xs
xsm
sm
md
lg

ธนาคารทั่วโลกหั่นคาดการณ์ราคาทอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

        ธนาคารขนาดใหญ่จำนวนมากขึ้นกำลังเปลี่ยนแปลงความเห็นเกี่ยวกับ การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของราคาทอง ขณะที่การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ได้บั่นทอนเหตุผลสำหรับการถือครองทองคำ  
        ทั้งนี้ หลังจากราคาทองปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 12 ปี  สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใกล้ระดับ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ในปี 2001  ราคาทองก็ได้ร่วงลงราว 18% จากระดับสูงสุด และขณะนี้อยู่ใกล้แนวรับทาง เทคนิคระยะยาวที่ 1,525 ดอลลาร์ ซึ่งทำให้นักลงทุนบางส่วนลดความสนใจในทองคำ    
        ขณะที่นักคาดการณ์ส่วนใหญ่ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์ในเดือน ม.ค.กล่าวว่า ราคาทองจะยังคงปรับตัวขึ้นในปี 2013 และ 2014 แม้ในอัตรา ที่ชะลอลงจากปีที่ผ่านๆมา แต่โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า  ราคาทองโดยเฉลี่ยจะลดลงในปีนี้    
        โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า "การร่วงลงของราคาทองในช่วงที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในขณะที่อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงของสหรัฐปรับตัวขึ้นอย่างค่อยเป็น ค่อยไป ซึ่งสะท้อนถึงข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีเกินคาด, ความเห็นในเชิงคุมเข้ม นโยบายมากขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในช่วงที่ผ่านมา, การลดลงของความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายของสหรัฐ และการคลายความวิตกต่อวิกฤติหนี้ยุโรป" 
        การคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจยกเลิกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เร็วกว่าคาดนั้นได้ส่งผลกระทบต่อนักลงทุนทอง โดยการดำเนินมาตรการ QE ได้สร้างแรงกดดันในช่วงขาลงต่ออัตราดอกเบี้ยซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนราคาทอง
        บีเอ็นพี พาริบาส์, เครดิต สวิส, ซิตี้กรุ๊ปและโซซิเอเต้ เจเนอราล คาดว่าราคาทองโดยเฉลี่ยจะลดลงในปี 2014 ซึ่งจะเป็นการลดลงต่อปีเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มการทะยานขึ้นในปี 2001
        บีเอ็นพี พาริบาส์ได้ปรับคาดการณ์ราคาทองในปี 2014 สู่ 1,595 ดอลลาร์จาก 1,775 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเวลา 3 วัน หลังจากโกลด์แมน แซคส์ปรับลดคาดการณ์ราคาทองปี 2014 ลงสู่ 1,450 
ดอลลาร์/ออนซ์จาก 1,750 ดอลลาร์
        แม้แต่ธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริลล์ ลินช์ ซึ่งยังคงมีความเห็นในเชิงบวกต่อทอง ก็ปรับลดคาดการณ์ราคาทองลงในสัปดาห์นี้ ขณะที่ยังคงคาดว่าราคาทองจะปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในปีหน้าสู่ระดับ  1,838 ดอลลาร์/ออนซ์ และคาดว่าราคาทองจะลดลงในปี 2015
        ราคาทองดิ่งลง 5% นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ และอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 1,647 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งต่ำกว่าระดับ 1,698 ดอลลาร์/ออนซ์ในช่วง 2 เดือนแรกของปีที่แล้ว และระดับเฉลี่ยโดยรวมที่ 1,668 ดอลลาร์/ออนซ์ ของปีที่แล้ว
        ขณะที่ไตรมาสแรกยังไม่สิ้นสุดลง แต่ราคาทองก็ส่งสัญญาณอ่อนตัวลงอีก โดยสัดส่วนการถือครองทองของกองทุน ETF ลดลงอย่างต่อเนื่องขณะที่สถานะซื้อสัญญาทองล่วงหน้าในสหรัฐอยู่ที่ระดับต่ำ และอุปสงค์ในตลาดส่งมอบปัจจุบันก็มีการขานรับอย่างเชื่องช้าต่อราคาที่ปรับตัวลง 
        ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นพุ่งขึ้นในช่วงต้นปีนี้ โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ทะยานขึ้น 7.3% นับตั้งแต่ต้นปีนี้จากความหวังว่า ความพยายามเพิ่มสภาพคล่องทั่วโลก เช่น มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณของเฟด กำลังบังเกิดผล
        เครดิต สวิสได้ปรับลดคาดการณ์ราคาทองโดยเฉลี่ยในปีนี้ลงสู่ 1,740 ดอลลาร์/ออนซ์ในช่วงต้นเดือนม.ค. จากระดับ 1,840 ดอลลาร์/ออนซ์ และคาดว่าราคาทองจะร่วงลงสู่ระดับ 1,720 ดอลลาร์/ออนซ์ในปีหน้า และ 1,500 ดอลลาร์/ออนซ์ในปี 2015 ขณะที่ซิตี้กรุ๊ปได้ปรับลดคาดการณ์ราคาทองในปีนี้ลงสู่ ระดับ 1,675 ดอลลาร์/ออนซ์ จากระดับ 1,750 ดอลลาร์/ออนซ์ที่คาดไว้ใน เดือนม.ค.
        ส่วนธนาคารอื่นๆก็ได้คาดว่าราคาทองจะร่วงลงอีก แม้แต่ธนาคารบางแห่ง  ซึ่งเคยคาดว่าราคาทองจะพุ่งขึ้นอย่างมากในปีนี้และปีหน้า ก็คาดว่าราคาเฉลี่ยจะร่วงลงหลังจากนั้น
        สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดคาดว่า ราคาทองจะอยู่ที่ 1,900 ดอลลาร์/ออนซ์ ในปีหน้า แต่คาดว่าราคาจะร่วงลงสู่ 1,700 ดอลลาร์/ออนซ์ในปี 2015 
        ดอยช์แบงก์ และมอร์แกน สแตนเลย์คาดการณ์เช่นเดียวกับแบงก์ ออฟ อเมริกาว่า ราคาทองจะพุ่งขึ้นในปีนี้และปีหน้า แต่คาดว่าราคาจะปรับฐานในปีถัดไป ขณะที่คาดว่าราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ 1,800 ดอลลาร์/ออนซ์ และ 1,750 ดอลลาร์/ ออนซ์ตามลำดับ
        ทั้งนี้ รายละเอียดการคาดการณ์ราคาทองของธนาคารต่างๆ เป็นดังนี้:-  (ดอลลาร์/ออนซ์)

         SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดของโลกเปิดเผยว่า สัดส่วนการถือครองทองของ SPDR ไม่เปลี่ยนแปลง โดยอยู่ที่ระดับ1,244.855 ตัน ณ วันที่ 6 มี.ค. หลังจากที่ลดลง 11 วันติดต่อกัน ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยการยุติการร่วงลงของราคาอย่างรวดเร็วอาจจะช่วยทำให้ราคาทองมีเสถียรภาพ
 (ข่าวจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
 
T.Thammasak
กำลังโหลดความคิดเห็น