นายกฯ ตรวจความพร้อมจัดนิทรรศการ Thailand 2020 ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ โชว์โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า-ความเร็วสูง-รางคู่ ด้วยงบ 2 ล้านล้าน หวังเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน ถือโอกาสเป็นประตูอาเซียน
วันนี้ (7 มี.ค.) ที่อาคารบี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถนนแจ้งวัฒนะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี อาทิ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และ รมว. ต่างประเทศ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม นายวราเทพ รัตนากร รมต.สำนักนายกฯ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมการจัดนิทรรศการ “นิทรรศการ Thailand 2020 ก้าวใหม่เชื่อมไทยสู่โลก การลงทุนของประชาชน...เพื่อประชาชน” ระหว่างวันที่ 8-12 มี.ค. โดยนายกฯ และคณะได้รับชม วิดีทัศน์ที่แสดงโครงการ ก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เช่น เส้นทางรถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ ด้วยวงเงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อสร้างอนาคตประเทศ พร้อมทั้งเดินตรวจพื้นที่จัดนิทรรศการ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดนิทรรศการดังกล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นการลุงทุนครั้งใหญ่ของประเทศ ที่ได้นำมาเสนอ ซึ่งก็อยากจะรับฟังข้อคิดเห็นของประชาชนและภาคเอกชน เกี่ยวกับการลงทุน 2 ล้านล้านนี้ และการจัดนิทรรศการครั้งนี้เป็นไปตามที่เคยเรียนไว้ในยุทธศาสตร์ประเทศ ว่าการลงทุนนี้เป็นสิ่งที่จะเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ที่ช่วยลดต้นทุนในการขนส่ง อีกทั้งประเทศไทยไม่ได้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่มานานแล้ว และจะเห็นได้ว่าจำนวนตัวเลขในเรื่องระบบขนส่งต่างๆ นั้นถือว่าน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้านในหลายๆที่ ซึ่งการลงทุนครั้งนี้เพื่อสร้างอนาคตประเทศ ที่จะทำให้ประชาชนที่เดินทางจากต่างจังหวัด มาถึ งตัวเมืองด้วยระยะเวลาที่เร็วขึ้น ด้วยระบบรถไฟที่ทันสมัยขึ้น
และการที่ประเทศไทยใช้เส้นทางคมนาคมทางบกมากถึงร้อยละ 80 ทำให้ต้องใช้พลังงานมาก รวมถึงอันตรายการเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งประเทศที่พัฒนาแล้วจะมีการใช้รถไฟ ทางเรือ ทางอากาศมากขึ้น ซึ่งสิ่งที่เราทำนี้จะทำให้ประชาชนมีทางเลือกมากขึ้น ซึ่งอยากเชิญชวนให้ประชาชนมาร่วมงานนี้ เพื่อรับฟังความเห็นของประชาชนและสามารถแสดงความคิดเห็นได้เลยเพราะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำอธิบายต่างๆ และหลังจากจัดนิทรรศการเสร็จแล้วก็จะนำรายละเอียดเข้าสู่คณะรัฐมนตรีและนำเข้าสู่รัฐสภาตามขั้นตอน
เมื่อถามว่าจะเรียกความเชื่อมั่นได้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า เราก็ต้องการเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุน เพราะการตอบรับของนักลงทุนจากที่ได้เดินทางไปยังประเทศต่างๆ เขาก็เห็นศักยภาพว่าประเทศไทยมีศักยภาพ หากเราประกาศการลงทุนที่เป็นโครงสร้างที่ชัดเจน สามารถตอบโจทย์รายได้ การลดค่าใช้จ่าย ทางด้านการเชื่อมต่อของเมืองต่าง ก็จะเป็นโอกาสที่นักลงทุนจะใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนในอาเซียน
เมื่อถามต่อว่า จากการเดินทางไปยังประเทศต่างๆ นักลงทุนในประเทศเหล่านั้นมองการเมืองประเทศไทยอย่างไร มองว่าเป็นอุปสรรค์ในการลงทุนหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่เข้ามาทำงานก็พยายามที่รักษาบรรยากาศการเมืองในประเทศและในวันนี้ บรรยากาศก็ถือว่าสร้างสรรค์และไม่มีความรุนแรง หลายประเทศได้ให้การตอบรับมีความเชื่อมั่นโดยจะเห็นได้จากอัตราของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา ซึ่งนิทรรศการนี้ก็ถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาว และประโยชน์ ที่กลับมาคือการเจริญที่ยังยืน ส่วนที่หลายฝ่ายมีความเป็นห่วงเรื่องหนี้สินนั้น พรุ่งนี้จะมีคำตอบ เพราะแผนงานทั้งหมดใช้เวลา 7 ปี ไม่ใช่ใช้เงินทีเดียวในปีแรก เราต้องยึดในหลักวินัยการเงินการคลัง และหนี้สาธารณะไม่เกินร้อยละ 50