัดงานครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ซึ่งจะทำให้ประเทศมีความสามารถในการแข่งขันได้มากขึ้น โดยรัฐบาลจะรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะต่างๆ ก่อนจะรวบรวมเพื่อปรับแผนยุทธศาสตร์การลงทุนเพื่ออนาคตประเทศไทยเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)
นายชัชชาติคาดว่า กระทรวงการคลังจะเสนอภายในวันที่ 12 หรือ 19 มีนาคม 2556 นี้ สำหรับโครงการก่อสร้างในแผนนี้กว่าร้อยละ 80 จะเป็นโครงการระบบราง โดยเฉพาะการก่อสร้างรถไฟทางคู่เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีอยู่เพียง 300 กิโลเมตร จากจำนวนเส้นทางรถไฟทั่วประเทศ 4,000 กิโลเมตร ก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง 4 เส้นทางทั่วประเทศ รวมทั้งโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมหัวเมืองต่างๆ อีกด้วย
ทั้งนี้ ยืนยันการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้จะทำให้ขีดความสามารถของประเทศเพิ่มขึ้น ลดต้นทุนด้านลอจิสติกส์ลงประมาณ 200,000 ล้านบาท หรือร้อยละ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในช่วง 7 ปีที่ทำโครงการ จากปัจจุบันต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของประเทศอยู่ที่ร้อยละ 15.2 ของจีดีพี ขณะที่จีดีพีของประเทศจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 1 ต่อปี ซึ่งรัฐบาลยืนยันจะดูแลหนี้สาธารณะไม่ให้เกินร้อยละ 50 ของจีดีพี
